ฮันซี ฟลิค กุนซือจอมแท็คติกของ บาร์เซโลน่า ออกมาแสดงความพึงพอใจอย่างชัดเจน หลังจากพาทีมฝ่าด่านหินอย่าง แอตเลติโก มาดริด ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ ได้สำเร็จ ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมทั้งในเกมรุกและเกมรับ พร้อมยกย่องลูกทีมที่ทำงานได้อย่างไร้ที่ติจนคว้าชัยชนะได้ตามเป้าหมาย
ในศึก โกปา เดล เรย์ รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา บาร์เซโลน่า ภายใต้การนำทัพของ ฮันซี ฟลิค ต้องออกไปเยือน แอตเลติโก มาดริด ในสนามที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งและกดดัน แต่พวกเขากลับแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ จนสามารถคว้าชัยชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูชัยของ เฟร์ราน ตอร์เรส ในนาทีที่ 27
แม้ว่าในเกมแรกที่ คัมป์ นู ผลการแข่งขันจะจบลงด้วยการเสมอกันอย่างสุดมันส์ที่สกอร์ 4-4 แต่ด้วยผลงานในเกมนัดที่สองนี้ ทำให้ บาร์เซโลน่า สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ด้วยสกอร์รวม 5-4 สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลอย่างล้นหลาม และทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่คู่ควรต่อการชิงถ้วยแชมป์ โกปา เดล เรย์ ในฤดูกาลนี้อย่างแท้จริง
ฮันซี ฟลิค กุนซือวัย 60 ปี ที่ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่เก่งที่สุดในวงการฟุตบอลยุคปัจจุบัน ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกหลังจากทีมของเขาประสบความสำเร็จในการผ่านเข้าสู่รอบชิงฯ ด้วยการเอาชนะทีมระดับแถวหน้าอย่าง แอตเลติโก มาดริด โดยเขาได้กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า
“ผมมีความสุขมากๆ ที่เราสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะบุกมาเอาชนะที่นี่ การต้องมาเยือนสนามของ แอตเลติโก มาดริด ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศกดดันแบบนี้ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ แต่ลูกทีมของผมแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง ซึ่งผมภูมิใจในตัวพวกเขาทุกคน”
“ช่วงครึ่งแรกเราเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถคอนโทรลเกมได้และสร้างโอกาสทำประตูได้หลายครั้ง ในขณะที่ครึ่งหลังเราเล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่งและมีวินัย ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ นี่คือสิ่งที่ทำให้เราสามารถเอาชนะคู่แข่งที่แข็งแกร่งอย่าง แอตเลติโก มาดริด ได้” ฮันซี ฟลิค กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความพึงพอใจอย่างชัดเจน
สำหรับ บาร์เซโลน่า การผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และเป็นโอกาสสำคัญในการลุ้นคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ โดยพวกเขาจะต้องเจอกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง เรอัล มาดริด ในการแข่งขันที่น่าจะกลายเป็นหนึ่งในแมตช์ที่ผู้คนทั่วโลกต่างเฝ้ารอชมอย่างใจจดใจจ่อ การดวลกันระหว่างสองทีมยักษ์ใหญ่แห่งสเปนนี้ย่อมต้องเป็นศึกที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความเร้าใจอย่างแน่นอน
แฟนบอลทั่วโลกสามารถติดตามการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 26 เมษายน นี้ ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ความแข็งแกร่งและความสามารถของทั้งสองทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ บาร์เซโลน่า ภายใต้การคุมทีมของ ฮันซี ฟลิค ที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่องและความมุ่งมั่นในการคว้าแชมป์ให้ได้ในปีนี้
ติดตามข่าวสารวงการฟุตบอลที่เข้มข้น ดุดัน และน่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
