
ในโลกฟุตบอลระดับสูงสุด การได้สวมเสื้อของ เรอัล มาดริด ถือเป็นเกียรติสูงสุดที่นักเตะหลายคนใฝ่ฝัน และดูเหมือนว่า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็คขวาจอมวางบอลจาก ลิเวอร์พูล กำลังจะกลายเป็นนักเตะชาวอังกฤษรายที่ 7 ที่ได้ก้าวเข้าสู่รั้วถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว หลังสื่อใหญ่น้อยในยุโรปพร้อมใจตีข่าวว่าเจ้าตัวบรรลุข้อตกลงกับ “ราชันชุดขาว” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รายงานล่าสุดระบุว่า อาร์โนลด์วัย 26 ปี ซึ่งเหลือสัญญากับลิเวอร์พูลอีกเพียงปีเดียว ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทีมรัก และเตรียมเซ็นสัญญาใหม่ระยะเวลา 5 ปี กับยอดทีมแห่ง ลา ลีกา สเปน โดยรับค่าเหนื่อยสูงถึง 240,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นดีลยักษ์อีกครั้งที่ เรอัล มาดริด กระชากผู้เล่นอังกฤษเข้าสู่ทีม หลังจากเพิ่งคว้า จู๊ด เบลลิ่งแฮม ไปเมื่อฤดูกาลก่อน
แม้ในยุคปัจจุบันจะมีเพียงไม่กี่รายจากเกาะอังกฤษที่มีโอกาสได้ลงเล่นให้ทีมยักษ์ใหญ่จากแดนกระทิงดุ แต่ในประวัติศาสตร์ของสโมสรนั้น กลับเคยมีนักเตะอังกฤษจำนวนหนึ่งที่ได้จารึกชื่อไว้ในสมุดหน้าทองของทีม ดังนั้น ก่อนที่อาร์โนลด์จะกลายเป็นสมาชิกใหม่ของราชันชุดขาวอย่างเป็นทางการ เราขอย้อนรอย 6 นักเตะชาวอังกฤษผู้เคยมีโอกาสสวมชุดขาวลุยลีกกระทิงกันก่อน
1. ลอรี่ คันนิ่งแฮม (1979–1984)
ปีกซ้ายความเร็วจัดถูกคว้าตัวจากเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ด้วยค่าตัว 950,000 ปอนด์ในปี 1979 คันนิ่งแฮมสร้างความฮือฮาในเกมเปิดตัวกับมาดริดด้วยการซัดสองประตู พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ลา ลีกา ในฤดูกาลถัดมา อีกทั้งยังได้ลงเล่นในนัดชิงยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1981 ที่พ่ายให้กับลิเวอร์พูล 1-0 คันนิ่งแฮมยังเคยถูกปล่อยยืมให้แมนฯ ยูไนเต็ด และภายหลังย้ายไปค้าแข้งกับมาร์กเซย์, เลสเตอร์, ชาร์เลอรัว, วิมเบิลดัน และ ราโย บาเยกาโน่ ก่อนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในกรุงมาดริดปี 1989 ขณะอายุเพียง 33 ปี
2. สตีฟ แม็คมานามาน (1999–2003)
หนึ่งในนักเตะฟรีทรานสเฟอร์ที่คุ้มค่าที่สุดในประวัติศาสตร์มาดริด “แม็กก้า” ย้ายจากลิเวอร์พูลในปี 1999 และประสบความสำเร็จทันที โดยคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2000 พร้อมยิงประตูในรอบชิงเหนือบาเลนเซีย 3-0 รวมถึงคว้าแชมป์ลาลีกาอีกสองสมัย แม็คมานามานลงเล่นเคียงข้างเหล่ากาลาคติกอสก่อนย้ายกลับอังกฤษไปอยู่กับแมนฯ ซิตี้ และหลังแขวนสตั๊ดกลายเป็นนักวิเคราะห์ฟุตบอลชื่อดัง
3. เดวิด เบ็คแฮม (2003–2007)
“เบ็คส์” กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลกหลังย้ายจากแมนฯ ยูไนเต็ด มาร่วมทัพราชันชุดขาวในยุคกาลาคติกอส ร่วมทีมกับ โรนัลโด้, ซีดาน, ราอูล และโรแบร์โต้ คาร์ลอส แม้จะมีภาพลักษณ์เซเลบริตี้ แต่เบ็คแฮมก็ได้รับการยอมรับในความขยันและวินัยมืออาชีพ เขาคว้าแชมป์ลา ลีกาในฤดูกาลสุดท้ายกับมาดริด ก่อนย้ายไปสหรัฐอเมริกากับแอลเอ แกแล็กซี่ ปัจจุบันเป็นเจ้าของร่วมของอินเตอร์ ไมอามี่ และมีบทบาทสำคัญในการดึง ลิโอเนล เมสซี่ มาสู่เมเจอร์ลีก
4. ไมเคิ่ล โอเว่น (2004–2005)
อดีตกองหน้าลิเวอร์พูลและเจ้าของบัลลงดอร์ปี 2001 ย้ายมาร่วมทีมมาดริดด้วยความคาดหวัง แต่กลับต้องตกเป็นตัวสำรองของโรนัลโด้และราอูล ทำให้ลงสนามไม่สม่ำเสมอ แม้จะยิงได้ถึง 13 ประตูในลาลีกา ฤดูกาลถัดมาเขาย้ายไปนิวคาสเซิ่ล และต่อมายังเคยค้าแข้งกับแมนฯ ยูไนเต็ด ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกกับทีมปีศาจแดงก่อนแขวนสตั๊ดกับสโต๊ค ซิตี้
5. โจนาธาน วู้ดเกต (2004–2007)
หนึ่งในดีลที่ล้มเหลวที่สุดของราชันชุดขาว เซ็นเตอร์ฮาล์ฟจากนิวคาสเซิ่ลมีปัญหาบาดเจ็บเรื้อรัง ต้องรอถึง 17 เดือนกว่าจะได้ลงเล่นนัดแรก และเกมเปิดตัวก็เลวร้ายถึงขีดสุดเมื่อเขายิงเข้าประตูตัวเองและถูกไล่ออกในเกมเดียวกัน วู้ดเกตลงเล่นให้มาดริดเพียง 14 นัด ก่อนย้ายกลับอังกฤษไปมิดเดิ้ลสโบรช์ และภายหลังยังได้เป็นฮีโร่ในนัดชิงลีกคัพกับสเปอร์ส ปัจจุบันทำงานเป็นผู้ช่วยโค้ชที่มิดเดิ้ลสโบรช์
6. จู๊ด เบลลิ่งแฮม (2023–ปัจจุบัน)
ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษรายล่าสุดที่ย้ายมาด้วยค่าตัวมหาศาล 115 ล้านปอนด์จากดอร์ทมุนด์ กลายเป็นหัวใจหลักของทีมในทันที เขายิง 5 ประตูจาก 4 นัดแรกในลาลีกา และคว้าแชมป์ทั้งลีกและแชมเปี้ยนส์ลีกตั้งแต่ฤดูกาลแรก ปัจจุบันในวัยเพียง 21 ปี เบลลิ่งแฮมคือแกนหลักของมาดริดในยุคใหม่ และเป็นแบบอย่างของการลงทุนที่คุ้มค่าทุกยูโร
หากการย้ายของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เกิดขึ้นจริง เขาจะกลายเป็นนักเตะอังกฤษคนที่ 7 ที่มีชื่อในประวัติศาสตร์ของยอดทีมแดนกระทิงรายนี้ ซึ่งแต่ละคนล้วนฝากฝีเท้าไว้ในระดับที่น่าจดจำ และอาร์โนลด์ก็กำลังจะเริ่มบทใหม่ในชีวิตค้าแข้งกับทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทีมหนึ่งของโลก
ติดตามทุกความเคลื่อนไหว ข่าวย้ายทีม และบทวิเคราะห์เข้มข้นได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา