
ลา ลีกา สเปน ฤดูกาลนี้เดือดระอุไม่แพ้ลีกไหนในยุโรป โดยเฉพาะการขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งแชมป์ที่ต้องลุ้นกันแบบนัดต่อนัด สามยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลแดนกระทิงดุอย่าง บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก มาดริด กำลังขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้น โดยหลังผ่านไป 25 นัด คะแนนของทั้งสามทีมยังคงเบียดกันแบบหายใจรดต้นคอ และแน่นอนว่า 5 นัดต่อไป ของแต่ละทีมอาจเป็นตัวชี้ชะตาและบ่งบอกได้ชัดเจนว่าทีมใดมีโอกาสเถลิงบัลลังก์แชมป์ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล 2024/25
บาร์เซโลน่า (54 แต้ม) – ได้เปรียบจากเกมเหย้า แต่ต้องระวังฟอร์มหลุด
- วันอาทิตย์ที่ 2 มี.ค. : VS เรอัล โซเซียดาด (เหย้า)
- วันเสาร์ที่ 8 มี.ค. : VS โอซาซูน่า (เหย้า)
- วันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค. : VS แอตเลติโก มาดริด (เยือน)
- วันอาทิตย์ที่ 30 มี.ค. : VS จีโรน่า (เหย้า)
- วันอาทิตย์ที่ 6 เม.ย. : VS เรอัล เบติส (เหย้า)
โปรแกรมของ บาร์ซ่า ถือว่าเป็นโอกาสทองในการกอบโกยแต้ม เนื่องจากพวกเขาได้เล่น เกมเหย้าถึง 4 จาก 5 นัด ซึ่งน่าจะเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ ทว่าหนึ่งเกมเยือนที่ต้องไปดวลกับ แอตเลติโก มาดริด นั้นอาจเป็นบททดสอบสำคัญ เพราะหากพวกเขาพลาดท่า อาจกระทบต่อเส้นทางลุ้นแชมป์โดยตรง นอกจากนี้ ทีมของ ฮันซี ฟลิค ยังคงมีปัญหาในบ้านให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ฤดูกาลนี้พวกเขาแพ้คารังไปแล้ว 3 นัด ซึ่งเป็นสถิติที่มากที่สุดในบรรดาทีมลุ้นแชมป์ ดังนั้นหากหวังจะกลับมาเป็นแชมป์ ลา ลีกา พวกเขาจำเป็นต้องควบคุมฟอร์มให้แน่นอนกว่านี้
เรอัล มาดริด (54 แต้ม) – เส้นทางสดใส แต่อย่าพลาดเกมเยือน
- วันเสาร์ที่ 1 มี.ค. : VS เรอัล เบติส (เยือน)
- วันอาทิตย์ที่ 9 มี.ค. : VS ราโย บาเยกาโน (เหย้า)
- วันเสาร์ที่ 15 มี.ค. : VS บียาร์เรอัล (เยือน)
- วันอาทิตย์ที่ 30 มี.ค. : VS เลกาเนส (เหย้า)
- วันอาทิตย์ที่ 6 เม.ย. : VS บาเลนเซีย (เหย้า)
สำหรับทีมของ คาร์โล อันเชลอตติ ถือว่าเจอโปรแกรมที่ไม่หนักมาก พวกเขามีเกมเหย้า 3 นัด และเกมเยือน 2 นัด ซึ่งแม้ว่าจะต้องออกไปเยือนทีมอย่าง เรอัล เบติส และ บียาร์เรอัล ซึ่งถือว่าเป็นทีมระดับครึ่งบนของตาราง แต่หากพวกเขาสามารถคว้าแต้มกลับมาได้ เกมเหย้าที่ ซานติอาโก เบร์นาเบว สามนัดต่อไปนี้ก็ไม่ใช่งานยาก และหากไม่สามารถเก็บ 9 แต้มเต็มในบ้าน ถือว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง จุดสำคัญคือ ราชันชุดขาว ต้องพยายามไม่ให้สะดุดในเกมเยือน เพราะอาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้พวกเขาหลุดจากเส้นทางลุ้นแชมป์
แอตเลติโก มาดริด (53 แต้ม) – โปรแกรมโหดสุด ต้องงัดฟอร์มเก่งทุกนัด
- วันเสาร์ที่ 1 มี.ค. : VS แอธเลติก บิลเบา (เหย้า)
- วันอาทิตย์ที่ 9 มี.ค. : VS เคตาเฟ่ (เยือน)
- วันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค. : VS บาร์เซโลน่า (เหย้า)
- วันอาทิตย์ที่ 30 มี.ค. : VS เอสปันญ่อล (เยือน)
- วันอาทิตย์ที่ 6 เม.ย. : VS เซบีย่า (เยือน)
ในบรรดาสามทีมหัวตาราง แอต. มาดริด เป็นทีมที่เจอโจทย์ยากที่สุด เพราะจาก 5 นัดถัดไป มีเกมเยือนถึง 3 นัด และสองเกมเหย้าก็เป็นเกมหนักทั้งหมด โดยเฉพาะเกมที่ต้องรับมือ แอธเลติก บิลเบา และ บาร์เซโลน่า ซึ่งหากพวกเขาพลาดแต้มในเกมเหล่านี้ อาจทำให้โอกาสลุ้นแชมป์เลือนรางไปเลย ส่วนโปรแกรมเยือนก็ไม่ได้ง่าย เพราะแม้ว่า เซบีย่า จะไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม แต่ฟอร์มการเล่นนอกบ้านของ แอต. มาดริด ก็ยังขาดความแน่นอน หากพวกเขาต้องการกลับมามีลุ้นแชมป์เต็มตัว ทีมของ ดีเอโก ซิเมโอเน่ ต้องเร่งเครื่องและเก็บแต้มจากทุกเกมให้ได้มากที่สุด
บทสรุป – ใครได้เปรียบมากที่สุด?
หากวิเคราะห์จากโปรแกรมที่เหลือ บาร์เซโลน่า น่าจะเป็นทีมที่ได้เปรียบมากที่สุด เพราะพวกเขามีเกมในบ้านเยอะที่สุด และมีโอกาสเก็บแต้มได้สูงกว่า ส่วน เรอัล มาดริด เจอโปรแกรมไม่หนักมาก แต่ต้องทำให้แน่ใจว่าเกมเยือนจะไม่พลาด ส่วน แอตเลติโก มาดริด ถือว่าเจอโจทย์ยากที่สุด เพราะมีทั้งโปรแกรมเยือนที่หนัก และต้องดวลกับทีมใหญ่ในบ้าน หากพวกเขาผ่านช่วงนี้ไปได้โดยไม่เสียหาย ก็อาจเป็นทีมที่แอบลุ้นแชมป์ได้ถึงโค้งสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด เคยขึ้นนำโด่งเป็นจ่าฝูงแต่ก็พลาดสะดุดจนโดนไล่ทัน และหากพวกเขายังเล่นไม่คงเส้นคงวา ทีมอันดับสี่อย่าง แอธเลติก บิลเบา อาจเป็น ม้ามืด ที่ก้าวขึ้นมามีลุ้นแชมป์ช่วงท้ายฤดูกาลก็เป็นได้
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ ลา ลีกา สเปน และศึกแย่งแชมป์สุดเดือดได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา