
เคราร์ด ปีเก้ อดีตกองหลังระดับตำนานของ บาร์เซโลน่า ออกโรงวิจารณ์ เรอัล มาดริด อย่างเผ็ดร้อน โดยระบุว่าทีมคู่ปรับตลอดกาลแห่ง ลา ลีกา สเปน ไม่มีศักยภาพในการปั้นนักเตะเยาวชนขึ้นมาเอง ต่างจาก บาร์เซโลน่า ที่ปลุกปั้นแข้งระดับโลกจากระบบเยาวชน ลา มาเซีย มาอย่างต่อเนื่อง
การขับเคี่ยวระหว่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน ทั้งสองทีมต่างผลัดกันเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของวงการฟุตบอลสเปนและยุโรป แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสองสโมสรแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในมุมมองของ ปีเก้ ก็คือแนวทางในการสร้างทีม โดยเขาชี้ว่า เรอัล มาดริด ไม่เคยให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชนจากระบบอคาเดมี่ของตัวเอง แต่เลือกใช้เงินซื้อนักเตะดาวรุ่งจากทีมอื่นแทน
ปีเก้ตอกย้ำ! บาร์ซ่าปั้นเด็กเอง แต่มาดริดใช้เงินซื้อ
อดีตแนวรับของ บาร์เซโลน่า กล่าวโจมตีแนวทางของ เรอัล มาดริด ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาไม่สามารถสร้างนักเตะเยาวชนขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้เองอย่างแท้จริง ต่างจาก บาร์ซ่า ที่ส่งเสริมดาวรุ่งจาก ลา มาเซีย ขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญ
“ใน ลา ลีกา มีดาวรุ่งฝีเท้าดีมากมาย แต่หากพูดถึงที่มาของพวกเขา ความแตกต่างมันชัดเจน” ปีเก้ กล่าวอย่างเผ็ดร้อน “นักเตะเยาวชนของ บาร์เซโลน่า เติบโตขึ้นมาจาก ลา มาเซีย ซึ่งเป็นอคาเดมี่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในการปั้นยอดแข้ง ขณะที่ฝั่ง เรอัล มาดริด พวกเขาเลือกใช้วิธีการเซ็นเช็คซื้อแทนที่จะสร้างนักเตะของตัวเอง”
ข้อวิจารณ์ของ ปีเก้ ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใด เนื่องจากในอดีต บาร์เซโลน่า เคยสร้างซูเปอร์สตาร์ระดับโลกขึ้นมาจาก ลา มาเซีย มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลิโอเนล เมสซี่, ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรส อิเนียสต้า หรือ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ขณะที่ เรอัล มาดริด มักจะทุ่มเงินก้อนโตดึงแข้งดาวรุ่งจากทั่วโลกเข้ามาเสริมทัพแทน
ปีเก้เหน็บต่อ! มาดริดแพ้แล้วโยนความผิดให้กรรมการ
นอกจากการตั้งคำถามถึงแนวทางของ เรอัล มาดริด ในการสร้างทีมแล้ว ปีเก้ ยังพูดถึงนิสัยของทีมราชันชุดขาวที่มักจะออกแถลงการณ์โจมตีผู้ตัดสินทุกครั้งที่พวกเขาพบกับความพ่ายแพ้
“มันไม่ใช่เรื่องใหม่เลยนะ เรอัล มาดริด ทำแบบนี้มา 120 ปีแล้ว ทุกครั้งที่พวกเขาแพ้ พวกเขาก็จะหาทางเปลี่ยนประเด็นให้เป็นเรื่องอื่น แทนที่จะโฟกัสไปที่ฟอร์มการเล่นของตัวเอง” ปีเก้ กล่าวอย่างดุดัน “พวกเขาต้องการให้คนตั้งคำถามในเรื่องอื่น นอกเหนือจากสิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม พวกเขาใช้วิธีนี้มาตลอด และกรรมการเองก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว ซึ่งมันคงไม่เปลี่ยนแปลงไปง่าย ๆ”
ความคิดเห็นของ ปีเก้ สะท้อนให้เห็นถึงความดุเดือดของศึก เอล กลาซิโก้ ที่ไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขันในสนาม แต่ยังเป็นสงครามจิตวิทยาที่ดำเนินไปอย่างเข้มข้นนอกสนามเช่นกัน
ติดตามข่าวบอลนอกอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา