ซัปโปโรปิดฉากเจลีก 2 ซีซั่น 2025 ด้วยชัยชนะสุดเด็ดขาด
ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ปิดม่านฤดูกาล เจลีก 2 ปี 2025 ได้แบบสมศักดิ์ศรี เปิดซัปโปโร โดม ไล่บดเอฮิเมะ เอฟซี 3-0 ในเกมนัดที่ 38 ซึ่งเป็นแมตช์สุดท้ายของซีซั่น เมื่อวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ชัยชนะเกมนี้ไม่ใช่แค่ 3 แต้มธรรมดา แต่ช่วยตอกย้ำภาพรวมผลงานที่ยังยืนระยะบนลีกโหดแดนอาทิตย์อุทัย พร้อมคืนรอยยิ้มให้แฟนบอลเจ้าถิ่นในบ้านนัดส่งท้ายปีแข่งขัน
ซัปโปโรใช้เกมรุกดุดันใส่ทีมเยือนตั้งแต่ต้นเกม ก่อนจะค่อย ๆ เปิดทีเด็ดทีละดอก และไม่ปล่อยให้เอฮิเมะได้หายใจหายคอ จบ 90 นาทีเก็บชัยแบบไม่เสียประตู ปิดจ๊อบซีซั่นอย่างสวยงาม
สุภโชคตัวจริง 5 นัดติด มีแอสซิสต์ปิดท้ายซีซั่น
เกมนี้ แฟนบอลไทยได้ลุ้นกันเต็ม ๆ เมื่อ สุภโชค สารชาติ แนวรุกทีมชาติไทยวัย 27 ปี ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงติดต่อกันเป็นนัดที่ 5 ซึ่งถือเป็นสัญญาณชัดว่ากลายเป็นหนึ่งในตัวรุกที่โค้ชไว้ใจในช่วงโค้งท้ายฤดูกาล
สุภโชคไม่ทำให้ผิดหวัง เติมเกมรุกทางกราบอย่างมั่นใจ คอยเชื่อมบอลระหว่างกลางกับแดนหน้า ก่อนจะมาใส่ชื่อบนสถิติด้วยการทำหนึ่งแอสซิสต์ในเกมนี้ ช่วยเปิดทางให้เพื่อนร่วมทีมจบสกอร์อย่างเฉียบขาด ย้ำให้เห็นว่าแข้งไทยสามารถยืนระยะบนลีกญี่ปุ่นได้แบบไม่เคอะเขิน
เกมรุกซัปโปโรยิง 3 เม็ด จบที่อันดับ 12 อย่างมีศักดิ์ศรี
สามประตูในเกมอำลาซีซั่นมาจากสามคนสำคัญของแนวรุกซัปโปโร ไล่ตั้งแต่ โทโมกิ คอนโดะ นาทีที่ 25 ที่ซัดเปิดสกอร์ให้เจ้าถิ่นออกนำ 1-0 ก่อนที่ เรย์ อิเออิซูมิ จะบวกเพิ่มเป็น 2-0 ในนาทีที่ 48 ช่วงต้นครึ่งหลัง กดดันเอฮิเมะให้ต้องเปิดหน้าแลกมากขึ้น
ท้ายเกมนาทีที่ 78 มาริโอ เซร์คิโอ ปิดกล่องประตูที่สาม เปลี่ยนบรรยากาศในสนามให้กลายเป็นงานฉลองของเหล่า “นกเค้าแมวแดนเหนือ” อย่างแท้จริง ชัยชนะนัดนี้ทำให้ ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร จบอันดับ 12 ของตารางด้วยผลงาน 38 นัด ชนะ 16 เสมอ 5 แพ้ 17 ยิงได้ 50 ประตู เสีย 63 ประตู เก็บรวม 53 แต้ม ถือเป็นอันดับกลางตารางที่ยังมีพื้นที่ให้พัฒนาต่อในซีซั่นหน้า แต่ก็ไม่ใช่ซีซั่นที่เลวร้ายแต่อย่างใด
สถิติทั้งฤดูกาลของสุภโชคกับซัปโปโร
ในแง่ผลงานส่วนตัวของ สุภโชค ซีซั่น 2025 ถือว่าเป็นอีกปีที่ได้เก็บประสบการณ์ในญี่ปุ่นแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย เจ้าตัวลงสนามให้ ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ไปทั้งหมด 31 นัด ทำได้ 2 ประตู และ 3 แอสซิสต์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแอสซิสต์ในเกมอำลาฤดูกาลนัดนี้
ถ้าขยับมามองภาพรวมตั้งแต่ย้ายมาเล่นให้ “นกเค้าแมวแดนเหนือ” ตั้งแต่ปี 2022 จนถึงปัจจุบัน สุภโชคลงเล่นรวมทุกรายการไปแล้ว 89 นัด ยิง 13 ประตู กับทำไป 15 แอสซิสต์ ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนชัดว่าไม่ได้เป็นแค่แข้งเอเชียที่ไปทดสอบฝีเท้า แต่เป็นตัวรุกที่มีบทบาทจริงในแผนการเล่นของทีม
สำหรับแฟนบอลไทย สถิติแบบนี้คือหลักฐานว่าแข้งไทยสามารถยืนหนึ่งในลีกต่างแดนได้ หากมีโอกาสและความมุ่งมั่นมากพอ และยังเป็นแรงผลักดันให้แข้งไทยรุ่นใหม่มองไกลไปถึงระดับเจลีกมากขึ้น
แข้งไทยในเจลีก เส้นทางที่ทั้งโหดและคุ้มค่าต่อการพิสูจน์ตัวเอง
การที่นักเตะไทยอย่างสุภโชคฝังตัวอยู่ในญี่ปุ่นต่อเนื่องหลายฤดูกาล เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า เจลีกไม่ใช่แค่ “ลีกต่างประเทศ” แต่เป็นเวทีที่ช่วยอัปเกรดทั้งแท็กติก ความฟิต และมาตรฐานการเป็นมืออาชีพแบบเต็มระบบ
เจลีกขึ้นชื่อเรื่องวินัยแท็กติก เกมเพรสซิ่งที่เข้มข้น และสภาพร่างกายที่ต้องพร้อมทุกเกม นักเตะที่ผ่านการพิสูจน์ตัวเองในสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้ มักยกระดับตัวเองกลับมาเป็นแกนหลักของทีมชาติและเป็นผู้นำให้รุ่นน้องในประเทศไปในตัว แฟนบอลไทยจึงได้ประโยชน์สองต่อ ทั้งได้ลุ้นผลงานสโมสรในญี่ปุ่น และได้เห็นการกลับมาของแข้งไทยที่แข็งแกร่งขึ้นในเวทีทีมชาติ
มองไปข้างหน้า แฟนบอลไทยยังต้องตามเชียร์สุภโชคต่อ
แม้ฤดูกาล 2025 จะปิดฉากลงแล้ว แต่เส้นทางของสุภโชคกับ ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ยังไม่จบง่าย ๆ ซีซั่นหน้าอาจเป็นโอกาสสำคัญที่เขาจะขยับบทบาทจาก “ตัวหลักที่มีส่วนร่วม” ไปสู่ “ตัวแบกเกมรุก” มากขึ้น ทั้งในแง่การทำประตู การจ่ายคิลเลอร์พาส และการเป็นผู้นำในแนวรุก
แฟนบอลไทยจึงยังมีเรื่องให้ลุ้นอีกเยอะ ทั้งอนาคตในเจลีกของสุภโชค ฟอร์มการเล่นในสีเสื้อทีมชาติ และความเป็นไปได้ที่เขาจะกลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้เด็กรุ่นใหม่กล้าฝันไกลกว่าเดิม ถ้าอยากตามทุกก้าวสำคัญของแข้งไทยในต่างแดน ข่าวซื้อขาย ความเคลื่อนไหวสายลูกหนังญี่ปุ่นและลีกใหญ่ทั่วโลก อย่าลืมติดตามความมันส์จัดเต็มได้ที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา
