ญี่ปุ่นปิดปีอย่างเดือด ฉลองชัยต่อหน้าแฟนบอลทะลุ 5 หมื่น
เกมอุ่นเครื่องรายการ KIRIN CHALLENGE CUP 2025 นัดสุดท้ายของปี กลายเป็นค่ำคืนที่สมบูรณ์แบบของ ทีมชาติญี่ปุ่น เมื่อเปิดสนามญี่ปุ่น เนชันแนล สเตเดี้ยม ต่อหน้าแฟนบอล 53,508 คน แล้วอัดทีมชาติ โบลิเวีย ไปแบบไม่ไว้หน้า 3-0 ทั้งได้ผลการแข่งขัน สร้างความมั่นใจ และยังเป็นการฉลองนัดที่ 100 ของกุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ บนเก้าอี้เฮดโค้ชทีมชาติชุดใหญ่แบบหล่อๆ
สามประตูในเกมนี้มาจาก ไดจิ คามาดะ, ชูโตะ มาชิโนะ และเคอิโตะ นากามูระ สะท้อนชัดว่าซามูไรบลูไม่ได้มีแค่ตัวหลักชุดเดิม แต่ขุมกำลังเชิงลึกก็พร้อมแบกทีมได้ทุกเมื่อ และนี่คือสัญญาณเตือนถึงทุกชาติในเอเชียรวมถึงในเวทีโลกว่า ญี่ปุ่นกำลังเข้าฝักเต็มตัว
เปิดเกมมาไม่ทันตั้งตัว ญี่ปุ่นยิงนำไวตั้งแต่นาทีที่ 4
เสียงเชียร์ยังไม่ทันจาง เกมก็เดินหน้าโหมทันที ญี่ปุ่นส่ง คกิ โอกาวะ อดีตกองหน้าโยโกฮาม่า เอฟซี ยืนหอกล่าตาข่าย และแค่ “นาทีที่ 2” เขาก็มีโอกาสทองจากจังหวะสอดทะลุแนวรับหลุดไปดวลเดี่ยว แต่ยิงไปติดเซฟ กีเยร์โม่ บิสการ์ร่า นายประตูโบลิเวียที่ยืนปิดมุมได้ดี
แต่กองเชียร์เจ้าถิ่นไม่ต้องรอนาน “นาทีที่ 4” ไดจิ คามาดะ ที่เคยแจ้งเกิดกับซางัน โทสุ แสดงคลาสของเพลย์เมกเกอร์เต็มๆ จากจังหวะที่ ทาเคฟุสะ คุโบะ อดีตแนวรุก เอฟซี โตเกียว เปิดบอลโค้งเข้าเขตโทษ คามาดะใช้อกพักบอลลงอย่างนิ่ม ก่อนกดด้วยซ้ายปั่นเสียบเสาไกลสุดเฉียบ ส่งญี่ปุ่นออกนำ 1-0 ตั้งแต่ต้นเกม
ประตูนี้ไม่ใช่แค่การปลดล็อกเกม แต่ยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า หากปล่อยให้แนวรุกญี่ปุ่นมีพื้นที่แม้เพียงเสี้ยววินาที แผงรับคู่แข่งมีสิทธิ์โดนลงโทษทันที
เกมบุกต่อเนื่อง โอกาวะชนคาน มินามิโนะเกือบปิดสกอร์เพิ่ม
หลังออกนำเร็วจังหวะบอลของญี่ปุ่นยิ่งไหลลื่น เกมสวนกลับจากหลังสู่หน้าทำได้ดุดันมาก โดยจุดเด่นคือความเข้าใจในการเคลื่อนที่ระหว่าง คุโบะ, ยูกินาริ สึกาวาระ และโอกาวะ
“นาทีที่ 23” ญี่ปุ่นเกือบได้ลูกสองจากเคาน์เตอร์สุดไหลลื่น คุโบะโหม่งชงให้ สึกาวาระ สอดขึ้นทางกราบขวา ก่อนประสานงานกันอีกหนึ่งจังหวะแล้วสึกาวาระเปิดโค้งเข้าไปให้ โอกาวะ โฉบโขกเต็มๆ บอลพุ่งไปชนคานอย่างจัง บิสการ์ร่าได้แต่ยืนมอง
จังหวะต่อเนื่อง ทาคุมิ มินามิโนะ อดีตซูเปอร์สตาร์ เซเรโซ่ โอซาก้า เก็บตกบอลเด้งมาแถวเสาไกล ก่อนกดเต็มข้อจากมุมเขตโทษหกหลา แต่หลุดเสาออกไปนิดเดียว ทำให้สกอร์ยังคงอยู่ที่ 1-0 แบบแฟนบอลญี่ปุ่นเสียดายกันทั้งสนาม
โบลิเวียไม่ถอดใจ มีสวนกลับให้ลุ้นตีเสมอ
แม้รูปเกมโดยรวมญี่ปุ่นจะคุมเอาไว้ได้ แต่โบลิเวียก็ไม่ได้ถอดใจง่ายๆ และมีจังหวะตอบโต้ให้ได้เสียวเช่นกัน โดยอาศัยความผิดพลาดกลางสนามของเจ้าถิ่นเป็นโอกาสเล่นงาน
“นาทีที่ 30” เฟร์นันโด นาบา ฉวยโอกาสเก็บบอลได้หลังจากคามาดะจ่ายพลาดในแดนกลาง ก่อนลากจี้แล้วซัดไกลทันที บอลพุ่งแรงหนีมือผู้รักษาประตูญี่ปุ่นไปไม่ไกลนัก แต่ก็หลุดเสาออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย
ก่อนหมดครึ่งแรกสองนาที โบลิเวียได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ มิเกล แทร์เซรอส ปั่นฟรีคิกจากหน้าเขตโทษระยะอันตราย บอลโค้งแต่ไม่พอที่จะทำให้สกอร์บอร์ดขยับ สุดท้ายหมด 45 นาทีแรก ญี่ปุ่นยังนำ 1-0 แต่เกมไม่ได้ง่ายแบบเดินเล่นอย่างที่หลายคนคิด
ต้นครึ่งหลังฝืดเล็กน้อย ก่อนเปลี่ยนสามคนพลิกจังหวะเกม
กลับมาครึ่งหลัง ญี่ปุ่นเหมือนเสียจังหวะไปเล็กน้อย ต่อบอลได้แต่ไม่คมในพื้นที่สุดท้าย เกมรุกไม่ไหลลื่นเหมือนช่วงต้น อีกทั้งโบลิเวียเริ่มขยับไล่เพรสสูง ทำให้แนวรับซามูไรบลูต้องเล่นระมัดระวังมากขึ้น
จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่ “นาทีที่ 67” เมื่อ โมริยาสุ ตัดสินใจเปลี่ยนสามคนรวด ส่ง อายาเสะ อูเอดะ อดีตกองหน้า คาชิม่า แอนท์เลอร์ส, ชูโตะ มาชิโนะ อดีตหอกตัวเป้า โชนัน เบลล์มาเร่ และ เคอิโตะ นากามูระ ที่เคยเล่นกับกัมบะ โอซาก้า ลงมาเติมความสด
เพียงแค่นาทีเดียวหลังลงสนาม อูเอดะก็ได้โชว์ของทันทีจากการขึ้นโขกแย่งบอลกับบิสการ์ร่า หลังรับบอลครอสจาก ริทสึ โดอัน อดีตแนวรุกกัมบะ โอซาก้า แต่บอลหลุดกรอบไปนิดเดียว อย่างไรก็ตามทิศทางเกมเริ่มชัดว่า ญี่ปุ่นกลับมาสปีดเกมอีกครั้งแล้ว
ซูเปอร์ซับทำงาน มาชิโนะ-นากามูระปิดบัญชี 2 ลูกท้าย
ความสดใหม่จากตัวสำรองของญี่ปุ่นทำให้แนวรับโบลิเวียเริ่มตั้งรับไม่ทัน และในที่สุดประตูที่สองก็มาถึง
“นาทีที่ 71” นากามูระโชว์เซนส์เกมรุกด้วยการเติมลึกเข้าไปสุดเส้นหลัง ก่อนเปิดหักข้อย้อนมาตรงเสาแรกให้ มาชิโนะ สอดมาเอี่ยวเท้ายิงเร็วแบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาด สกอร์ขยับเป็น 2-0 และทั้งสนามระเบิดเสียงเฮ
โบลิเวียพยายามฮึดอีกครั้ง “นาทีที่ 77” โมอิเซส บียาร์โรเอล สบโอกาสได้ตั้งป้อมยิงไกลจากระยะราว 25 หลา บอลพุ่งแรงเฉียดเสาไปเพียงไม่กี่เซนติเมตร ถ้าตรงกรอบมีลุ้นเป็นประตูสวยแน่นอน
แต่แค่หนึ่งนาทีให้หลัง ญี่ปุ่นก็ปิดจ๊อบให้เกมนี้จบแบบไม่มีดราม่า “นาทีที่ 78” นากามูระรับบอลจากการไหลสวยๆ ของอูเอดะ ก่อนล็อกหลบหาพื้นที่ แล้วซัดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบมุมแบบผู้รักษาประตูหมดสิทธิ์เซฟ กลายเป็นประตู 3-0 ที่ตอกย้ำความโหดของแนวรุกซามูไรบลูเต็มๆ
ชัยชนะฉลองนัดที่ 100 ของโมริยาสุ และภาพรวมฟอร์มซามูไรบลู
สำหรับ โมริยาสุ นี่ไม่ใช่แค่ชัยชนะธรรมดา แต่คือการฉลองการคุมทัพ ซามูไรบลู นัดที่ 100 ได้อย่างสมศักดิ์ศรี สิ่งที่แฟนบอลเห็นชัดคือ ญี่ปุ่นมีทั้งโครงสร้างทีมที่แข็งแรง ระบบการเล่นที่ต่อเนื่อง และขุมกำลังสำรองที่พร้อมเปลี่ยนเกมได้ทุกเมื่อ
คามาดะยังเป็นหัวใจแดนกลางที่เชื่อมเกมได้เนียน คุโบะสร้างสรรค์จังหวะหวือหวา สึกาวาระทำเกมริมเส้นได้จัดจ้าน ส่วนกลุ่มตัวสำรองอย่าง อูเอดะ, มาชิโนะ และนากามูระ ก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาพร้อมแย่งตำแหน่งตัวจริงทุกเมื่อ ทำให้คู่แข่งจับทางได้ยากว่าญี่ปุ่นจะมาในหน้าไหนของเกมรุก
ฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นกับบทเรียนสำคัญสำหรับแฟนบอลไทย
หนึ่งในเหตุผลที่แฟนบอลไทยควรจับตา ทีมชาติญี่ปุ่น ชุดนี้อย่างจริงจัง คือการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากรากหญ้าสู่ทีมชาติ ทุกตำแหน่งในสนามมีการแข่งขันสูง นักเตะย้ายไปเล่นในยุโรปมากขึ้น ระบบการเล่นยึดแนวทางชัดเจน เล่นบอลบนพื้น เน้นสปีดเกมและความยืดหยุ่นแท็กติก ซึ่งเป็นโมเดลที่หลายชาติในเอเชีย รวมถึงไทยเองใช้เป็นกรณีศึกษาได้ดี
เกมอุ่นเครื่องอย่าง KIRIN CHALLENGE CUP 2025 จึงไม่ได้เป็นแค่เกมโชว์ตัว แต่เป็นห้องทดลองแท็กติก การลองแผนใหม่ๆ การทดสอบผู้เล่นหน้าใหม่ และการสร้างเคมีในทีม สิ่งเหล่านี้คือหัวใจสำคัญของการยกระดับทีมชาติในระยะยาว ไม่ใช่แค่ลุ้นผลชนะอย่างเดียว
สำหรับแฟนบอลไทย การติดตามฟอร์มของญี่ปุ่น นอกจากจะได้เห็นฟุตบอลคุณภาพแล้ว ยังช่วยให้เราเก็บรายละเอียดแนวทางการเล่น การบริหารทีมชาติ และการสร้างสไตล์ของตัวเอง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาวงการลูกหนังไทยในภาพรวม
มองไปข้างหน้ากับซามูไรบลู และตามลุ้นต่อที่บ้านกีฬา
ชัยชนะ 3-0 เหนือ โบลิเวีย ในครั้งนี้คือการปิดฉากปีที่สวยงามของซามูไรบลู ทั้งในแง่ผลการแข่งขันและภาพรวมของทีม การมีตัวเลือกในแนวรุกหลากหลาย การกล้าโรเตชั่นตัวจริง–ตัวสำรอง และการยืนระยะของแท็กติกโมริยาสุ ทำให้ญี่ปุ่นยังคงเป็นหนึ่งในทีมชาติจากเอเชียที่ไม่มีใครอยากเจอในทัวร์นาเมนต์ใหญ่
จากนี้ไปภารกิจของญี่ปุ่นในศึกคัดบอลโลกและทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์จะยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แฟนบอลไทยที่ชอบศึกษาบอลแท็กติก ดูบอลเป็นมากกว่าผลสกอร์ ควรจับตาทีมชุดนี้ให้ดี เพราะทุกแมตช์ของพวกเขามักมีอะไรให้เรียนรู้เสมอ
ใครอยากติดตามข่าวบอลต่างประเทศ อัปเดตความเคลื่อนไหวของทีมชาติญี่ปุ่น รวมถึงเรื่องราวร้อนแรงในโลกลูกหนังแบบจัดเต็ม อย่าลืมตามเชียร์ ตามอ่านได้ที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา ที่จะพาคอบอลชาวไทยเข้าถึงทุกมุมของเกมแบบถึงใจกว่าเดิม
