แฟนบอลญี่ปุ่นและชาวไทยต้องหันมามองทางเหนือของประเทศแดนอาทิตย์อุทัย เมื่อมีรายงานจากสโมสร ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ทีมดังแห่งศึกเจลีก 2 ที่มี “สุภโชค สารชาติ” แข้งทีมชาติไทยร่วมทัพอยู่ ได้ประกาศเตรียมปรับโครงสร้างครั้งใหญ่หลังฤดูกาลนี้จบลง ซึ่งรวมถึงการ “ลดงบประมาณทำทีม” และ “ลดขนาดทีมลง” อย่างมีนัยสำคัญ เพื่อรับมือกับฤดูกาล 2026 ที่กำลังจะมาถึง
ผลงานน่าผิดหวัง – พลาดโอกาสเลื่อนชั้น
ฤดูกาล 2025 ถือเป็นปีที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของแฟนบอล คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เมื่อทีมภายใต้ฉายา “นกเค้าแมวแห่งเมืองเหนือ” ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน จบอันดับที่ 12 ของตาราง เจลีก 2 เก็บได้เพียง 49 คะแนนจาก 36 นัด หมดสิทธิ์ลุ้นเลื่อนชั้นตั้งแต่เกมบุกพ่าย เจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ 2-5 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เหลือเพียงอีก 2 นัดสุดท้ายของฤดูกาลที่ต้องลงเล่นให้ครบตามโปรแกรมเท่านั้น
สถานการณ์ดังกล่าวสร้างแรงสั่นสะเทือนไปถึงฝ่ายบริหารที่ต้องเร่งหาทางฟื้นทีมกลับสู่เวที เจลีก 1 (J1) โดยเร็วที่สุด ซึ่งนั่นนำไปสู่การตัดสินใจครั้งสำคัญในห้องประชุมระดับสูงของสโมสร
CEO ยืนยันเตรียมลดงบ – ยกเครื่องทีมใหม่
มร.ฮาจิเมะ อิชิมิสึ (Hajime Ishimitsu) CEO ของสโมสรออกมาเปิดเผยถึงทิศทางใหม่ว่า
“ฤดูกาล 2025 เราทุ่มสุดตัวในการลงทุนทำทีม เรากำลังพิจารณาลดงบประมาณหลายร้อยล้านเยนสำหรับฤดูกาล 2026”
นอกจากนี้ อิชิมิสึยังยอมรับว่า สโมสรมีนักเตะในทีมมากถึง 36 คน (รวมผู้เล่นที่ถูกปล่อยยืมตัว) และจำเป็นต้องพิจารณาลดจำนวนให้เหลือประมาณ 30 คน เพื่อจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็จะคงไว้ซึ่ง “ขุมกำลังหลักที่เป็นหัวใจของทีม” เพื่อใช้ต่อยอดความสำเร็จในอนาคต
“เราวางแผนงานเพื่อจะกลับไป J1 ให้เร็วที่สุด น่าเสียดายที่เราไม่ได้ฉลองครบรอบ 30 ปีการก่อตั้งสโมสรในปี 2026 บนเวที J1 ได้ตามที่เราต้องการ” CEO กล่าวปิดอย่างชัดเจน
อนาคต “สุภโชค สารชาติ” กับกระแสย้ายทีม
การปรับโครงสร้างของคอนซาโดเล่ในครั้งนี้ ทำให้เกิดคำถามใหญ่ในหมู่แฟนบอลไทยว่า อนาคตของ “สุภโชค สารชาติ” จะเป็นอย่างไรต่อไป หลังจากที่เจ้าตัวถือเป็นหนึ่งในนักเตะเอเชียที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นและมีบทบาทสำคัญในแดนกลางของทีม โดยก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวว่าหลายทีมใน เจลีก 1 กำลังจับตามองสถานการณ์ของแข้งชาวไทยรายนี้อย่างใกล้ชิด
หากซัปโปโรตัดสินใจลดงบจริง อาจมีผลต่อค่าเหนื่อยของนักเตะต่างชาติและโอกาสในการเสริมทีม ซึ่งอาจทำให้ “ชัปปี้” กลายเป็นเป้าหมายย้ายทีมที่ร้อนแรงในตลาดนักเตะปีหน้าได้ทันที
ภาพรวมและทิศทางของสโมสร
แม้จะเป็นการปรับลดเพื่อความอยู่รอด แต่คอนซาโดเล่ก็ยังคงแสดงความมุ่งมั่นในการสร้างทีมใหม่ให้แข็งแกร่งกว่าเดิม โดยคาดว่าทีมจะให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งจากอคาเดมีขึ้นมามีบทบาทมากขึ้น ขณะเดียวกันฝ่ายเทคนิคของสโมสรก็เตรียมวางแผนระยะยาวในการสร้างทีมที่มีสมดุลทางการเงินและศักยภาพในสนาม เพื่อกลับมาทวงพื้นที่บนลีกสูงสุดให้ได้อีกครั้ง
มองในมุมแฟนบอลไทย
สำหรับแฟนบอลไทยที่ติดตาม สุภโชค สารชาติ มาตลอด การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ถือเป็นจุดสำคัญของเส้นทางค้าแข้งในญี่ปุ่นของเจ้าตัว หากเขายังรักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างคงเส้นคงวา โอกาสในการย้ายไปทีมที่มีลุ้นแชมป์ใน เจลีก 1 ก็ไม่ได้ไกลเกินฝัน และยังเป็นการยกระดับชื่อเสียงนักเตะไทยในเวทีฟุตบอลเอเชียอีกด้วย
ข้อมูลน่าสนใจเพิ่มเติม
สโมสร ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1996 และมีสนามเหย้าอยู่ที่ซัปโปโรโดม ความจุกว่า 40,000 ที่นั่ง ทีมนี้เป็นหนึ่งในสโมสรที่มีฐานแฟนบอลเหนียวแน่นที่สุดในภูมิภาคฮอกไกโด และเป็นต้นสังกัดที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นไทยได้โชว์ฝีเท้ามาแล้วหลายราย ทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ สุภโชค สารชาติ ซึ่งช่วยเพิ่มความนิยมของเจลีกในประเทศไทยอย่างมาก
ในแง่ของประวัติศาสตร์ คอนซาโดเล่ถือเป็นทีมที่มีความพยายามไม่หยุดนิ่ง แม้ต้องตกชั้นหลายครั้ง แต่ก็ยังกลับมาได้เสมอ แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของ “ทีมที่ไม่ยอมแพ้” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสโมสรแห่งนี้
แฟนบอลรอลุ้น “รีสตาร์ทใหม่” ฤดูกาล 2026
การประกาศลดงบในครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นใหม่สำหรับสโมสร คอนซาโดเล่ ซัปโปโร อาจเลือกเส้นทางที่ยากลำบากในระยะสั้น แต่หากทำได้อย่างรอบคอบและวางแผนดีพอ ปี 2026 อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทีมกลับมายืนหยัดใน เจลีก 1 ได้อีกครั้ง
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ สุภโชค สารชาติ และข่าวสารฟุตบอลญี่ปุ่นได้ที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา เว็บไซต์กีฬาของแฟนบอลตัวจริง

