คาชิว่า เรย์โซล ปล่อยของ ไล่ถล่มกัมบะแบบไม่ยั้ง
คาชิว่า เรย์โซล โชว์ฟอร์มร้อนแรงบุกถล่ม กัมบะ โอซาก้า ถึงถิ่น พานาโซนิค สเตเดี้ยม ซุยตะ ไปแบบขาดลอย 5-0 ในศึก เจ1 ลีก ฤดูกาล 2025 โปรแกรมนัดที่ 34 โดยเกมนี้ ดีเอโก้ กลายเป็นพระเอกของเกม หลังเหมาคนเดียว 2 ประตูและมีส่วนร่วมตลอดทั้ง 90 นาที ส่งผลให้เรย์โซลเก็บเพิ่มเป็น 63 คะแนน ไล่จี้ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส จ่าฝูง เหลือเพียง 3 แต้ม
ความพร้อมก่อนเกมและแท็กติกที่ชัดเจนของทั้งสองทีม
กัมบะในฐานะเจ้าบ้านมาในระบบที่เน้นเกมรุก เปิดเกมสู้เต็มสูบเพื่อเก็บแต้มสำคัญ โดยวาง เดนิซ ฮุมเม็ต ยืนหน้าเป้า มี ทาคาชิ อูซามิ และ มาโคโตะ มิตสึตะ คอยสนับสนุนด้านหลัง ส่วนคาชิว่า เรย์โซล เลือกจัดทัพรัดกุมแต่แฝงความดุดัน ยูกิ คาคิตะ ล่าตาข่ายหน้าเป้า ขณะที่ โทโมยะ โคยามัตสึ และ โยชิโอะ โคอิซูมิ รับบทตัวรุกสร้างความปั่นป่วนริมเส้น
ตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่ม เกมของเรย์โซลชัดเจนมาก พวกเขาเปิดเกมรุกเร็วและแม่นยำ ใช้ความเร็วและการจบสกอร์เฉียบขาดจนกดดันแนวรับของกัมบะให้เสียทรงตั้งแต่ต้น
ครึ่งแรก: เรย์โซลดุดัน นำ 3-0 ตั้งแต่ 20 นาทีแรก
เพียงนาทีที่ 7 เรย์โซลก็พังประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ยูเซย์ ยามาโนะอูจิ วางบอลทะลุช่องให้ โคอิซูมิ หลุดเดี่ยว ก่อนซัดสวนตัวนายทวารอย่างเฉียบคม
ถัดมาอีก 7 นาที ทีมเยือนบวกเพิ่มเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ดีเอโก้ ใช้อกพักบอลอย่างเหนือชั้นในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ โนบุเทรุ นาคางาวะ จะซัดเต็มข้อเข้าไปอย่างเด็ดขาด
เพียงนาทีที่ 19 สกอร์ไหลเป็น 3-0 จากลูกเตะมุมที่ โคยามัตสึ แหวกแนวรับเจ้าบ้านบริเวณเส้นหลัง แล้วจ่ายให้ ดีเอโก้ ยิงเข้าไปไม่เหลือ เกมเปิดทันทีและเจ้าบ้านแทบตั้งตัวไม่ทัน
กัมบะ พยายามตีไข่แตกนาที 28 จากลูกยิงของ อูซามิ แต่ VAR จับล้ำหน้าเสียก่อน ทำให้เรย์โซลยังรักษาคลีนชีตไว้ได้ และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 3-0 อย่างเด็ดขาด
ครึ่งหลัง: ยิงไม่หยุด ดีเอโก้เบิ้ลสอง พาทีมปิดเกม
เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 51 นาคางาวะ ลากบอลตัดเข้าในก่อนจ่ายให้ ดีเอโก้ จบสกอร์เป็น 4-0 อย่างเหนือชั้น เรียกเสียงเฮจากกองเชียร์ทีมเยือนสนั่นซุยตะ
เจ้าบ้านยังไม่ยอมแพ้ง่าย นาทีที่ 66 อิสซาม เจบาลี่ ปั่นฟรีคิกอย่างงามแต่บอลพุ่งชนคานเสียงดังสนั่น พลาดการได้ประตูอย่างน่าเสียดาย
เรย์โซลยังไม่เพลา นาทีที่ 71 วาตารุ ฮาราดะ ยิงไปโดนแขนของ โทคูมะ ซูซูกิ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ มาโอะ โฮโซยะ จะซัดเข้าไปไม่เหลือเป็นประตูปิดท้าย 5-0
ฟอร์มที่สะท้อนความพร้อมสู้แชมป์
ชัยชนะครั้งนี้ไม่ใช่แค่ 3 แต้มธรรมดา แต่เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า คาชิว่า เรย์โซล พร้อมเบียดลุ้นแชมป์เต็มตัว ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดุดัน มีระบบเกมรุกที่เข้าขาและจบสกอร์คม โดยเฉพาะ ดีเอโก้ ที่วันนี้กลายเป็นจุดศูนย์กลางเกมรุกของทีมอย่างแท้จริง
ด้าน กัมบะ โอซาก้า แม้พยายามเปิดเกมสู้และมีจังหวะยิงหลายครั้ง แต่ความเฉียบคมที่ขาดหาย รวมถึงเกมรับที่หลวมเกินไปทำให้ต้องพ่ายเละในบ้านแบบเจ็บปวด
ความสำคัญของชัยชนะนัดนี้
การบุกคว้า 3 คะแนนในบ้านของทีมใหญ่ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญของเรย์โซล เพราะนอกจากจะเก็บแต้มสำคัญแล้ว ยังตัดกำลังใจของคู่แข่งโดยตรง การจี้จ่าฝูงเหลือเพียง 3 คะแนน ทำให้การลุ้นแชมป์ในช่วงโค้งสุดท้ายของ เจ1 ลีก เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปคือโปรแกรมที่เหลือของเรย์โซล ซึ่งเต็มไปด้วยคู่แข่งโซนกลางตาราง หากพวกเขารักษาฟอร์มแบบนี้ไว้ได้ การเบียดแย่งแชมป์กับ คาชิม่า จะระอุสุดขีดแน่นอน
มองเกมนี้ให้ลึก: ความแตกต่างอยู่ที่ความคม
เมื่อมองเชิงแท็กติก เรย์โซลเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งการยืนตำแหน่ง การเล่นจังหวะสอง และความมั่นใจเวลาเข้าทำ พวกเขาใช้โอกาสไม่เปลือง ยิงเข้ากรอบแทบทุกครั้งที่ได้จบ ต่างจากกัมบะที่แม้พยายามเปิดเกมรุกบ้าง แต่ไม่มีความเฉียบขาดพอจะเปลี่ยนเกมให้กลับมาได้
ชัยชนะถล่มทลายครั้งนี้ไม่เพียงยกระดับความมั่นใจ แต่ยังสร้างความกดดันอย่างมหาศาลให้ทีมจ่าฝูง ก่อนที่ฤดูกาลจะเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
แฟนบอลญี่ปุ่นจับตาโค้งสุดท้ายสุดเดือด
ในประวัติศาสตร์ เจ1 ลีก หลายฤดูกาลที่ผ่านมา มักมีจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นใน 5 นัดสุดท้าย และชัยชนะของเรย์โซลครั้งนี้ อาจเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญที่ทำให้ภาพรวมของการลุ้นแชมป์เปลี่ยนไป ความมั่นใจ ความต่อเนื่อง และความเฉียบคมจะเป็นปัจจัยชี้ชะตาในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
ฟุตบอลญี่ปุ่นมักขึ้นชื่อเรื่องแท็กติกที่ละเอียด เกมเร็ว และความมีวินัยสูง การแย่งแชมป์ปีนี้จึงเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่แฟนบอลทั่วเอเชียต่างเฝ้าจับตา
จบเกมด้วยความมั่นใจของเรย์โซล
เมื่อเสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้น คาชิว่า เรย์โซล เก็บชัยแบบไร้ข้อกังขา 5-0 เก็บเพิ่มเป็น 63 คะแนน ไล่จี้ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส เหลือเพียง 3 แต้ม ขณะที่ กัมบะ โอซาก้า ยังคงมี 50 คะแนนเท่าเดิม พร้อมโจทย์ใหญ่ให้กู้ความมั่นใจกลับมาในเกมต่อไป
แฟนบอลเตรียมติดตามโปรแกรมต่อไปของทั้งสองทีมได้แบบใกล้ชิด เพราะนี่อาจเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของฤดูกาลนี้ ติดตามข่าวบอลแบบเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา
