ทาคาชิ คิยามะ โค้ชหัวใจเหล็ก พลิกชีวิตล้มลุกสู่ตำนานพาโอกายาม่าจารึกประวัติศาสตร์เจลีก

ทาคาชิ คิยามะ ชื่อที่กำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในวงการฟุตบอลญี่ปุ่นหลังจากที่เขาพา ฟาเจียโน่ โอกายาม่า สโมสรเล็กจากจังหวัดโอคายาม่า ทะยานขึ้นสู่ เจลีก 1 ลีกสูงสุดของประเทศได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นห้วงเวลาที่ทุกคนรอคอยมายาวนาน โดยเฉพาะหลังจากที่ทีมเอาชนะ เวกัลตะ เซนได 2-0 ในรอบเพลย์ออฟชิงสิทธิ์เลื่อนชั้นเมื่อปลายปี 2024

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา

ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะโชคช่วย แต่เป็นผลลัพธ์จากการทำงานหนักและความไม่ย่อท้อของ คิยามะ โค้ชผู้ที่ชีวิตเต็มไปด้วยการล้มแล้วลุก เรียนรู้จากความผิดหวังและความพ่ายแพ้จนสร้างตำนานบทใหม่ให้กับตัวเองและสโมสรแห่งนี้

ชีวิตนักเตะ: ก้าวแรกบนเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

ทาคาชิ คิยามะ เกิดในเมืองอิตามิ จังหวัดเฮียวโงะ และเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลตั้งแต่ระดับประถมศึกษา จนก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมมหาวิทยาลัยสึคุบะในตำแหน่งกองกลาง การเล่นอันยอดเยี่ยมในช่วงมหาวิทยาลัยทำให้เขาได้รับโอกาสเซ็นสัญญากับ กัมบะ โอซาก้า ในปี 1994

แต่ชีวิตนักเตะอาชีพของคิยามะไม่ได้ราบรื่น เขาได้รับบาดเจ็บหนักถึง 2 ครั้งระหว่างเล่นให้กัมบะ และหลังจากย้ายไปเล่นให้กับ ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร ในปี 1998 เขาก็ต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บที่รุนแรงจนตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอล อย่างไรก็ตาม ด้วยความรักในเกมลูกหนัง เขาฟื้นฟูร่างกายกลับมาลงสนามในสีเสื้อของ มิโตะ ฮอลี่ฮอค และเล่นต่อไปอีก 4 ฤดูกาล ก่อนจะรีไทร์อย่างถาวร

ชีวิตโค้ช: บทเรียนแห่งความล้มเหลวที่สร้างผู้นำ

หลังรีไทร์จากการเล่นฟุตบอล คิยามะ ไม่ได้หันหลังให้กับวงการ เขาเริ่มต้นอาชีพโค้ชกับมหาวิทยาลัยสึคุบะ และต่อยอดด้วยการทำงานกับทีมเยาวชนของ วิสเซล โกเบ ที่พาทีมเยาวชนคว้าแชมป์ในปี 2005 ก่อนเข้าสู่วงการโค้ชอาชีพเต็มตัวในปี 2008 กับ มิโตะ ฮอลี่ฮอค

ในฐานะโค้ช เขาเคยนำทีมเข้าสู่รอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นถึง 5 ครั้ง แต่ไม่สามารถพาทีมเลื่อนชั้นได้สำเร็จถึง 4 ครั้ง ความล้มเหลวเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เขาย่อท้อ กลับกันมันยิ่งหล่อหลอมให้เขากลายเป็นโค้ชที่แข็งแกร่งและมุ่งมั่นมากขึ้น

จุดเปลี่ยนที่สร้างตำนาน

ปี 2022 คิยามะเข้ารับตำแหน่งกุนซือของ ฟาเจียโน่ โอกายาม่า โดยพาทีมจบอันดับ 3 ในเจลีก 2 และเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับ มอนเตดิโอ ยามากาตะ จนต้องผิดหวังอีกครั้ง ทว่าในฤดูกาล 2024 เขาพาทีมจบอันดับ 5 และคว้าสิทธิ์เพลย์ออฟเลื่อนชั้นอีกครั้ง

ในรอบชิงชนะเลิศ คิยามะพาทีมโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม เอาชนะ เวกัลตะ เซนได 2-0 สร้างประวัติศาสตร์พาทีมเลื่อนชั้นสู่เจลีก 1 ได้สำเร็จ นี่คือความสำเร็จที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้ของโค้ชวัย 52 ปีรายนี้

ติดตามข่าวบอลเจลีกอัพเดทก่อนใครที่ ดูบอลเจลีกบ้านกีฬา