บิ๊กแก่ นคร พวงบุบผา ประธานสโมสร การท่าเรือ ASM ยืนยันด้วยความมั่นใจว่า ฉัตร โชติช่วง กองหน้าฟุตซอลทีมชาติไทยดีกรีชุดลุยศึก AFF 2024 คืออัญมณีที่เขารอคอย หลังติดตามฝีเท้าและความสามารถของดาวเตะวัย 26 ปีคนนี้มานานกว่า 1 ปีเต็ม โดยเชื่อมั่นว่าสไตล์การเล่นและทัศนคติของฉัตรจะเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างฝันให้แก่นักฟุตซอลรุ่นใหม่อีกหลายคน
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
ในฐานะนักเตะฟุตซอลทีมชาติไทย ฉัตร โชติช่วง ได้รับเกียรติเป็น 1 ใน 7 ผู้เล่นหน้าใหม่ที่ติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก เตรียมลงสนามสู้ศึก อาเซียน 2024 ณ จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 2-10 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวครั้งสำคัญในเส้นทางระดับทีมชาติของเจ้าตัว
ฉัตร โชติช่วง หนุ่มผู้มีประสบการณ์ในสนามสูง เข้าร่วมสังกัดทีม การท่าเรือ ASM ซึ่งเป็นแชมป์ MEA ฟุตซอลไทยลีก 2024 เลกแรกในซีซั่นนี้ หลังจากที่เขาเคยลงสนามให้กับทีมสุราษฎร์ธานีในฤดูกาลก่อน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ทีมท่าเรือตัดสินใจดึงตัวเขาเข้าร่วมทัพ และพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นตัวอย่างที่ดีในการสำนึกในบุญคุณของโค้ชผู้ฝึกสอน และให้ความสำคัญกับการพัฒนาฝีเท้าของตนอย่างต่อเนื่อง
ประธานสโมสร การท่าเรือ ASM กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการดึงตัว ฉัตร โชติช่วง เข้ามาร่วมทีม หลังจากที่เฝ้าติดตามฟอร์มการเล่นมาอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ปีที่แล้ว เขาเปิดเผยว่าฉัตรแสดงความตั้งใจ และทุ่มเทอย่างจริงจังในการฝึกซ้อมทุกครั้ง เชื่อฟังคำสั่งโค้ชและแสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ รวมถึงการเสริมซ้อมนอกรอบเป็นประจำ
โค้ช อุดม ทวีสุข ที่รับหน้าที่ในการสอดส่องพัฒนาการของฉัตรยังกล่าวชื่นชมในทักษะและการพัฒนาของเจ้าตัว ด้วยสไตล์การเล่นที่กระตือรือร้น พร้อมทุ่มเทในการฝึกซ้อมอย่างไม่ลดละ ทำให้ทีมเชื่อมั่นว่าการดึงตัวเขามาสู่ทัพการท่าเรือ ASM จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมอย่างแน่นอน อีกทั้งเขายังถือเป็นนักเตะที่กล้าพัฒนาและมีความเคารพต่อโค้ช เช่น โค้ชเอก วิศาล ไหมวิจิตร ที่เคยทำทีมฟุตซอลคนหูหนวกทีมชาติไทยมาก่อน ซึ่งโค้ชเอกได้ปลูกฝังแนวคิดที่ดีในการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักกีฬาหลายคนรวมถึงฉัตร
ไม่ใช่เพียงฝีเท้าและทักษะที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ฉัตรยังเป็นตัวอย่างของความอดทนและการต่อสู้เพื่อความสำเร็จ แม้ว่าเจ้าตัวจะมีข้อจำกัดด้านการได้ยินซึ่งรับรู้ได้เพียงราว 60% แต่เขาก็ยังสามารถฝึกฝนและทำงานหนักเพื่อพัฒนาฝีเท้าของตนเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงที่ฝึกซ้อมร่วมกับทีมท่าเรือ ซึ่งเป็นช่วงที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของเขาในการพัฒนาตัวเองให้ก้าวสู่จุดสูงสุดของวงการฟุตซอล
การท่าเรือ ASM ได้ตัดสินใจดึงตัวฉัตรเข้าร่วมทีมหลังจากที่ โค้ชเอก ได้เปิดโอกาสให้ฉัตรพิสูจน์ความสามารถในสนาม หลังจากการเก็บตัวที่กรุงเทพฯ และลงแข่งที่สุราษฎร์ธานี ซึ่งการทำงานของฉัตรได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีม และเป็นที่ประทับใจในเรื่องของความพยายามและการเสริมซ้อมที่ไม่หยุดนิ่ง ทำให้บิ๊กแก่มั่นใจว่า การเสริมทัพด้วยฉัตรจะนำทีมก้าวสู่การคว้าแชมป์อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในศึกฟุตซอลลีกต่อไป
ติดตามข่าวฟุตซอลไทยอัพเดทก่อนใครที่ ฟุตซอลสดบ้านกีฬา