ผึ้งพิฆาตนนทบุรี สู้ยักษ์ใหญ่การท่าเรือ จบด้วยการเสมอ 4-4 แบบระทึกใจเปิดดราม่า

การแข่งขันฟุตซอลไทยลีก 2024/25 นัดที่ 3 แมตช์เดย์สุดท้ายของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทีมนนทบุรี ฟุตซอลคลับ เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของยักษ์ใหญ่อย่างการท่าเรือ เอเอสเอ็ม ผลการแข่งขันเสมอกันไป 4-4 ในเกมที่เต็มไปด้วยดราม่าหลายช่วง

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

นอกจากความตื่นเต้นระดับเต็มที่ที่ผู้ชมได้รับ เรายังได้เห็นแท็คติคที่ท้าทายของเจ้าบ้าน “ผึ้งพิฆาต” ที่ใช้แผน “พาวเวอร์เพลย์” แทบตลอดเวลาที่ครองบอล แม้ว่าเกมจะเสมอหรือนำอยู่ ก็ยังนำผู้รักษาประตูขึ้นมาเล่นเป็นผู้เล่นคนที่ 5 กลยุทธ์นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับพวกเขา แต่เป็นภาพที่แฟนบอลคุ้นเคยดี อะไรทำให้พวกเขามั่นใจได้ขนาดนี้? วันนี้ฟุตซอลไทยแลนด์จะพาไปเจาะลึกกัน

“มันเริ่มจากการที่ผมดูผู้เล่นของเรา แล้วพยายามหาวิธีลดช่องว่างในการแข่งขันกับทีมใหญ่ และเพิ่มคุณภาพในการต่อสู้กับทุกทีมในลีก” โค้ชอรรถ อรรถพล แตงร่ม กุนซือแห่งทัพผึ้งพิฆาตกล่าวถึงที่มาของแท็คติคนี้ ซึ่งเริ่มใช้ตั้งแต่เกมกับธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน เมื่อช่วงต้นฤดูกาล 2023 ที่ผ่านมา

แผน “ผึ้ง” คือการเล่นแบบพาวเวอร์เพลย์ ที่ใช้ผู้เล่นพิเศษในแดนคู่ต่อสู้และให้ผู้เล่นอีก 4 คนครองบอลในแดนตัวเองเพื่อเอาชนะการเพรสซิ่ง หากคู่ต่อสู้เลือกที่จะขึ้นมาไล่บอล 3 คน ผู้เล่นนนทบุรีก็จะต่อบอลสั้นแบบลิงชิงบอลเพื่อเอาชนะการกดดัน แต่หากทีมตรงข้ามขึ้นมาไล่ 4 คน ก็พร้อมจะเล่นบอลยาวขึ้นไปให้ผู้เล่นพิเศษเข้าทำประตูทันที

แผนนี้ฟังดูสมบูรณ์แบบ แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยง เพราะหากการต่อบอลผิดพลาด พวกเขาอาจเสียประตูทันที

“พวกเรารู้ดีว่ามันมีความเสี่ยง แต่เราเลือกที่จะซัพพอร์ตกันและกัน แนะนำกันและฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดและทำให้กลยุทธ์นี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น”

โค้ชอรรถกล่าวถึงความสำคัญของโครงสร้างการเล่นและจิตใจที่แข็งแกร่งของผู้เล่นว่า “หลายคนอาจมองว่าการมีผู้เล่นอย่าง เจ พชรนินทร์ หรือ ฟลุค พีรณัฐ ทำให้แผนนี้สำเร็จ แต่สำหรับผม โครงสร้างและจิตใจของผู้เล่นต่างหากคือสิ่งที่สำคัญกว่า ทุกคนสามารถทดแทนกันได้ในระบบนี้”

กุนซือหนวดเฟิร์มกล่าวทิ้งท้ายถึงแท็คติค “ผึ้ง” ที่เขายืนยันว่าจะพัฒนาต่อไป เพื่อให้คู่ต่อสู้ที่เจอต้องเหนื่อยมากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือการมอบความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลที่รักในการชมฟุตซอล

ติดตามข่าวสารฟุตซอลได้ที่ : ฟุตซอลบ้านกีฬา