
หลังจบเกมที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและความผิดหวัง มิเกล โรดริโก้ เฮดโค้ชทีม ฟุตซอลทีมชาติไทย ออกมายอมรับแบบตรงไปตรงมาว่า ทีมไทยยังคงมีระยะห่างกับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ทีมชาติอิหร่าน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งสมศักดิ์ศรี แชมป์เอเชีย ในศึก SAT Futsal Championship Thailand 2025 ที่สนามอินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก โดยผลการแข่งขันจบลงที่ไทยแพ้ไป 2-6 คว้าอันดับ 3 ของทัวร์นาเมนต์
แม้จะเป็นแมตช์ที่แฟนบอลคาดหวังว่าไทยจะล้างตาได้บ้างหลังเคยพ่ายมาก่อนหน้า แต่เมื่อเจอกับของจริงในสนาม กลับเป็นฝ่ายอิหร่านที่แสดงศักยภาพเหนือกว่าแบบชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องของแท็กติก ความนิ่ง และการจัดการกับสถานการณ์ในเกม ซึ่งมิเกลก็ไม่อ้อมค้อมในการยอมรับข้อเท็จจริงนี้
“วันนี้เป็นวันของพวกเขาอีกครั้ง อิหร่านทำได้ดีในทุกจังหวะของเกม พวกเขาคือทีมที่ควบคุมเกมไว้ได้หมด” มิเกลเปิดใจหลังจบเกม
เกมเริ่มต้นเหมือนจะเป็นไปตามแผนของไทยเมื่อสามารถยิงประตูขึ้นนำ 1-0 ได้ก่อน พร้อมกับรูปเกมที่ดูสูสี แต่แล้วเพียง 10 วินาทีหลังจากนั้น อิหร่านก็ไล่ตีเสมอทันที พร้อมฉวยโอกาสเดินหน้าใส่ต่อเนื่อง จนกระทั่งพลิกแซงและนำห่าง 3-1 ทำให้เกมเปลี่ยนโฉมไปโดยสิ้นเชิง
มิเกลชี้ว่าจุดเปลี่ยนสำคัญอีกจุดคือจังหวะที่ไทยได้จุดโทษที่สอง ซึ่งหากยิงเข้าอาจไล่มาเป็น 2-3 ก่อนจบครึ่งแรก ซึ่งจะทำให้เกมยังเปิดกว้าง แต่เมื่อพลาดไป ความมั่นใจของผู้เล่นก็เริ่มหดหายและรูปเกมจึงตกเป็นของอิหร่านแบบเบ็ดเสร็จ
“หากเราทำประตูในจังหวะจุดโทษได้ เกมจะเปลี่ยนเป็น 3-2 และอาจกลับมาได้ แต่เมื่อพลาด ทุกอย่างก็พลิกทันที เราเสียสมาธิ และอารมณ์ของเกมก็ตกไปทางอิหร่านชัดเจน” โค้ชชาวสเปนกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
ในช่วงครึ่งหลัง ทีมไทยพยายามเดินเกมบุกเพื่อทวงประตูคืน โดยใช้ระบบ Power Play แบบใหม่ ซึ่งเพิ่งเริ่มนำมาใช้ในการแข่งขันรายการนี้ และมีโอกาสจบสกอร์ถึง 4 ครั้ง แต่ผู้รักษาประตูของอิหร่านกลับปฏิเสธทุกลูกอย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะถูกสวนกลับเสียประตูย้ำแผลอีกครั้ง
มิเกลกล่าวว่า “อิหร่านคือเบอร์หนึ่งของเอเชีย และพวกเขาแสดงให้เห็นว่าทำไมถึงอยู่จุดนั้น เราต้องยอมรับว่าเรายังมีจุดอ่อน โดยเฉพาะเรื่องอารมณ์และการตัดสินใจในช่วงสำคัญของเกม สิ่งเหล่านี้เราต้องเร่งปรับปรุงให้ไวที่สุด เพราะมันส่งผลต่อผลการแข่งขันโดยตรง”
แม้จะจบด้วยอันดับ 3 แต่สิ่งที่มิเกลเน้นย้ำคือการเรียนรู้จากความพ่ายแพ้ครั้งนี้ เพื่อปิดช่องว่างระหว่างไทยกับยอดทีมเอเชียอย่างอิหร่านในอนาคต พร้อมฝากถึงทีมและแฟนบอลว่า การทำงานหนักต่อจากนี้คือหัวใจสำคัญ
สำหรับผลการแข่งขันในรายการนี้ อิหร่านคว้าอันดับ 2 ไปครอง ขณะที่แชมป์ตกเป็นของทีมผู้ชนะในแมตช์รอบชิงชนะเลิศอีกคู่ที่เตะในวันเดียวกัน ส่วนฟุตซอลไทยยังคงต้องกลับไปบ้านพร้อมบทเรียนและความมุ่งมั่นใหม่
ติดตามข่าวสารวงการ ฟุตซอลทีมชาติไทย, ความเคลื่อนไหวของศึกระดับเอเชีย และบทวิเคราะห์สุดเข้มข้นได้ทุกวันกับเราได้ที่ ฟุตซอลสดบ้านกีฬา