ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-1 เชลซี วันนี้ 2/11/68

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ vs เชลซี วันนี้ 2/11/68 ดูบอลย้อนหลัง คลิปไฮไลท์ ดูบอล พรีเมียร์ลีก

เชลซีบุกดับไก่! “เจา เปโดร” ซัดชัย พาเชลซีเชือดสเปอร์สคาถิ่น 1-0 ผลบอลเดือดกลางลอนดอน โดย บ้านกีฬา

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันที่ 2 พฤศจิกายน 2025 ที่สนาม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดียม ปิดฉากลงด้วยชัยชนะของ เชลซี ที่บุกคว้า 3 แต้มสำคัญเหนือเจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วยสกอร์ 0-1 จากประตูชัยของ เจา เปโดร นาทีที่ 34 เกมนี้เข้มข้นตั้งแต่ต้นจนจบ และ บ้านกีฬา ขอสรุป ผลบอลสด แบบละเอียดทุกนาทีที่คุณต้องรู้!

รายงานการแข่งขัน: ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 0–1 เชลซี

  • นาทีที่ 1: เริ่มเกมที่ลอนดอนเหนือ เชลซีได้เขี่ยลูกเริ่มก่อน พยายามครองบอลจากแนวหลังโดยมี เอนโซ่ เฟร์นานเดซ คุมจังหวะ ขณะที่เจ้าบ้านตั้งโซนรับแน่น
  • นาทีที่ 3: เกมแรกเริ่มเดือด! ปาเป้ มาตาร์ ซาร์ (สเปอร์ส) ฟาวล์ใส่ เชา เปโดร ทำให้เชลซีได้ฟรีคิกบริเวณกลางสนาม
  • นาทีที่ 6: เชลซีได้เตะมุมแรกของเกม หลังจากลูกเปิดของ โมอิเซส ไกเซโด้ โดนแนวรับสกัดออกหลัง
  • นาทีที่ 7: เกมต้องหยุดชั่วคราวเมื่อ ลูคัส เบิร์กวัลล์ (สเปอร์ส) เจ็บหนักจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออก ส่ง ซาวี่ ซิมงส์ ลงมาแทน
  • นาทีที่ 10: ใบเหลือง! เควิน ดันโซ (สเปอร์ส) เสียบแรงใส่ เชา เปโดร ถูกผู้ตัดสินเตือนด้วยใบเหลือง
  • นาทีที่ 11: เชลซีได้ลุ้น! มาร์ก กูกูเรย่า ยิงจ่อ ๆ ด้วยซ้ายแต่แนวรับบล็อกได้ทัน ก่อนจะได้เตะมุมอีกครั้ง
  • นาทีที่ 15: เชลซีได้เตะมุมต่อเนื่อง จากการสกัดของแนวรับสเปอร์สแต่ยังจบไม่ได้
  • นาทีที่ 19: รีซ เจมส์ ลองยิงไกลด้วยขวาแต่บอลเหินข้ามคานไปไกล
  • นาทีที่ 20: เชลซีเกือบขึ้นนำ! อเลฮานโดร การ์นาโช่ ยิงเรียดเสาไกล แต่ กูลลิแอลโม่ วิคาริโอ พุ่งปัดได้เยี่ยม
  • นาทีที่ 26–30: เกมหยุดชั่วคราวสองครั้ง เพราะ วิคาริโอ (ผู้รักษาประตูสเปอร์ส) เจ็บจากจังหวะชนกับแนวรุกเชลซี แต่สามารถเล่นต่อได้
  • นาทีที่ 31: เชลซีได้จังหวะทอง! เชา เปโดร ยิงในกรอบแต่ วิคาริโอ เซฟไว้ได้อีกครั้ง
  • นาทีที่ 32: สเปอร์สสวนกลับเร็ว โมฮัมเหม็ด คูดุส ยิงไกลด้วยซ้าย บอลข้ามคานแบบได้ลุ้น
  • นาทีที่ 34 ⚽ GOAL! เชลซีขึ้นนำ 1–0! เชา เปโดร ยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมมุมบนฝั่งซ้าย ผู้แอสซิสต์: โมอิเซส ไกเซโด้ จ่ายให้เข้าเท้าพอดี
  • นาทีที่ 37–40: เกมเริ่มดุขึ้น มีการฟาวล์กันหลายครั้ง ทั้งจาก ฟอฟาน่า, คูกูเรย่า, และ เจมส์
  • นาทีที่ 43: เชา เปโดร เกือบได้อีกลูก ยิงจ่อ ๆ แต่ วิคาริโอ ปัดข้ามคานไปอย่างยอดเยี่ยม
  • นาทีที่ 46: ทดเวลาครึ่งแรก 6 นาที
  • นาทีที่ 48: ใบเหลืองสองใบติดกัน! โรดริโก เบนตันกูร์ (สเปอร์ส) เทรวอห์ ชาโลบาห์ (เชลซี)
  • นาทีที่ 51: คูดุส ได้ยิงด้วยซ้ายแต่ โรเบิร์ต ซานเชซ เซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
  • จบครึ่งแรก: สเปอร์ส 0–1 เชลซี

ครึ่งหลัง

  • นาทีที่ 46: เริ่มครึ่งหลัง สเปอร์สเปิดเกมรุกใส่ทันที แต่แนวรับเชลซียังเหนียวแน่น
  • นาทีที่ 47: ใบเหลือง! เควิน ดันโซ (สเปอร์ส) ฟาวล์แรงอีกครั้งโดนจดชื่อ
  • นาทีที่ 48: เอนโซ่ เฟร์นานเดซ ยิงไกล บอลพุ่งแรงแต่ วิคาริโอ พุ่งปัดออกมุมขวาล่างได้สุดสวย
  • นาทีที่ 53–57: เชลซีมีโอกาสติดกันสามครั้งจาก เอนโซ่, เปโดร เนโต้, และ เชา เปโดร แต่ทั้งหมดถูก วิคาริโอ เซฟไว้หมด
  • นาทีที่ 59: ใบเหลือง! ซาวี่ ซิมงส์ (สเปอร์ส) เข้าบอลช้าใส่ การ์นาโช่
  • นาทีที่ 60: สเปอร์สปรับแท็กติก ส่ง ริชาร์ลิสัน และ คริสเตียน โรเมโร่ ลงมาแทน เบนตันกูร์ และ ดันโซ
  • นาทีที่ 63: สเปอร์สได้เตะมุมสองครั้งติดแต่ยังหาทางเจาะไม่เข้า
  • นาทีที่ 65: เชลซีได้ฟรีคิกจากการโดนฟาวล์ของ ชาโลบาห์
  • นาทีที่ 66: เชลซีเปลี่ยนตัว ส่ง เจมี่ กิทเทนส์ ลงแทน การ์นาโช่
  • นาทีที่ 68: ใบเหลือง! เอนโซ่ เฟร์นานเดซ (เชลซี) โดนจดชื่อหลังเข้าสกัด ปาลินญ่า กลางสนาม
  • นาทีที่ 73: สเปอร์สเปลี่ยนสามคนรวด เบรนแนน จอห์นสัน ลงแทน โคโล มูอาน เดสตินี่ อูโดกี้ แทน เปโดร ปอร์โร วิลสัน โอโดแบร์ต แทน ซาวี่ ซิมงส์
  • นาทีที่ 74: ใบเหลือง! โมฮัมเหม็ด คูดุส (สเปอร์ส) ฟาวล์แรงใส่ คูกูเรย่า
  • นาทีที่ 76: เชลซีส่ง โรเมโอ ลาเวีย ลงแทน มาโล กุสโต เพื่อปิดเกมรับ
  • นาทีที่ 80: ปาเป้ ซาร์ ฟาวล์ ลาเวีย เชลซีได้ฟรีคิกในแดนตัวเอง
  • นาทีที่ 85: เปลี่ยนตัวสองราย! เชลซีส่ง เอสเตวาโอ ลงแทน เปโดร เนโต้ สเปอร์สส่ง ดีเจด สเปนซ์ ลงมาเติมเกม
  • นาทีที่ 87: สเปอร์สได้เตะมุมฝั่งขวา แต่แนวรับเชลซีสกัดได้หมด
  • นาทีที่ 89: ใบเหลืองสุดท้ายของเกม! เอนโซ่ เฟร์นานเดซ โดนอีกครั้งจากจังหวะทำฟาวล์ต่อเนื่อง
  • นาทีที่ 91: ทดเวลา 6 นาที เกมยังคงเดือดจนถึงช่วงท้าย
  • นาทีที่ 94: เชา เปโดร ยิงอีกครั้งแต่ วิคาริโอ พุ่งปัดได้สุดปลายมือ
  • นาทีที่ 97: ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลา
  • หมดเวลา: ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 0–1 เชลซี

แม้สเปอร์สจะแพ้ แต่ กุยเยลโม่ วิคาริโอ นายทวารของเจ้าถิ่นโชว์ฟอร์มเหนียวเซฟถึง 9 ครั้ง ได้คะแนนสูงสุดในสนาม 8.6 คะแนน เป็นกำแพงมนุษย์ที่ช่วยให้ทีมไม่พังยับ ส่วนฝั่งเชลซี เจา เปโดร คว้าคะแนน 7.7 จากการยิงประตูชัยสุดเฉียบ

ชัยชนะเกมนี้ทำให้ เชลซี ขยับขึ้นมามี 17 คะแนน จาก 10 นัด เท่ากับสเปอร์ส แต่ลูกได้เสียดีกว่าทำให้อยู่อันดับที่ 4 ส่วน ไก่เดือยทอง ยังรั้งที่ 3 แต่แพ้ในบ้านอย่างเจ็บแสบ เกมนี้แสดงให้เห็นชัดว่า “สิงห์บลูส์” ของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เริ่มกลับมามั่นใจ และจังหวะเข้าทำเฉียบคมกว่าช่วงต้นฤดูกาล

คอบอลไม่ควรพลาด! อัปเดต บ้านผลบอล และ ผลบอลสด ครบทุกลีกดัง พร้อมบทวิเคราะห์หลังเกมสุดจัดจ้าน ติดตามได้ทุกวันกับ บ้านกีฬา ศูนย์รวมข่าวบอลของคนจริงเรื่องลูกหนัง!

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา