จาก : ผลบอลสด เอฟเอ คัพ 2024 ระหว่าง บอร์นมัธ 1-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันนี้ 30/3/68 – บ้านกีฬา
บ้านกีฬา พาทุกท่านมาเกาะติดแมตช์ดราม่าสุดเดือดในศึก เอฟเอ คัพ 2025 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง บอร์นมัธ เปิดบ้านพบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเกมนี้เป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่แฟนบอลลุ้นระทึกกับ ผลบอลสด จนถึงวินาทีสุดท้าย
ในครึ่งแรก บอร์นมัธ เจ้าถิ่นสู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี โดยเน้นเกมรับเหนียวแน่นและใช้จังหวะสวนกลับที่เฉียบขาด ก่อนที่ เอฟานิลซอน จะยิงให้เจ้าถิ่นขึ้นนำในนาทีที่ 21 จากความผิดพลาดของแนวรับทีมเยือน ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ พยายามเดินเกมบุกหนัก แต่กลับยังเจาะแนวรับ บอร์นมัธ ไม่ได้ ส่งผลให้ครึ่งแรกจบด้วยสกอร์ 1-0 อย่างพลิกความคาดหมาย
เข้าสู่ครึ่งหลัง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แก้เกมส่งตัวสำรองลงมาปรับเกมรุกทันที และเห็นผลชัดเจนเมื่อ นิโก้ โอไรลี่ ที่ลงมาครึ่งหลังแอสซิสต์ให้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ตีเสมอ 1-1 ในนาที 49 จากนั้น นาทีที่ 63 แมนฯ ซิตี้ พลิกแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ ฮาแลนด์ เปิดให้ โอมาร์ มาร์มูช ตัวสำรองอีกคนซัดเข้าไปเด็ดขาด ช่วงท้ายเกมเจ้าถิ่นพยายามบุกเอาคืนแต่ก็ไม่สามารถตีเสมอได้สำเร็จ จบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกชนะ บอร์นมัธ 2-1 อย่างสุดมันส์
รายชื่อผู้เล่นตัวจริง นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
บอร์นมัธ (4-2-3-1): ผู้รักษาประตู: เกปา อาร์ริซาบาลาก้า กองหลัง: โซเลร์, ซาบาร์นยี่, เซเนซี่, คุก (กัปตัน) กองกลางตัวรับ: อดัมส์, คริสตี้ กองกลางตัวรุก: เซเมนโย่, บรู๊คส์, ไคลเวิร์ต กองหน้า: เอฟานิลซอน
ตัวสำรองที่ลงสนาม: ฮิลล์ (แทน โซเลร์ น.57), อูอัตตาร่า (แทน บรู๊คส์ น.57), สมิธ (แทน คริสตี้ น.73), สกอตต์ (แทน เอฟานิลซอน น.73), เจบบิสัน (แทน เซเนซี่ น.85)
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3): ผู้รักษาประตู: เอแดร์ซอน กองหลัง: นูเนส, คูซานอฟ, ดิอาส, กวาร์ดิโอล กองกลาง: โควาซิช, เดอ บรอยน์ (กัปตัน), กุนโดกัน กองหน้า: โฟเด้น, ฮาแลนด์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา
ตัวสำรองที่ลงสนาม: โอไรลี่ (แทน คูซานอฟ น.46), มาร์มูช (แทน ฮาแลนด์ น.61), กรีลิช (แทน โฟเด้น น.69), กอนซาเลซ และ แม็คอาที (แทน โควาซิช และ กุนโดกัน น.83)
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เกมนี้ บ้านกีฬา ขอ วิเคราะห์บอล ว่าบอร์นมัธวางแผน 4-2-3-1 โดยเน้นเกมรับเหนียวแน่น รอจังหวะสวนกลับเร็ว ซึ่งถือว่าทำได้ดีในครึ่งแรก อย่างไรก็ตาม แท็คติกนี้ทำให้พวกเขาต้องเสียแรงมากในครึ่งหลัง ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ มาในระบบ 4-3-3 เน้นการครองบอลและเจาะพื้นที่ริมเส้น แต่ช่วงแรกเจาะไม่เข้า จนกระทั่งครึ่งหลังเมื่อมีการเปลี่ยนตัวทำให้เกมรุกเฉียบขาดและอันตรายขึ้นอย่างชัดเจน จนนำมาสู่การพลิกชนะได้ในที่สุด
สถิติการแข่งขัน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองเกมได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดด้วยเปอร์เซ็นต์การครองบอลสูงถึง 64% ยิงประตูถึง 17 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง ส่วน บอร์นมัธ มีโอกาสยิงแค่ 5 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้ง แมนฯ ซิตี้ ยังผ่านบอลได้แม่นยำถึง 81% เทียบกับ บอร์นมัธ ที่ทำได้เพียง 67% นอกจากนี้ทีมเยือนยังได้เตะมุม 4 ครั้ง เจ้าบ้านมีแค่ 2 ครั้ง
เหตุการณ์สำคัญในเกม
⚽ นาที 21 เอฟานิลซอน ยิงขึ้นนำให้ บอร์นมัธ 1-0
🟨 นาที 37 อับดุคอดีร์ คูซานอฟ รับใบเหลือง (แมนฯ ซิตี้)
⚽ นาที 49 เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยิงตีเสมอให้ แมนฯ ซิตี้ 1-1 (แอสซิสต์ นิโก้ โอไรลี่)
⚽ นาที 63 โอมาร์ มาร์มูช ยิงประตูชัยให้ แมนฯ ซิตี้ 2-1 (แอสซิสต์ ฮาแลนด์)
🟨 นาที 70 ลูอิส คุก ใบเหลือง (บอร์นมัธ)
🔄 นาที 73 บอร์นมัธ เปลี่ยนตัว สมิธ และ สกอตต์ ลงสนาม
🔄 นาที 83 แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนตัว กอนซาเลซ และ แม็คอาที ลงสนาม
🟨 นาที 90+5 เจมส์ แม็คอาที รับใบเหลือง (แมนฯ ซิตี้)
Player of the match
⭐ นิโก้ โอไรลี่ (แมนฯ ซิตี้) ลงมาเปลี่ยนเกมรุกได้ยอดเยี่ยม แอสซิสต์ประตูตีเสมอ และสร้างโอกาสหลายครั้ง มีส่วนสำคัญให้ทีมพลิกกลับมาชนะได้ในที่สุด คะแนนเรตติ้ง 7.9
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะในเกมนี้ส่งให้ แมนฯ ซิตี้ เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ 2025 อย่างน่าประทับใจ ส่วน บอร์นมัธ ต้องอกหักตกรอบไปแบบเจ็บปวด
การแข่งขันนัดถัดไป
ด้าน บอร์นมัธ หลังพลาดท่าตกรอบ เอฟเอ คัพ พวกเขาต้องรีบคืนฟอร์มในพรีเมียร์ลีกให้ได้ โดยนัดถัดไปตาม ตารางบอล จะเล่นในบ้านรับการมาเยือนของ อิปสวิช ทาวน์ ในคืนวันที่ 3 เมษายน เวลา 01:45 น. ส่วนทางด้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะกลับไปโฟกัสกับเกมลีกเช่นเดียวกัน เปิดบ้านพบ เลสเตอร์ ซิตี้ ในคืนวันเดียวกันและเวลาเดียวกัน
ติดตาม ผลบอลสด และทุกความเคลื่อนไหวในวงการฟุตบอล กับ บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา เว็บไซต์ที่รวดเร็วและแม่นยำที่สุดในไทย
