การแข่งขันศึกยูฟ่ายูโรปาลีก 2024 ระหว่าง เรอัล โซเซียดาด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบลงด้วยผลบอลสด7m 1-1 แบบสุดมันส์ เกมนี้เปิดหน้าแลกกันอย่างดุเดือด โดย “ปีศาจแดง” ออกนำก่อนจากประตูของ โจชัว เซิร์กเซ่ ในนาทีที่ 57 แต่เจ้าบ้านสามารถตีเสมอได้จากจุดโทษของ มิเกล โอยาร์ซาบัล ในนาทีที่ 70 ทำให้ต้องไปตัดสินกันต่อในเลกที่สองที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ครึ่งแรก: เกมรับเหนียวแน่น โอกาสไม่มากนัก
ในช่วงครึ่งแรก ทั้งสองทีมพยายามคุมเกมกลางสนาม โดยเจ้าบ้าน เรอัล โซเซียดาด ครองบอลได้ดีกว่า แต่ไม่สามารถสร้างโอกาสจบสกอร์ได้ชัดเจน ด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้ความเร็วของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ ริคกี้ ฮอยลุนด์ ในการโต้กลับ แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะตาข่ายของ อเล็กซ์ เรเมโร่ ได้ ทำให้จบครึ่งแรกแบบไร้สกอร์ 0-0
ครึ่งหลัง: ประตูสวยและจุดโทษเปลี่ยนเกม
ครึ่งหลังเปิดมาได้ไม่กี่นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถขึ้นนำได้สำเร็จจากจังหวะสวนกลับเร็ว อเลฮานโดร การ์นาโช่ เปิดบอลให้ โจชัว เซิร์กเซ่ ยิงเข้าไปอย่างเฉียบขาดในนาทีที่ 57 แต่เกมกลับมาสนุกขึ้นเมื่อเจ้าบ้านได้จุดโทษจากการทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ และ มิเกล โอยาร์ซาบัล สังหารจุดโทษไม่พลาดในนาทีที่ 70 เกมกลับมาเสมอ 1-1
รายชื่อนักเตะตัวจริง และการเปลี่ยนตัว
เรอัล โซเซียดาด (4-3-3)
ผู้รักษาประตู: อเล็กซ์ เรเมโร่ (6.8)
กองหลัง: เอ. มูญอซ (7.2), น. อาเกร์ด (6.9), อิ. ซูเบลเดีย (6.7), เอ. เอลุสตอนโด้ (7.7)
กองกลาง: บี. ตูร์เรียนเตส (6.6), ล. ซูซิช (7.0), บี. เมนเดซ (6.9)
กองหน้า: เอ. บาร์เรเนตเซีย (6.8), มิเกล โอยาร์ซาบัล (7.7), ทาเคฟุสะ คุโบะ (6.9)
นักเตะโดดเด่น:
มิเกล โอยาร์ซาบัล (7.7) และ เอ. เอลุสตอนโด้ (7.7)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (3-4-3)
ผู้รักษาประตู: อังเดร โอนาน่า (7.3)
กองหลัง: มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ (6.8), คาเซมิโร่ (7.3), พี. ดอร์กู (6.7)
กองกลาง: ดิโอโก้ ดาโลต์ (6.9), บรูโน่ แฟร์นันเดส (6.9), ริคกี้ ฮอยลุนด์ (6.6), ลามีน โยโร (6.6)
กองหน้า: อเลฮานโดร การ์นาโช่ (7.4), โจชัว เซิร์กเซ่ (7.9), นุสแซร์ มาซราอุย (7.0)
นักเตะโดดเด่น:
โจชัว เซิร์กเซ่ (7.9) และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ (7.4)
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เรอัล โซเซียดาด ใช้ระบบ 4-3-3 ที่เน้นการครองบอลและโจมตีทางปีก โดยมี มิเกล โอยาร์ซาบัล เป็นหัวหอกที่คอยสร้างสรรค์โอกาส ทั้งการยิงและการจ่ายบอล ส่วนการเล่นเกมรับใช้ความเหนียวแน่นของ เอ. เอลุสตอนโด้ และ อิ. ซูเบลเดีย ในการหยุดเกมรุกของแมนฯ ยูไนเต็ด
ด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้ระบบ 3-4-3 ที่เน้นการสวนกลับเร็ว โดยเฉพาะการใช้ความเร็วของ การ์นาโช่ และ เซิร์กเซ่ ในการเข้าทำ แต่ปัญหาคือการขาดความแม่นยำในการจ่ายบอล ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้พลาดโอกาสเพิ่มสกอร์ในช่วงครึ่งหลัง
สถิติการแข่งขัน
ทั้งสองทีมยิงเท่ากัน 13 ครั้ง แต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงเข้ากรอบได้มากกว่า 5 ครั้ง ขณะที่เจ้าบ้านเข้ากรอบเพียง 3 ครั้ง โซเซียดาดครองบอลได้ 55% มีการส่งบอล 446 ครั้ง และมีความแม่นยำในการส่ง 82% ขณะที่ “ปีศาจแดง” ครองบอล 45% ส่งบอล 373 ครั้ง และความแม่นยำในการส่งอยู่ที่ 78%
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 57′ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 จากประตูของ โจชัว เซิร์กเซ่
🟨 56′ บรูโน่ แฟร์นันเดส ได้รับใบเหลือง
🔄 78′ คริสเตียน เอริคเซ่น ลงสนามแทน อเลฮานโดร การ์นาโช่
⚽ 70′ มิเกล โอยาร์ซาบัล ยิงจุดโทษตีเสมอให้ เรอัล โซเซียดาด
🔄 88′ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ และ โทบี้ คอลลี่ย์ ลงสนามแทน ลามีน โยโร และ โจชัว เซิร์กเซ่
Player of the Match: โจชัว เซิร์กเซ่ (7.9)
โจชัว เซิร์กเซ่ คือตัวจบสกอร์ที่พา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกนำก่อนด้วยประตูที่ยอดเยี่ยม และมีส่วนร่วมในเกมรุกอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนที่หรือการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีม การเคลื่อนที่ของเขาสร้างปัญหาให้กับแนวรับของ เรอัล โซเซียดาด ตลอดทั้งเกม
สถานการณ์ในตารางคะแนน
การเสมอนัดนี้ทำให้ทั้งสองทีมยังมีโอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปในศึกยูฟ่ายูโรปาลีก 2024 ต้องไปตัดสินกันในเลกที่สองที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน แต่ เรอัล โซเซียดาด ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาสามารถสร้างความลำบากให้กับ “ปีศาจแดง” ได้เช่นกัน
การแข่งขันนัดถัดไป
โปรแกรมนัดถัดไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ อาร์เซนอล ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ในวันที่ 9 มีนาคม 2025 เวลา 23:30 น. ส่วน เรอัล โซเซียดาด จะเจอกับ เซบีย่า ในศึกลาลีกาสเปน ในวันที่ 10 มีนาคม 2025 เวลา 03:00 น. ติดตาม ตารางบอล และผลการแข่งขันได้ที่ บ้านกีฬา
ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา
หากคุณต้องการติดตาม บ้านผลบอล และ ผลบอลสด ทุกคู่ทุกลีก อัปเดตเร็ว แม่นยำ และครบถ้วน สามารถติดตามได้ที่ บ้านกีฬา เว็บไซต์ที่ให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวในวงการฟุตบอล
