โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ Borussia Dortmund หรือเรียกอีกชื่อว่า BVB หรือดอร์ทมุนด์ เป็นสโมสรกีฬาอาชีพที่มีฐานอยู่ในเมืองดอร์ทมุนด์ ประเทศเยอรมนี สโมสรแห่งนี้มีชื่อเสียงจากทีมฟุตบอลอาชีพชาย ซึ่งปัจจุบันแข่งขันอยู่ในระดับการแข่งขันบุนเดิสลีกา ซึ่งเป็นลีกฟุตบอลสูงสุดของเยอรมนี โบรุสเซียดอร์ทมุนด์คว้าแชมป์ลีกมาแล้ว 8 สมัย เดเอฟเบโพคาล 5 สมัย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ 1 สมัย และยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย โดยคำว่าโบรุสเซียเป็นภาษาละติน หมายถึงปรัสเซีย ซึ่งเป็นอดีตราชอาณาจักรที่รวมดินแดนของเยอรมนี ให้กลายเป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่
ประวัติความเป็นมาของสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์หรือฉายาในประเทศไทย เจ้าเสือเหลือง คือหนึ่งในสโมสรชั้นนำของประเทศเยอรมัน มีประวัติศาสตร์มากกว่า 100 ปี โดยเป็นการก่อตั้งสโมสรครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1909 หรือมากกว่า 115 ปี ซึ่งอาจจะน้อยกว่าสโมสรคู่ปรับ แต่ด้วยระยะเวลาและความยิ่งใหญ่ บอกได้ว่าเทียบเท่ากับได้อย่างแน่นอน ตราสัญลักษณ์จะเป็นตัวย่อที่ทั่วโลกคุ้นชิน BVB ตั้งอยู่ที่ดอร์ทมุนท์ในรัฐนอร์ทไรน์-เว็สท์ฟาเลิน ในประเทศเยอรมัน มีชื่อเสียงมากสำหรับสโมสรฟุตบอลชาย ในเวลานี้อยู่ในลีกสูงที่สุดของประเทศอีกด้วย และเคยขึ้นไปคว้าแชมป์รายการสำคัญมากมาย
ไม่ว่าจะภายในประเทศหรือว่าระดับยุโรป เนื่องจากว่าสโมสรฟุตบอลถ้ามีการก่อตั้งมาเป็นร้อยปี ถ้าไม่สามารถสร้างชื่อเอาไว้ ต่อมให้มีระยะเวลานานเท่าไหร่ก็จะไม่มีประโยชน์นั่นเอง การพัฒนาและผ่านช่วงยุคสงครามโลกเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะว่าการที่เป็นสโมสรในประเทศเยอรมัน เรื่องของสงครามถ้าไม่ทำให้เปลี่ยนแปลงในทิศทางที่แย่ลง การที่จะกลับมายิ่งใหญ่หรือว่ามีมาตรฐาน จะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนั่นเอง เริ่มต้นครั้งแรกเป็นการรวมตัวของนักฟุตบอล 18 คน ที่มีความสนใจและอยากที่จะพัฒนาความสามารถ
จนกระทั่งกลายมาเป็นการก่อตั้งสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในทุกวันนี้ บอกได้ว่าแฟนบอลจากทั่วโลกมากกว่า 145,000 คนทั่วโลก และในฐานะสโมสรฟุตบอลอันดับที่ 2 ของประเทศ ช่วยเพิ่มเติมความน่าสนใจให้กับแฟนบอลได้จริง โดยความยิ่งใหญ่ในประเภทของฟุตบอลมาเป็นอันดับที่ 1 แต่ทว่าสโมสรแห่งนี้ยังมีกีฬาที่น่าสนใจอีกอย่าง ทีมแฮนด์บอลหญิง ในช่วงปี ค.ศ. 1974 และมีข้อมูลระบุเอาไว้ว่าเป็นหนึ่งในสโมสรหญิงที่ดีที่สุดในประเทศเยอรมันอีกด้วย ความเป็นเอกลักษณ์ของสีสโมสร เรียกได้ว่าพื้นฐานสีที่ชัดเจนไม่เคยเปลี่ยนแปลง และกลายมาเป็นชื่อเรียกฉายาที่แฟนบอลชาวไทยมากมายรู้จัก
มาดูรายละเอียดเกี่ยวกับการเริ่มต้น เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มเติมข้อมูลที่แฟนบอลมากมายไม่เคยรู้มาก่อน จุดเริ่มต้นจากการไม่พอใจของทางโบสถ์คาทอลิกที่มีการสนับสนุนเด็กในศาสนาเดียวกัน ซึ่งการเจาะจงและแบ่งแยกเรื่องของศาสนาเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนมากที่สุด มีการแข่งขันฟุตบอลด้วยท่าทีที่แข็งกร้าว บาทหลวงดีวาลด์ และรวมกับทางกลุ่มผู้ก่อตั้งสโมสรและกลายมาเป็นการเริ่มต้นสโมสร โดยชื่อของทางสโมสรมาจากโรงเบียร์โบรุสซีอาที่ตั้งอยู่ภายในเมือง ลงแข่งขันครั้งแรกในรูปแบบของลีกท้องถิ่น เนื่องจากว่าในเวลานั้นไม่มีการจัดการแข่งขันเป็นมาตรฐาน เรียกได้ว่ายังเป็นยุคเริ่มต้นความนิยมของกีฬานั่นเอง
จนถึงปี ค.ศ. 1929 สโมสรแห่งนี้เจอกับปัญหาทางการเงินที่สูงมาก กลายเป็นว่าต้องทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มีการเลิกจ้างนักเตะอาชีพหลายคน จนมีรายงานระบุเอาไว้ว่าทางสโมสรแห่งนี้เกือบที่จะล้มละลายในครั้งนั้น แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีหลงเหลือมีผู้สนับสนุนรายใหม่เข้ามา ทำให้เวลานั้นสามารถผ่านพ้นวิกฤตทางการเงิน ต่อมาในปี ค.ศ. 1930 เป็นช่วงเวลาที่เติบโตในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสโมสร นักเตะรวมไปถึงทุนทางการทำทีม มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างที่หลากหลาย ทำให้การแข่งขันฟุตบอลน่าสนใจและเหมาะสมมากขึ้น และมีการเปลี่ยนตัวประธานสโมสรคนใหม่ เนื่องจากว่าทางสโมสรไม่เข้าร่วมกับนาซี
เรียกได้ว่ายุคของการกดขี่ และมีการทำใบปลิวต่อต้านมากมาย และการเข้ามาของ เจาลิกา เวสต์มาเลน ทำให้ทิศทางของสโมสรดีขึ้นอย่างชัดเจน แต่ทุกอย่างก็ต้องรอจนกระทั่งสงครามโลกยุติลงไป การกลับมาใช้ชีวิตแบบทั่วไป การแข่งขันฟุตบอลในระดับสโมสร รวมไปถึงการพัฒนาความสามารถก็เช่นเดียวกัน เข้าสู่ยุคของลีกบุนเดสลิกา ในปี ค.ศ. 1946 มีการตั้งลีกการแข่งขันขึ้นมาใหม่ ช่วยยกระดับมาตรฐานและเพิ่มเติมเงินรางวัลได้สูงขึ้น และถือว่าสโมสรแห่งนี้สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ
เข้าร่วมรายการใหญ่มากมาย และสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ จนเมื่อปี ค.ศ. 1970 ความยิ่งใหญ่ในเวทียุโรปก็เกิดขึ้น เรียกได้ว่าจากความยิ่งใหญ่ระดับลีกภายใน ก้าวขึ้นไปแข่งขันกับสโมสรชั้นนำจากทั่วยุโรป ช่วยให้รูปแบบและการพัฒนาความสามารถเพิ่มสูง แต่การที่จะไปยิ่งใหญ่ระดับนั้นได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากว่าปีแรกก็ไม่เป็นได้แค่รองแชมป์เท่านั้น ถือว่าการเริ่มต้นก็ถือว่าทำผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ
ผลงานการแข่งขัน การคว้าแชมป์ ที่ผ่านมาในอดีตของสโสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
เพิ่มเติมข้อมูลการคว้าแชมป์ รวมไปถึงการเข้าแข่งขันในรายการใหญ่ ช่วยให้แฟนบอลมากมายเข้าใจว่า สโมสรฟุบอลโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ก็ประสบความสำเร็จมากมาย แต่ถึงจะไม่เท่ากับสโมสรชั้นนำก็ตาม เริ่มต้นจากการแข่งขันฟุตบอลลีกภายในประเทศบุนเดสลิกา สามารถที่จะคว้าแชมป์มาครองได้ถึง 8 สมัย ในปี ค.ศ. 1955-1956 , 1956-1957 , 1962-1963 , 1994-1995 , 1995-1996 , 2001-2002 , 2010-2011 และ 2011-2012 ซึ่งจากข้อมูลจะเห็นได้ว่า มีการครองแชมป์ 2 สมัยติดต่อกันถึง 3 ครั้งด้วยกัน ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญอย่างแท้จริง
เนื่องจากว่าการคว้าแชมป์ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว การป้องกันแชมป์ก็ถือว่าเป็นงานที่ยากมากกว่า ในเมื่อลีกแห่งนี้มีสุดยอดสโมสรเสือใต้นั่นเอง เดเอ็ฟเบ-โพคาล ครองแชมป์ได้ถึง 5 สมัยด้วยกัน ในปี ค.ศ. 1964-1965 , 1988-1989 , 2011-2012 , 2016-2017 และ 2020-2021 เดเอ็ฟเอ็ล-ซูเพอร์คัพ 6 สมัยด้วยกัน ในปี ค.ศ. 1989 , 1995 , 1996 , 2013 , 2014 และ 2019 เช่นเดียวกันรายการแข่งขันนี้ สามารถครองแชมป์ 2 สมัยติดต่อกันถึง 2 ครั้ง เดเอ็ฟเบ-ลีกาโพคาล ทำได้เพียงแค่รองแชมป์ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 2003 โอเบอร์ลีกาเวสต์ 6 สมัย
ในปี ค.ศ. 1947-1948 , 1948-1949 , 1949-1950 , 1952-1953 , 1955-1956 และ 1956-1957 ในการแข่งขันในระดับยุโรป ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1996-1997 ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1965-1966 ยูฟ่าคัพทำได้เพียงแค่รองชนะเลิศ 2 ครั้ง ในปี ค.ศ. 1992-1993 และ 2001-2002 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ รอบรองชนะเลิศ 1 ครั้ง ในปี ค.ศ. 1997 และระดับสโมสรโลก อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1997 และนี่คือบันทึกที่ทุกคนในฐานะแฟนบอลสนใจมากที่สุด จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าความยิ่งใหญ่และการคว้าแชมป์มากมาย ช่วยให้สโมสรแห่งนี้คือตัวเลือกที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก
สรุปภาพรวมการแข่งขันของสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในฤดูกาล 2023-2024
ถ้าพูดถึงภาพรวมและผลงานในฤดูกาลล่าสุด ถือว่าสโมสรแห่งนี้ลดมาตรฐานลงไป จากแชมป์และรองแชมป์ เนื่องจากว่าจบในอันดับที่ 5 ของลีก แต่เหนือสิ่งอื่นใดสโมสรเสือใต้ก็ไม่สามารถที่ครองแชมป์ได้เช่นเดียวกัน การมาใหม่ของสโมสรห้างขายยา ที่มีสถิติไม่แพ้ใครในลีกกลายเป็นการคว้าแชมป์แบบไร้การแพ้ ส่งผลให้ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่สโมสรแห่งนี้ต้องการ ลงแข่งขันไปถึง 34 นัดด้วยกัน เป็นการชนะได้เพียงแค่ 18 นัด เสมอ 9 และแพ้ไป 7 นัด มีผลคะแนนรวม 63 ซึ่งน้อยกว่าอันดับที่ 4 แค่ 2 แต้ม มีผลต่างประตูได้เสีย 68 ประตูเสีย 43 เท่ากับว่าทำผลงานได้ดี แต่ก็ต้องเสียประตูจำนวนมากเช่นเดียวกัน โดยทั่วไปแล้วการเปลี่ยนตัวของนักเตะมากมาย รวมไปถึงสภาพของเงินที่ไม่มากมาย ทำให้ไม่พัฒนาสโมสรไปในทิศทางที่ควรจะเป็น การที่จบอันดับ 5 ส่งผลให้ปีต่อไป ต้องมีการแข่งขันที่ยากมากขึ้น การที่สโมสรจะกลับขึ้นไปสู่แชมป์ได้อีกครั้ง อาจจะต้องดูการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง