ดอร์ทมุนด์เล็งดึงเสาหลักคู่แข่งร่วมลีกเสริมกลางสนาม
ตลาดหน้าหนาวในศึก บุนเดสลีกา กำลังเตรียมระอุ เมื่อมีรายงานว่าทาง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พร้อมขยับตัวเสริมทัพแบบจริงจังด้วยการเล็งคว้าตัว ฮูโก้ ลาร์สสัน ห้องเครื่องคนสำคัญของ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต มาร่วมทีม ซึ่งถือเป็นดีลในลีกเดียวกันที่ทั้งลุ้น ทั้งเสียวสำหรับแฟนบอลของอินทรีแดงดำอย่างแท้จริง
ก่อนหน้านี้เกมแดนกลางของดอร์ทมุนด์โดนวิจารณ์อย่างต่อเนื่องว่า “ยังไม่แน่นพอ” สำหรับการไล่ล่าความสำเร็จทั้งในลีกและเวทียุโรป การมองหาแข้งมิดฟิลด์ที่วิ่งได้ไม่มีหมด ครองบอลได้แน่น และอ่านจังหวะเกมเก่ง จึงกลายเป็นโจทย์ใหญ่ของทีมเสือเหลือง และชื่อของลาร์สสันก็ค่อยๆ โผล่ขึ้นมาในลิสต์เป้าหมายหลัก
ลาร์สสัน ดาวรุ่งวัย 21 ที่กลายเป็นหัวใจของแฟร้งค์เฟิร์ต
ฮูโก้ ลาร์สสัน มิดฟิลด์ชาวสวีเดนวัย 21 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นคีย์แมนของแฟร้งค์เฟิร์ตตลอดสองฤดูกาลที่ผ่านมา แม้สโมสรจะออกสตาร์ตซีซันนี้แบบ “ทรงกลางๆ” ไม่หวือหวาเท่าไหร่ แต่ผลงานส่วนตัวของลาร์สสันกลับโดดเด่นจนถูกมองว่าเป็น “คนสุดท้ายที่ทีมจะยอมขาย”
เขาเป็นมิดฟิลด์ประเภทวิ่งเคลื่อนที่ตลอดเกม เชื่อมบอลระหว่างรับกับรุก เก็บบอลจังหวะสองได้ดี แถมยังช่วยเพรสซิ่งในพื้นที่กลางสนามจนคู่แข่งเล่นยาก เป็นโปรไฟล์ที่ตรงกับสไตล์การเล่นฟุตบอลเพรสซิ่งสูงของดอร์ทมุนด์แบบเกือบเป๊ะ แฟนบอลที่ติดตาม บ้านกีฬา มาตลอดคงรู้ดีว่ามิดฟิลด์สไตล์นี้สำคัญแค่ไหนในบอลยุคใหม่
ค่าตัว 30–40 ล้านยูโร ทำไมดอร์ทมุนด์ยังยอมลุ้น
ตามรายงานจากสื่อสายตลาดนักเตะอย่าง ‘Sky’ และอินไซเดอร์ด้านการย้ายทีม ระบุว่าดอร์ทมุนด์ “ตามดูฟอร์ม” ลาร์สสันมาสักพักแล้ว และหากจะปิดดีลในช่วงตลาดหน้าหนาวนี้ เชื่อว่าค่าตัวจะอยู่ในช่วงราวๆ 30–40 ล้านยูโร ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงสำหรับนักเตะวัยเพียง 21 ปีจากทีมระดับกลางตารางบุนเดสลีกา
แต่ในมุมมองของสโมสรใหญ่ ตัวเลขแบบนี้สามารถมองได้ว่าเป็น “การลงทุนระยะยาว” มากกว่าจะเป็นการซื้อนักเตะแบบใช้แล้วทิ้ง หากลาร์สสันพัฒนาตัวเองต่อเนื่อง สามารถยกระดับเกมแดนกลางของดอร์ทมุนด์ได้จริง ทีมเสือเหลืองอาจได้ทั้งคุณภาพในสนาม และโอกาสขายต่อในอนาคตหากมีทีมยักษ์ใหญ่จากลีกอื่นมาทาบทาม ด้วยค่าตัวที่สูงกว่านี้อีกขั้น
ความเสี่ยงของแฟร้งค์เฟิร์ตหากเสียเสาหลักแดนกลาง
ฝั่งแฟร้งค์เฟิร์ตเอง ถ้าต้องเสียลาร์สสันไปกลางซีซัน ความกระทบชัดเจนที่สุดคือ “ความสมดุลในแดนกลาง” ที่อาจหายไปแบบทันทีทันใด การหาตัวแทนที่เล่นได้ครบเครื่องทั้งเกมรับและเกมรุก ไม่ใช่เรื่องง่ายในตลาดหน้าหนาว ยิ่งถ้าทีมยังมีเป้าหมายในการลุ้นโควตาบอลยุโรป การปล่อยคีย์แมนแบบนี้ก็เสี่ยงสูงอย่างไม่ต้องสงสัย
ในแง่ของบอร์ดบริหาร นี่คือการชั่งน้ำหนักระหว่าง “เงินก้อนใหญ่” กับ “ผลงานในสนาม” ว่าจะเลือกอะไรสำคัญกว่ากันในระยะสั้นและระยะยาว หากสุดท้ายข้อเสนอจากดอร์ทมุนด์สูงเกินกว่าจะปฏิเสธได้ ดีลนี้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นจริงอย่างมาก
เทรนด์ทีมใหญ่ดึงสตาร์จากทีมระดับกลางในบุนเดสลีกา
ปรากฏการณ์ทีมใหญ่ในบุนเดสลีกาดึงสตาร์จากทีมระดับกลางหรือเล็ก นับว่าเป็นภาพที่แฟนบอลเห็นกันบ่อยในช่วงหลายปีหลัง สโมสรอย่างดอร์ทมุนด์หรือบาเยิร์นมักใช้วิธี “ดูดตัวเด่นในลีกตัวเอง” เพื่อเสริมทัพ เป็นทั้งการยกระดับทีมตัวเอง และลดศักยภาพคู่แข่ง間ไปในตัว
ในมุมแฟนบอล มันอาจรู้สึกเหมือนทีมเล็กไม่ค่อยมีโอกาสไล่ลุ้นแชมป์ยาวๆ เพราะพอปั้นนักเตะดีขึ้นมาก็ถูกซื้อออกไป แต่ในอีกมุมหนึ่ง นี่คือระบบเศรษฐกิจลูกหนังที่ทำให้ทีมกลางตารางยังมีเงินหมุนเวียนในสโมสร สามารถเอาไปลงทุนกับดาวรุ่งหน้าใหม่ สอดคล้องกับโมเดล “ซื้อถูก–ขายแพง” ที่หลายทีมใช้เป็นทางรอดในยุคฟุตบอลธุรกิจเต็มรูปแบบ
มุมมองแฟนบอลไทยต่อดีลนี้ถ้าเกิดขึ้นจริง
สำหรับแฟนบอลชาวไทยที่ติดตามทั้ง ตลาดซื้อขายนักเตะ และศึกบุนเดสลีกา ดีลระดับ 30–40 ล้านยูโรของลาร์สสัน หากปิดจริง จะเป็นอีกหนึ่งเคสที่น่าจับตาในเชิงแท็กติก ว่าดอร์ทมุนด์จะเอาเขาไปใช้ในบทบาทไหน จะจับยืนเป็นเบอร์ 8 แบบบ็อกซ์ทูบ็อกซ์เต็มตัว หรือดึงลงมาต่ำช่วยคุมจังหวะเกม
อีกด้านหนึ่ง แฟนแฟร้งค์เฟิร์ตก็คงตั้งคำถามว่าทีมจะเดินต่ออย่างไรหากเสียห้องเครื่องตัวเก่งไปกลางฤดูกาล และจะมีใครก้าวขึ้นมารับไม้ต่อในแดนกลางได้แบบไม่ทำให้คุณภาพทีมดร็อปลงมากเกินไป นี่แหละเสน่ห์ของลูกหนังยุโรป ที่ไม่ได้มีแค่ผลการแข่งขันในสนาม แต่เรื่องราวนอกสนามอย่างข่าวย้ายทีมก็ทำให้แฟนบอลต้องตามลุ้นกันตลอดทั้งปี
แฟนบอลที่อยากตามทุกความเคลื่อนไหวของข่าวร้อนตลาดนักเตะยุโรป เรื่องลึก หลังบ้าน ความเคลื่อนไหวในศึกบุนเดสลีกา และโลกฟุตบอลแบบจัดเต็ม อย่าลืมติดตามความอัปเดตมันส์ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

