ภาพรวมเกม: ไมนซ์บุกสวนกระแส “ของโหด” ที่อัลลิอันซ์ อารีน่า
ถ้าเป็นทีมอื่นใน บุนเดสลีกา แค่บุกมาเยือน อัลลิอันซ์ อารีน่า แล้วรอดกลับบ้านโดยไม่โดนยิง 4–5 ลูกก็ถือว่า “ภารกิจสำเร็จ” กันแล้ว ลองไปถามสโมสรอย่าง ฮัมบูร์ก, สตุ๊ตการ์ท หรือเบรเมนดูได้ ว่าที่นี่มันโหดขนาดไหน
แต่สำหรับ ไมนซ์ 05 เกมนี้อารมณ์ต่างกันคนละโลก เพราะพวกเขาไม่ได้มาเพื่อเอาแค่แต้มเดียวแล้วหนีกลับบ้าน นาทีที่ 67 ลี แจ ซอง ซัดให้ทีมเยือนออกนำ 2-1 ถึงถิ่นแชมป์เก่า กลิ่นของการสร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ในลีกเริ่มชัดขึ้นทุกนาที
ความดราม่ามาแตกเอาช่วงท้ายเกม เมื่อเจ้าถิ่น บาเยิร์น มิวนิค มาได้จุดโทษก่อนหมดเวลาปกติ 3 นาที และเป็น แฮร์รี เคน รับหน้าที่สังหารตามสูตร ช่วยกอบกู้หน้าแชมป์เก่าจากการแพ้ทีมบ๊วยได้แบบหวุดหวิด สกอร์จบ 2-2 แต่ความรู้สึกของสองฝั่งต่างกันสุดขั้ว
สำหรับไมนซ์ การโดนตีเสมอท้ายเกมแบบนี้ ยังไงก็เจ็บ โดยเฉพาะเมื่อคุณเคย “จับชัยชนะไว้ในมือ” แล้วปล่อยให้หลุดลอยไปแบบน่าเสียดาย
เสียงจากห้องแต่งตัวไมนซ์: เสียดายแต่ภูมิใจ
ดานนี่ ดา คอสต้า แบ็กขวาตัวเก๋าของไมนซ์ ให้สัมภาษณ์หลังเกมกับ DAZN ด้วยความรู้สึกปนกันทั้งเสียดายและพอใจ
“ก่อนเกมเราคงยอมรับแต้มเดียวในมิวนิคแบบไม่ต้องคิดมาก แต่พอคุณนำได้จนเกือบจบเกม ยังไงก็อยากได้สามแต้มเต็ม นั่นแหละทำไมตอนนี้ถึงยังรู้สึกเสียดาย แต่พอข้ามไปอีกวัน ผมคงมองว่านี่คือหนึ่งแต้มสำคัญที่เราเก็บมาได้”
คำพูดนี้สะท้อนชัดว่าหัวจิตหัวใจของไมนซ์วันนี้ไม่ใช่ทีมหนีตายที่หวังแค่ยันเสมอ แต่คือทีมบ๊วยที่กล้าหวังถึงการบุกมาทุบแชมป์เก่าถึงบ้าน และเกือบทำสำเร็จด้วยซ้ำ
ฟิชเชอร์คัมแบ็กบุนเดสลีกา: ได้แต้มในมิวนิค แต่ยังแอบเคืองจุดโทษท้ายเกม
อูร์ส ฟิชเชอร์ กลับคืนสู่เวทีสูงสุดเมืองเบียร์ด้วยภาพลักษณ์โค้ชที่จัดระเบียบเกมรับได้แน่น และเกมนี้เขาแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าทีมของเขามีวินัยแค่ไหน
“ในด้านหนึ่งเราต้องพอใจอยู่แล้ว การได้แต้มในมิวนิคไม่ใช่เรื่องธรรมดา แต่ด้วยรูปเกมที่เราโดนจุดโทษท้ายๆ แบบนั้น มันก็อดรำคาญใจไม่ได้ ทว่าท้ายที่สุดแล้ว ความดีใจยังมีมากกว่าอยู่ดี”
ฟิชเชอร์เล่าว่าในช่วงพักครึ่ง เขากระตุ้นให้ลูกทีม “กล้าเล่นมากขึ้น” เน้นจับบอล 2–3 จังหวะแทนการเตะเคลียร์ทิ้งอย่างเดียว ผลคือครึ่งหลังไมนซ์ดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม กล้าดันไลน์ขึ้นสูง มีจังหวะสวนกลับที่คมขึ้นจนได้ประตูนำ
นี่คือภาพของทีมหนีตายที่ไม่ได้มาเล่นแบบยอมแพ้แต่ต้น แต่เลือกจะสู้ด้วยสมองและวินัยเกมรับที่รัดกุม
มุมมองฝั่งบาเยิร์น: เคนยังช่วยชีวิต แต่ปัญหาเดิมยังตามหลอก
ฝั่งเจ้าถิ่น เกมนี้ แฮร์รี เคน ยังรับบทพระเอกเหมือนเดิม จากการสังหารจุดโทษตีเสมอช่วงท้ายเกม ช่วยให้ ผลบอล ไม่จบลงด้วยความพ่ายแพ้ที่อาจกลายเป็นแผลลึกในห้องแต่งตัวแชมป์เก่า
อย่างไรก็ตาม เคนก็ยอมรับว่า ปัญหาของทีมในวันนี้อยู่ที่ “จังหวะสุดท้าย” ทั้งการจ่ายบอลและการจบสกอร์หลังพักครึ่ง ที่ไม่คมพอ ทั้งที่บีบไมนซ์จนถอยลงไปเล่นเกมรับลึกแล้วหลายครั้ง เขายังชื่นชมแนวรับของไมนซ์ที่ยืนกันได้เหนียวแน่น มีวินัย ทำให้บาเยิร์นเจาะเข้าไปจบสกอร์แบบเน้นๆ ได้ยากกว่าที่คิด
เกมนี้จึงเป็นอีกหนึ่งนัดที่บาเยิร์นโชว์ให้เห็นว่า ต่อให้มีสตาร์ระดับโลกในแดนหน้า แต่ถ้าความเฉียบคมและความต่อเนื่องในพื้นที่สุดท้ายหายไป ก็มีสิทธิ์สะดุดได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะเมื่อเจอทีมที่วิ่งไม่มีหมดและช่วยกันปิดพื้นที่อย่างมีระบบ
ตัวเลขเกมนี้ฟ้องอะไรบ้าง
ถ้าดูจากสถิติหลายคนคงคิดว่าบาเยิร์นน่าจะชนะสบาย แต่ฟุตบอลไม่ใช่เกมบนกระดาษ
แชมป์เก่าครองบอลได้ถึง 85% สร้างค่า xG (expected goals) สูงถึง 4.2 มีโอกาสยิงตรงกรอบ 11 ครั้ง และจ่ายบอลสำเร็จมากกว่าฝั่งทีมเยือนกว่า 8 เท่า แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่าง “จำนวนประตู” กลับออกมาเท่ากันที่ 2-2
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนชัดว่า ไมนซ์แม้จะเป็นทีมท้ายตาราง แต่ไม่เคยเสียโฟกัสเรื่องเกมรับ จังหวะบล็อกลูกยิง การปิดพื้นที่หน้ากรอบ และการช่วยกันเล่นของทั้งทีม ทำให้พวกเขาสามารถต้านความกดดันของบาเยิร์นได้ตลอด 90 นาที
ในมุมของแฟนบอล การเห็นทีมเล็กบุกมาแบ่งแต้มจากยักษ์ใหญ่ได้แบบนี้ ยิ่งตอกย้ำประโยคคลาสสิกว่า “สถิติสวยแค่ไหนก็ไม่สำคัญ ถ้าคุณปิดบัญชีไม่ได้” เพราะท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่ถูกจดลงในตารางคะแนนคือผลการแข่งขันเท่านั้น
บทเรียนจากเกมนี้: เมื่อทีมเล็กกล้าสู้ในบ้านแชมป์เก่า
เกมนี้คือแผ่นเรียนสำคัญสำหรับทุกทีมที่ต้องบุกมาเยือนอัลลิอันซ์ อารีน่า ว่า การจะรอดกลับออกไปจาก “รังเสือใต้” ไม่จำเป็นต้องเอาแต่ถอยต่ำแล้วภาวนาให้ไม่โดนยิงเยอะ แต่ต้องกล้าถือบอล กล้าต่อเกมในจังหวะที่มีโอกาส และเล่นตามแท็กติกที่โค้ชวางไว้แบบไม่กลัวชื่อชั้นคู่แข่ง
ไมนซ์แสดงให้เห็นว่า ทีมที่กำลังหนีตกชั้นก็สามารถบุกมาทำให้แชมป์เก่าเสียเหงื่อเยอะได้ ถ้ามีวินัย มีระบบ และไม่ยอมแพ้ตั้งแต่นกหวีดเริ่มเกม สำหรับบาเยิร์นเอง เกมแบบนี้ก็เป็นสัญญาณเตือนว่า หากขาดความนิ่งในพื้นที่สุดท้าย และปล่อยให้จังหวะสำคัญหลุดมือไปเรื่อยๆ ช่องว่างระหว่าง “ทีมลุ้นแชมป์” กับ “ทีมที่ต้องไล่ตาม” อาจแคบลงกว่าที่คิด
แฟนบอลไทยที่ติดตามบ่อยๆ น่าจะคุ้นเคยกับภาพแบบนี้ดี ทั้งในลีกยุโรปและในไทยลีกเอง หลายครั้งทีมใหญ่ครองบอลทั้งเกม แต่สุดท้ายกลับสะดุดเพราะโดนสวนกลับไม่กี่ครั้ง หรือพลาดจังหวะเดียวที่เปลี่ยนหน้าเกมไปเลย
มองเกมนี้ผ่านสายตาแฟนบอลไทย โดย บ้านกีฬา
สุดท้ายนี้ เมื่อมองย้อนกลับไปทั้ง 90 นาที ไมนซ์มีสิทธิ์เงยหน้ากลับบ้านด้วยความภูมิใจเต็มร้อย แม้จะเสียดายที่ไม่ได้สามคะแนนเต็ม แต่หนึ่งแต้มจากถิ่นแชมป์เก่าในสถานการณ์ที่ทีมกำลังอยู่ท้ายตาราง ถือเป็นแรงกระตุ้นสำคัญทั้งเรื่องความมั่นใจและโมเมนตัมในช่วงที่เหลือของฤดูกาล
ส่วน บาเยิร์น มิวนิค แม้จะไม่แพ้ แต่การสะดุดหลุดสามแต้มในบ้านแบบนี้ก็ทำให้แฟนบอลและสตาฟฟ์ต้องกลับไปทบทวนเรื่องคุณภาพจังหวะสุดท้าย การเปลี่ยนโอกาสเป็นประตู และการจัดการกับทีมที่มาเน้นเกมรับแบบมีวินัยใน ไฮไลท์บอล แมตช์ใหญ่ๆ แบบนี้
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ทั้งข่าวร้อนจากยุโรป, เรื่องเด็ดในบุนเดสลีกา, สรุปผลและวิเคราะห์เกมมันส์ๆ แบบนี้ อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวจัดเต็มได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
