บ้านผลบอล สรุปหลังเกม บุนเดสลีกา ดาร์บี้ริมไรน์เดือด อันดริช–แตร์ริเยร์พาเลเวอร์คูเซินฝังโคโลญจน์ 2-0 ขยับล่าพื้นที่ยุโรปดุเดือด

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด บุนเดสลีกา ระหว่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน 2-0 โคโลญจน์ วันนี้ 14/12/68 – บ้านกีฬา

ที่ไบอารีน่า ไบเออร์ เลเวอร์คูเซินรับมือโคโลญจน์ในเกมดาร์บี้ริมแม่น้ำไรน์แบบกดฝ่ายเดียว ก่อนอาศัยความเฉียบคมช่วงครึ่งหลังยิงสองเม็ดรวดจาก มาร์แต็ง แตร์ริเยร์ นาที 66 และ โรเบิร์ต อันดริช นาที 72 ปิดสกอร์ 2-0 เก็บสามแต้มเต็มต่อหน้าแฟนบอลที่ตามเช็กผลจากหน้าเว็บเชิงสถิติและสำนัก ผลบอลสด กันแน่น

เลเวอร์คูเซินแสดงให้เห็นชัดว่าทำไมยังยึดกลุ่มบนของตารางบุนเดสลีกา เกมนี้บุกหนัก ยิงรวม 16 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ครองบอลมากกว่าชัดเจน ส่วนโคโลญจน์แม้พยายามตั้งรับเหนียวแน่นและสวนกลับเป็นระยะ แต่สุดท้ายต้านความดุดันของ “ห้างยา” ไม่ไหว ต้องกลับบ้านมือเปล่าทั้งที่ผู้รักษาประตู มาร์วิน ชเวเบอ งัดฟอร์มเซฟระดับท็อปออกมาหลายครั้ง

⏱ ครึ่งแรก: เลเวอร์คูเซินเกมบุก โคโลญจน์ยืนโซนรอหาจังหวะสวน

เปิดเกมมา เลเวอร์คูเซินเป็นฝ่ายบุกใส่ทันที เคลื่อนบอลจากหลังขึ้นหน้าด้วยจังหวะหนึ่ง–สองระหว่าง อเล็กซ์ การ์เซีย, อันดริช และคู่ตัวรุกอย่าง มาลิก ทิลล์มันน์ กับ อีมานูเอล โปกู แต่แนวรับโคโลญจน์ยังเกาะกันเหนียว นำโดย ยาคุบ คามินสกี และ ราน เดอร์ เบิร์ก ที่คอยปิดช่องในกรอบเขตโทษ

นาที 5 เอริค มาร์เทล กองกลางห้องเครื่องของโคโลญจน์โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดเกมกลางสนาม ทำให้เจ้าตัวต้องเล่นแบบเซฟตัวเองตลอดทั้งแมตช์ ขณะที่ฝั่งเลเวอร์คูเซินมีจังหวะยิงไกลของ การ์เซีย กับลูกโหม่งของ โจนาธาน ทาปโซบา แต่ยังไม่ผ่านมือชเวเบอ

โคโลญจน์เน้นรับลึกแล้วโต้กลับผ่านด้านกว้างของ ฟลอเรียน ไวล์ดชมิดท์ และ ยาน ทิลมันน์ มีจังหวะได้ส่องอยู่บ้างแต่ไม่เฉียบพอ ทำให้จบครึ่งแรกสกอร์ยัง 0-0 แม้รูปเกมจะเอียงไปทางห้างยาเกือบตลอด 45 นาทีแรก

🔥 ครึ่งหลัง: เติมเกมรุกเปลี่ยนรูปเกม แตร์ริเยร์–อันดริชปิดจ็อบในเวลา 6 นาที

ครึ่งหลังเริ่มมา โคโลญจน์แก้เกมก่อน ส่ง รักนาร์ อาเค, เซงค์ ออซคาชาร์ และ ลินตัน ไมนา ลงมาพร้อมกันตั้งแต่นาที 46 เพื่อเพิ่มความสดทั้งแนวรับและแนวรุก แต่ยังไม่ทันสร้างความกดดันให้เจ้าบ้านเท่าไร เลเวอร์คูเซินก็เร่งจังหวะของตัวเองขึ้นอีกระดับ

นาที 51 อาร์เธอร์ แบ็กซ้ายเจ้าบ้านโดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์หนัก แต่ไม่ได้ทำให้เกมของห้างยาชะงัก ตรงกันข้าม กาสเปอร์ ฮยุลมันด์ ตัดสินใจส่ง เนธาน เทลล่า และ มาร์แต็ง แตร์ริเยร์ ลงมาแทน โปกู กับ โยนาส โฮฟมันน์ ในนาที 62 เพื่อใส่สปีดและความคมในพื้นที่สุดท้าย

ผลของการเปลี่ยนตัวเห็นทันที นาที 66 เลเวอร์คูเซินขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อาร์เธอร์ เติมสูงทางซ้ายก่อนเปิดตัดแนวรับเข้าในเขตโทษ บอลเลยมาถึง แตร์ริเยร์ วิ่งสอดมากดด้วยขวาเสียบเสาแบบไม่เหลือ โคโลญจน์ที่พยายามตั้งรับทั้งแผงถึงกับเสียงเงียบทั้งแถวรับ

ยังไม่พอ นาที 72 เจ้าบ้านหนีเป็น 2-0 เมื่อ อเล็กซ์ การ์เซีย ลากบอลตัดจากซ้ายเข้าในก่อนไหลให้ โรเบิร์ต อันดริช หน้าเขตโทษ กองกลางกัปตันทีมจับหนึ่งจังหวะแล้วซัดเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบเสาอย่างเฉียบขาด ชเวเบอได้แต่พุ่งมอง

หลังโดนสองเม็ด โคโลญจน์เปลี่ยนเอา คริสตอฟเฟอร์ ลุนด์ ลงมาเติมริมเส้นแทน สตีเฟ่น เอมิล มาลา ในนาที 73 และส่ง อิซัก เบิร์กมันน์ โยฮันเนสสัน ลงแทน มาร์เทล นาที 80 พยายามเปิดเกมรุกมากขึ้น แต่แนวรับเลเวอร์คูเซินปิดพื้นที่ได้ดีไม่มีจังหวะหวาดเสียวมากนัก ช่วงท้ายเกม เจ้าบ้านถอด การ์เซีย กับ คอฟาเน และ ทิลล์มันน์ ออกพัก ส่ง โลอิก บาเด, อเลโฆ ซาร์โก และ ฌ็องเนล เบโลเซียง ลงมาช่วยเก็บล็อกสกอร์ จนหมดเวลา เลเวอร์คูเซินคว้าชัย 2-0 อย่างสมศักดิ์ศรี

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและคะแนน

🔴 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน (3-4-2-1)

  • ผู้รักษาประตู: มาร์ค เฟล็คเคน (7.1) เซฟจังหวะสำคัญช่วงต้นเกม ทำให้ทีมไม่เสียประตู
  • กองหลังสามคน: จาร์เรล ควานซาห์ (7.2, ใบเหลืองนาที 74), อาร์เธอร์ (7.0, แอสซิสต์ลูกแรก), เอ็ดม็องด์ ทาปโซบา (6.8) ช่วยกันคุมพื้นที่หน้าปากประตูได้อยู่หมัด
  • กองกลางคู่กลาง: โรเบิร์ต อันดริช กัปตันทีม (8.5 ยิง 1 ประตู คุมจังหวะเกมทั้งรุกและรับ), อี. มาซา (7.2) วิ่งไล่เชื่อมบอลตลอด 90 นาที
  • วิงแบ็ก: อเล็กซ์ การ์เซีย (8.0 แอสซิสต์ลูกที่สอง เติมเกมรุกฝั่งซ้ายจัดจ้าน), โยนาส โฮฟมันน์ (7.1) เปิดเกมทางขวา ทำทางให้เพื่อนหลายครั้ง
  • คู่ตัวรุกหลังหน้าเป้า: มาลิก ทิลล์มันน์ (7.2 คุมเกมรุกระหว่างไลน์ ก่อนถูกถอดช่วงท้าย), อีมานูเอล โปกู (6.6 จังหวะสุดท้ายยังไม่คม)
  • หน้าเป้า: ซี. คอฟาเน (6.4 พยายามพักบอลให้เพื่อน แต่โดนแนวรับโคโลญจน์ตามประกบใกล้ชิด)

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • เนธาน เทลล่า (ลง 62’ แทน โปกู, เร่งสปีดริมเส้นขวา)
  • มาร์แต็ง แตร์ริเยร์ (ลง 62’ แทน โฮฟมันน์, 7.6 ยิงเปิดหัวให้ทีมนำ 1-0)
  • โลอิก บาเด (ลง 77’ แทน การ์เซีย, 6.7 ช่วยปิดเกมรับช่วงท้าย)
  • อเลโฆ ซาร์โก (ลง 77’ แทน คอฟาเน, 6.3 ถอยลงมาช่วยเบรคเกมกลางสนาม)
  • ฌ็องเนล เบโลเซียง (ลง 86’ แทน ทิลล์มันน์, 6.5 เติมความสดแดนหลัง)

โคโลญจน์ (3-4-3)

  • ผู้รักษาประตู: มาร์วิน ชเวเบอ (7.5) เซฟสวย ๆ หลายครั้ง เป็นคนที่ยื้อเกมไว้จนเกินชั่วโมง
  • กองหลังสามคน: ยาคุบ คามินสกี (7.1) อ่านเกมดี, ราน เดอร์ เบิร์ก (6.6), ทอม เคราส์ (7.4) ช่วยกันบล็อกช็อตสำคัญได้หลายจังหวะ
  • กองกลางตัวกลาง: เดยัน ฮูเซนบาซิช (6.7), เอริค มาร์เทล (5.8 ใบเหลืองตั้งแต่นาที 5 ก่อนถูกเปลี่ยนออกนาที 80)
  • วิงแบ็ก: สตีเฟ่น เอมิล มาลา (6.5 ทางขวา), ซิมอน เซบูลอนเซน (6.2 ทางซ้าย)
  • ตัวรุกสามคน: ยาน ทิลมันน์ (6.6), ลูคัส ไวล์ดชมิดท์ (6.2), มาริอุส บึลเทอร์ (6.5) พยายามวิ่งหาช่องแต่แทบไม่ได้โอกาสยิงถนัด ๆ

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • รักนาร์ อาเค (ลง 46’ แทน บึลเทอร์, 6.3 เพิ่มมิติการโหม่งในเขตโทษ)
  • เซงค์ ออซคาชาร์ (ลง 46’ แทน ฮูเซนบาซิช, 6.0 เสริมเกมรับ)
  • ลินตัน ไมนา (ลง 46’ แทน ไวล์ดชมิดท์, 6.4 พยายามลากกินตัวแต่เจอรุมตลอด)
  • คริสตอฟเฟอร์ ลุนด์ (ลง 73’ แทน มาลา, 6.7 เติมเกมทางซ้ายช่วงท้าย)
  • อิซัก เบิร์กมันน์ โยฮันเนสสัน (ลง 80’ แทน มาร์เทล, 6.7 พยายามยิงไกลแต่ไม่ผ่านบล็อก)

📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับของทั้งสองทีม

มองในเชิง วิเคราะห์บอล แท็กติก ฮยุลมันด์วางเลเวอร์คูเซินในระบบ 3-4-2-1 ที่ยืดหยุ่นมาก เวลาเซ็ตบอลจากหลัง อันดริชจะถอยลงมาเป็นตัวรับเพิ่ม กลายเป็นไลน์สี่คน ช่วยให้คุมบอลจากเท้า เฟล็คเคน ไปถึงแดนกลางได้อย่างลื่นไหล เมื่อผ่านแดนกลางได้แล้ว การ์เซียกับโฮฟมันน์จะดันสูงกลายเป็นปีกริมเส้น เปิดพื้นที่ให้ มาซา กับ ทิลล์มันน์วิ่งหาพื้นที่ระหว่างไลน์แนวรับโคโลญจน์ ทำให้คู่เซ็นเตอร์ของทีมเยือนต้องออกมาดวลตัวต่อตัวบ่อยครั้ง

จุดเด่นของเลเวอร์คูเซินคือการสลับตำแหน่งตลอดเวลา เทลล่าและแตร์ริเยร์ที่ลงมาครึ่งหลังยิ่งทำให้เกมรุกไหลลื่นกว่าเดิม มีการวิ่งสอดหลังวิงแบ็กโคโลญจน์อย่างต่อเนื่อง ประตูทั้งสองลูกมาจากการฉีกไปเล่นด้านข้างแล้วตัดเข้ากลางแบบที่เตรียมมาดี

ฝั่งโคโลญจน์ใช้ระบบ 3-4-3 ที่เน้นบีบตรงกลางสนาม ดันไลน์รับขึ้นมาค่อนข้างสูงหวังตัดบอลในแดนคู่แข่ง แต่เมื่อมาร์เทลโดนใบเหลืองเร็ว ทีมเยือนเล่นยากทันที เพราะเขาไม่กล้าเข้าปะทะหนัก ทำให้เลเวอร์คูเซินเจาะโซนกลางได้เรื่อย ๆ เกมรับต้องถอยลึก กลายเป็นปล่อยให้ห้างยาบุกเป็นชุด แม้แผงหลังสามคนจะมีวินัย แต่เมื่อโดนบุกหนักตลอดท้ายที่สุดก็มีช่องโหว่ให้เจ้าบ้านลงโทษอยู่ดี

ด้านเกมรุก โคโลญจน์แทบไม่มีการขึ้นบอลที่เป็นระบบ ส่วนใหญ่หวังบอลยาวหรือบอลสวนกลับให้ บึลเทอร์ กับ ทิลมันน์ วิ่งแข่ง แต่ต้องเจอควานซาห์และทาปโซบาช่วยกันเก็บกินหมด เมื่อเสียบอลบ่อย ความต่อเนื่องในแดนหน้าก็หายไป ทำให้โอกาสลุ้นประตูมีน้อยมากแม้จะได้ยิงรวม 7 ครั้งก็ตาม

📈 สถิติการแข่งขันสะท้อนความเหนือชั้นของห้างยา

ตัวเลขหลังเกมชี้ชัดว่าเลเวอร์คูเซินเหนือกว่าเกือบทุกมิติ ยิงทั้งสิ้น 16 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ขณะที่โคโลญจน์ยิงได้เพียง 7 ครั้ง เข้ากรอบ 4 การครองบอลเจ้าบ้านกดไว้ที่ 58% ต่อ 42% ส่งบอลมากถึง 570 ครั้ง ความแม่นยำสูงถึง 90% แสดงให้เห็นว่าคอนโทรลเกมได้แบบไม่ตกมือ ส่วนทีมเยือนส่งบอลเพียง 332 ครั้ง แม่นยำ 80% ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการครองจังหวะเกมในระดับนี้

แม้จำนวนฟาวล์จะใกล้เคียงกัน เลเวอร์คูเซินทำ 8 ครั้ง โคโลญจน์ 6 แต่ใบเหลืองของทีมเยือน 1 ใบตั้งแต่นาทีแรก ๆ กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ขณะที่เจ้าบ้านแม้โดน 2 ใบเหลืองจาก อาร์เธอร์ และ ควานซาห์ ก็ยังควบคุมอารมณ์ได้ดี ลูกเตะมุมก็เป็นของห้างยามากถึง 8 ครั้ง เทียบกับโคโลญจน์ที่ได้เพียง 3 ครั้ง บ่งบอกชัดว่าความกดดันส่วนใหญ่มาจากแดนเจ้าบ้านบุกใส่ไม่หยุด

📌 เหตุการณ์สำคัญตลอด 90 นาที

⚠️ 5’ เอริค มาร์เทล ทำฟาวล์ตัดเกมกลางสนาม โดนใบเหลืองตั้งแต่ต้นเกม
🔁 46’ โคโลญจน์เปลี่ยนสามคนรวด ส่ง รักนาร์ อาเค, เซงค์ ออซคาชาร์ และ ลินตัน ไมนา ลงแทน มาริอุส บึลเทอร์, เดยัน ฮูเซนบาซิช และ ลูคัส ไวล์ดชมิดท์
⚠️ 51’ อาร์เธอร์ แบ็กซ้ายเลเวอร์คูเซินโดนใบเหลืองจากจังหวะเสียบหนักริมเส้น
🔁 62’ เลเวอร์คูเซินส่ง เนธาน เทลล่า ลงแทน อีมานูเอล โปกู เติมสปีดริมเส้นขวา
🔁 62’ มาร์แต็ง แตร์ริเยร์ ลงแทน โยนาส โฮฟมันน์ เสริมเขี้ยวในแดนหน้า
⚽ 66’ ประตู 1-0 เลเวอร์คูเซิน อาร์เธอร์ เปิดจากซ้ายเข้าเขตโทษ มาร์แต็ง แตร์ริเยร์ สอดมาซัดเสียบเสาไม่เหลือ
⚽ 72’ ประตู 2-0 เลเวอร์คูเซิน อเล็กซ์ การ์เซีย ตัดเข้าในแล้วไหลให้ โรเบิร์ต อันดริช ซัดเต็มข้อหน้ากรอบ บอลพุ่งเสียบมุมสุดงาม
🔁 73’ โคโลญจน์ส่ง คริสตอฟเฟอร์ ลุนด์ ลงแทน สตีเฟ่น เอมิล มาลา ปรับเกมริมเส้นซ้าย
⚠️ 74’ จาร์เรล ควานซาห์ ทำฟาวล์โดนใบเหลือง เพิ่มความดุเดือดกลางเกม
🔁 77’ เลเวอร์คูเซินถอด อเล็กซ์ การ์เซีย ใส่ โลอิก บาเด เพื่อเสริมเกมรับ
🔁 77’ อเลโฆ ซาร์โก ลงแทน ซี. คอฟาเน ทำให้ทีมปรับมาเน้นคุมบอลกลางสนามมากขึ้น
🔁 80’ โคโลญจน์แก้เกมอีกครั้ง ส่ง อิซัก เบิร์กมันน์ โยฮันเนสสัน ลงแทน มาร์เทล ที่มีใบเหลืองติดตัว
🔁 86’ เลเวอร์คูเซินส่ง ฌ็องเนล เบโลเซียง ลงแทน ทิลล์มันน์ เพื่อเก็บล็อกแนวรับช่วงทดเจ็บ
🔔 FT เลเวอร์คูเซิน เปิดบ้านชนะโคโลญจน์ 2-0 คว้าชัยสำคัญในศึกดาร์บี้เมืองเบียร์

⭐ Player of the Match: โรเบิร์ต อันดริช หัวใจแดนกลางห้างยา

แม้ แตร์ริเยร์ จะยิงประตูเบิกร่อง แต่รางวัล Man of the Match ตกเป็นของ โรเบิร์ต อันดริช แบบไร้ข้อโต้แย้ง คะแนน 8.5 สะท้อนผลงานชัดเจน เขาไม่เพียงยิงปิดกล่องลูก 2-0 อย่างเฉียบคม แต่ยังเป็นจุดศูนย์กลางของเกมเลเวอร์คูเซินทั้งรุกและรับ คอยถอยต่ำลงช่วยเซ็นเตอร์สามคนเวลาต้องตั้งรับ และดันสูงเชื่อมเกมกับตัวรุกเมื่อทีมครองบอล

การอ่านเกมของอันดริชทำให้โคโลญจน์แทบหาพื้นที่ว่างในแดนกลางไม่ได้ ตัดบอลสำเร็จหลายครั้ง บวกกับการจ่ายบอลนิ่ง ๆ ที่คุมจังหวะให้เพื่อนเล่นง่าย ส่งผลให้เลเวอร์คูเซินเดินเกมได้อย่างมั่นใจตั้งแต่นาทีแรกจนจบ 90 นาที สมฐานะกัปตันทีมและกำแพงด่านกลางของห้างยาอย่างแท้จริง

📊 สถานการณ์ในตารางคะแนนบุนเดสลีกา

ชัยชนะนัดนี้ทำให้เลเวอร์คูเซินลงเตะ 14 นัด ชนะ 8 เสมอ 2 แพ้ 4 ยิงได้ 30 เสีย 19 มี 26 แต้ม รั้งอันดับ 4 ของบุนเดสลีกา ไล่จี้โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ที่มี 28 แต้ม และแอร์เบ ไลป์ซิกที่มี 29 แต้มต่อเนื่อง ขณะที่จ่าฝูง บาเยิร์น มิวนิค นำโด่งที่ 37 แต้ม ช่องว่างยังพอมีให้ไล่แต่ต้องรักษาฟอร์มการเล่นแบบเกมนี้ให้ได้ต่อเนื่อง

ส่วนโคโลญจน์แม้จะแพ้แต่ยังยืนอยู่กลางตาราง อันดับ 9 แข่ง 14 นัด ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 6 ยิงได้ 22 เสีย 23 มี 16 แต้ม เท่ากับไฟร์บวร์ก, กลัดบัค และแวร์เดอร์ เบรเมน สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นกดดันโซนตกชั้น แต่ถ้าฟอร์มสะดุดต่อเนื่องก็มีโอกาสรูดลงไปอยู่ครึ่งล่างได้ทุกเมื่อ มองจากโปรแกรมถัดไปใน ตารางบอล ที่งานไม่ง่ายเลย

📅 ตารางบอลบุนเดสลีกานัดถัดไปและทิศทางของทั้งสองทีม

โปรแกรมในลีกช่วงต่อจากนี้ยังหนักสำหรับทั้งสองฝ่าย เลเวอร์คูเซินมีคิวบุกไปเยือนแอร์เบ ไลป์ซิก วันที่ 21 ธันวาคม 2025 เวลา 00.30 น. ก่อนจะกลับมาเปิดบ้านรับมือสตุ๊ตการ์ต วันที่ 11 มกราคม 2026 เวลา 00.30 น. แฟนห้างยาต้องลุ้นกันยาว ๆ ว่าทีมรักจะเก็บแต้มจากสองคู่แข่งโดยตรงเพื่อตอกย้ำการลุ้นโควต้ายุโรปได้หรือไม่ ซึ่งถือเป็นด่านสอบใหญ่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของซีซั่นตามหน้า โปรแกรมบอล ที่แน่นเอี้ยดปลายปี

ฝั่งโคโลญจน์เองก็ไม่เบา มีเกมใหญ่บุกเยือนไฮเดนไฮม์ วันที่ 10 มกราคม 2026 เวลา 21.30 น. และเปิดรังเจออูนิโอน เบอร์ลิน วันที่ 20 ธันวาคม 2025 เวลา 21.30 น. หากเก็บแต้มไม่ได้มากพอ เส้นทางในครึ่งหลังของฤดูกาลอาจกลายเป็นการหนีตกชั้นเต็มตัวทันที

📣 เช็กบ้านผลบอลและข่าวบอลมันส์ ๆ ได้ที่บ้านกีฬา

แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของบุนเดสลีกา ทั้งสกอร์สด ไฮไลต์ และบทสรุปหลังเกมแบบเข้มข้น สามารถตามเช็ก บ้านผลบอล และอัปเดตข่าวร้อนลูกหนังยุโรปได้ตลอดที่ บ้านกีฬา เราจะเก็บทุกช็อตสำคัญ ทุกประตูสุดเดือด และทุกประเด็นร้อนมาวิเคราะห์ให้แบบจัดเต็ม ไม่พลาดทุกคู่ใหญ่ในค่ำคืนแห่งฟุตบอลเยอรมันแน่นอน

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา