RB ไลป์ซิกเปิดยุคใหม่ ดันซีอีโอหญิงนำทัพบริหารสโมสร
RB ไลป์ซิก เดินเกมกล้าบนเวที บุนเดสลีกา ประกาศแต่งตั้ง ทัตจานา แฮนนี่ (Tatjana Haenni) เข้ารับตำแหน่ง ซีอีโอ คนใหม่ของสโมสร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2026 แทน โอลิเวอร์ มินท์ซลาฟฟ์ ที่อำลาตำแหน่งไปก่อนหน้านี้ และทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่นั่งเก้าอี้ซีอีโอสโมสรในลีกสูงสุดเยอรมนีอย่างเต็มตัว
ดีลครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนตัวผู้บริหาร แต่เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไลป์ซิก ต้องการยกระดับโครงสร้างบริหารให้แข็งแกร่ง ทันยุค และพร้อมชนกับบิ๊กทีมทั้งในเยอรมนีและเวที ฟุตบอลยุโรป
ทำความรู้จัก ทัตจานา แฮนนี่ จากแข้งทีมชาติสู่แม่ทัพบริหาร
ทัตจานา แฮนนี่ วัย 59 ปี ไม่ได้มาจากสายธุรกิจล้วน ๆ แต่เธอเคยเป็นนักฟุตบอลทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ลงเล่นให้ประเทศบ้านเกิดถึง 23 นัด ทำให้เข้าใจเกมลูกหนังทั้งในมุมของนักเตะและโครงสร้างฟุตบอลระดับชาติ
หลังแขวนสตั๊ด เธอขยับขึ้นสู่ตำแหน่งงานบริหารในองค์กรลูกหนังระดับโลก ทั้งใน ยูฟ่า (UEFA), ฟีฟ่า (FIFA) และสมาคมฟุตบอลสวิตเซอร์แลนด์ ประสบการณ์ด้านกลยุทธ์ การพัฒนาโครงสร้างฟุตบอล และการจัดการองค์กรขนาดใหญ่ ทำให้เธอกลายเป็นชื่อที่บอร์ดบริหารไลป์ซิกมั่นใจว่าสามารถพาสโมสรเดินหน้าในระยะยาวได้
เสียงจากบอร์ด RB ไลป์ซิก: ไว้ใจแฮนนี่นำทีมสู่อนาคต
โอลิเวอร์ มินท์ซลาฟฟ์ ในฐานะประธานบอร์ดกำกับดูแลของสโมสร ออกมายืนยันถึงศักยภาพของแฮนนี่แบบชัดเจน โดยต้นฉบับระบุว่า
“เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่สามารถแต่งตั้ง ทัตจานา แฮนนี่ ให้มารับตำแหน่งซีอีโอของ RB ไลป์ซิก ในการพูดคุยกัน เธอสร้างความประทับใจให้กับเราและคณะกรรมการด้วยความเชี่ยวชาญ การมีความรู้เฉพาะทาง ผู้นำที่แข็งแกร่ง และความคิดเชิงกลยุทธ์ เราคาดหวังว่าเธอจะนำมุมมองใหม่ ๆ และพลังขับเคลื่อนชุดใหม่เข้ามา ช่วยให้สโมสรพร้อมรับอนาคตและรับมือกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นต่อไป”
คำให้สัมภาษณ์นี้สะท้อนชัดว่า ไลป์ซิกไม่ได้มองแค่ “เติมคน” ในเก้าอี้บริหาร แต่ต้องการ “เปลี่ยนจังหวะเกม” ในห้องบอร์ด ให้ทันกับการเติบโตของสโมสรที่กำลังขึ้นมาเป็นขาประจำเวทียุโรป
มุมมองของแฮนนี่: ทีมเวิร์กและศักยภาพของไลป์ซิกคือกุญแจสำคัญ
ด้าน ทัตจานา แฮนนี่ ก็แสดงจุดยืนและความคาดหวังต่อบทบาทใหม่ไว้อย่างชัดเจน โดยต้นฉบับระบุว่า
“ฉันตื่นเต้นและตั้งตารอกับบทบาทใหม่ครั้งนี้ รวมถึงการได้ทำงานร่วมกับ โยฮันน์ เพลนเกอ, ฟลอเรียน ฮ็อปป์, มาร์เซล เชเฟอร์ และพนักงานทุกคน การพูดคุยกับผู้บริหารสโมสรเต็มไปด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน และฉันมั่นใจว่าด้วยทีมเวิร์กที่แข็งแกร่ง และการโฟกัสไปที่จุดแข็งของ RB ไลป์ซิก เราจะสามารถปลดล็อกศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของสโมสรได้อย่างแน่นอน”
คำพูดนี้ชัดเจนมากว่า เธอไม่ได้มาเปลี่ยนคนเดียว แต่มาเปลี่ยน “ทั้งทีมบริหาร” ให้เดินไปในทิศทางเดียวกัน
โครงสร้างบริหารใหม่: ไลป์ซิกจัดทัพบอร์ดให้ลงตัวทุกมิติ
การแต่งตั้งแฮนนี่ไม่ใช่การเปลี่ยนตัวเดียวแล้วจบ แต่เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างบริหารใหม่ของสโมสร โดยเธอจะนั่งหัวโต๊ะบริหารร่วมกับ
- โยฮันน์ เพลนเกอ (Johann Plenge) ดูแลด้านธุรกิจ
- ฟลอเรียน ฮ็อปป์ (Florian Hopp) ดูแลด้านบริหาร (Administration)
- มาร์เซล เชเฟอร์ (Marcel Schäfer) ดูแลด้านกีฬา (Sport)
นอกจากนี้ เพลนเกอ วัย 40 ปี ยังจะก้าวขึ้นมารับบท “รองประธานคณะผู้บริหาร” ควบคู่ไปกับงานด้านธุรกิจ พร้อมทั้งดูแลความสัมพันธ์กับสมาคมและลีกทั้งในระดับชาติและนานาชาติให้กับไลป์ซิกอีกด้วย
นี่คือการจัดโครงสร้างให้ทุกเส้นทาง – ตั้งแต่สนามซ้อม, ห้องผู้บริหาร, ไปจนถึงโต๊ะประชุมกับองค์กรลูกหนังระดับโลก – เชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบ เพื่อรองรับการเติบโตของสโมสรในระยะยาว
เส้นทางของ RB ไลป์ซิก จากสโมสรเกิดใหม่สู่ทีมลุ้นถ้วย
หากมองย้อนกลับไป เส้นทางของ RB ไลป์ซิก จัดว่าขึ้นเร็วและแรงมากในวงการ ฟุตบอลเยอรมนี
- ก่อตั้งสโมสรในปี 2009
- เลื่อนชั้นสู่บุนเดสลีกาในปี 2016
- คว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล (DFB-Pokal) มาแล้ว 2 สมัย
- ซิวแชมป์เยอรมัน ซูเปอร์คัพ (Supercup) ปี 2023
- ทะลุถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019/20
การมีฐานผลงานที่แข็งขนาดนี้ ทำให้การยกระดับฝั่งบริหารเป็นอีกจิ๊กซอว์สำคัญ หากโครงสร้างนอกสนามนิ่ง แข็งแรง และคิดระยะยาวได้เฉียบขาด ผลงานในสนามก็มีโอกาสก้าวอีกขั้นใกล้กับบิ๊กเนมอย่าง บาเยิร์น มิวนิค หรือดอร์ทมุนด์มากขึ้น
มิติใหม่ของผู้หญิงในวงการบริหารฟุตบอลยุโรป
การที่สโมสรระดับแนวหน้าของบุนเดสลีกาแต่งตั้งผู้หญิงขึ้นมาเป็นซีอีโอ ไม่ได้สำคัญแค่ในมุมของไลป์ซิกเท่านั้น แต่ยังสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของวงการ ข่าวบอลต่างประเทศ และโครงสร้างอำนาจในห้องประชุมของสโมสรยุโรปด้วย
ตำแหน่งซีอีโอในสโมสรฟุตบอลสมัยใหม่ ไม่ใช่แค่คนเซ็นเอกสารหรือปิดดีลสปอนเซอร์ แต่ต้องคิดทั้งเรื่องทิศทางการลงทุน, การพัฒนาแบรนด์, การบริหารกีฬาให้สอดคล้องระหว่างผลงานในสนามและงบประมาณ, ไปจนถึงการสร้างฐานแฟนบอลรุ่นใหม่ การที่คนซึ่งมีพื้นฐานทั้งจากการเล่นฟุตบอลจริง และจากการทำงานในองค์กรระดับ UEFA/FIFA มานั่งคุมทิศทางสโมสร จึงเป็นสัญญาณที่แฟนบอลควรจับตาอย่างใกล้ชิด
สำหรับแฟนบอลชาวไทย การเห็นผู้หญิงก้าวขึ้นมานำทัพในระดับท็อปของยุโรปแบบนี้ ก็เป็นแรงบันดาลใจสำคัญ เพราะสะท้อนว่าฟุตบอลยุคใหม่เปิดพื้นที่ให้ “ความสามารถ” มากกว่า “เพศสภาพ” และเปิดโอกาสให้คนเก่งจากหลายสายอาชีพเข้ามาขับเคลื่อนวงการ
มุมมองบ้านกีฬา: ไลป์ซิกยุคแฮนนี่ น่าจับตาทั้งในและนอกสนาม
เมื่อมองภาพรวม การแต่งตั้ง ทัตจานา แฮนนี่ เป็นซีอีโอหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกา บวกกับการจัดทัพบอร์ดบริหารใหม่ที่ชัดเจนทั้งสายธุรกิจ บริหาร และกีฬา ทำให้ บ้านกีฬา มองว่า RB ไลป์ซิกกำลังเข้าสู่เฟส “รีเฟรชองค์กร” ครั้งใหญ่ เป้าหมายไม่ใช่แค่ลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรป แต่ต้องการยืนระยะเป็นทีมลุ้นแชมป์ทุกรายการอย่างยั่งยืน
หากแฮนนี่สามารถผสานทีมงานบริหารให้เดินในทิศทางเดียวกันได้จริง ขยับการลงทุนให้ตรงจุด และยังรักษาจุดแข็งของไลป์ซิกอย่างการปั้นดาวรุ่งและการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่ที่เข้มข้นดุดัน เชื่อได้เลยว่าชื่อของ RB ไลป์ซิก จะถูกพูดถึงมากขึ้นทั้งในฐานะ “สโมสรฟุตบอลคุณภาพ” และ “โมเดลองค์กรลูกหนังยุคใหม่”
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ทั้งในสนามและนอกสนาม อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

