เคนลงสำรองแต่เปลี่ยนเกม “เสือใต้” ให้เดินเครื่องเต็มสปีด
เกมลีกนัดล่าสุดของ บาเยิร์น มิวนิค แสดงให้เห็นชัดเจนว่า การมีจอมถล่มประตูระดับท็อปของโลกอยู่ในทีมคือความแตกต่างอย่างแท้จริง แม้ เคน จะออกสตาร์ตบนม้านั่งสำรอง แต่ทันทีที่ถูกเปลี่ยนลงมาในนาทีที่ 60 เกมรุกของเสือใต้ก็ยกระดับขึ้นแบบเห็นได้ชัด บอลทุกลูกถูกส่งเข้าไปพื้นที่อันตรายเร็วขึ้น คมขึ้น และมีเป้าหมายชัดเจน
เจ้าบ้านอย่าง สตุ๊ตการ์ท ที่เหลือผู้เล่น 10 คนช่วงท้ายเกม แทบไม่มีโอกาสได้หายใจ เมื่อโดนกัปตันทีมชาติอังกฤษกดสามประตูรวด เปลี่ยนสกอร์จากที่ “ขาด” อยู่แล้วให้กลายเป็นชัยชนะขาดลอย 5-0 พร้อมตอกย้ำว่าถ้าปล่อยให้เขาได้จังหวะในกรอบเขตโทษ ก็แทบจะเท่ากับโดนลงโทษทันที
สถิติโหดในเวลาแค่ 30 นาทีของเคน
แม้จะได้อยู่ในสนามเพียงครึ่งชั่วโมง แต่ตัวเลขทุกอย่างสะท้อนชัดเจนว่า เคน ไม่ได้ลงมาแค่ให้ครบคน แต่ลงมาเพื่อปิดบัญชีเกมจริงๆ
- ลงเล่น : 30 นาที
- สัมผัสบอล : 17 ครั้ง
- สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษคู่แข่ง : 6 ครั้ง
- ผ่านบอลเข้าเป้า : 80% (8 จาก 10 ครั้ง)
- ยิงรวม : 4 ครั้ง
- ยิงตรงกรอบ : 4 ครั้ง
- ประตู : 3 ลูก
- สร้างโอกาสให้เพื่อน : 1 ครั้ง
- เรตติ้งจากเว็บไซต์ whoscored.com : 9.1/10
ทุกครั้งที่บอลมาถึงเท้า เคน แทบไม่มีจังหวะเสียเปล่า จะจบด้วยการยิงเองหรือจ่ายต่อให้เพื่อนร่วมทีมลุ้นจบสกอร์ นี่คือฟอร์มของ กองหน้า ระดับโลกที่ไม่จำเป็นต้องใช้โอกาสเยอะ แต่เปลี่ยนทุกจังหวะให้กลายเป็นความกดดันใส่เกมรับฝั่งตรงข้าม
แฮตทริกที่ 10 ในบุนเดสลีกา ย้ำดีกรี “เพชฌฆาตลูกหนัง”
ประตูสามลูกในเกมนี้ ทำให้ เคน ยิงครบ แฮตทริก ครั้งที่ 10 บนเวทีลีกสูงสุดเมืองเบียร์ กลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงเคียงข้างตำนานดาวยิงอย่าง แกร์ด มุลเลอร์, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, เคล้าส์ ฟิสเชอร์ และ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส ทันที
ตามสถิติในตอนนี้ มีเพียง มุลเลอร์ (32 แฮตทริก), เลวานดอฟสกี้ (16), ฟิสเชอร์ (12) และ ไฮย์เกส (11) ที่ทำแฮตทริกในศึก บุนเดสลีกา ได้มากกว่า เคน เท่านั้น ที่น่าทึ่งคือ นี่เพิ่งเป็นฤดูกาลที่สามของเขาในเยอรมนี แต่จำนวนครั้งที่ทำสามประตูในเกมเดียวก็ไล่จี้ตำนานเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
นี่คือการยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงหน้าเป้าที่คอยปักหลักในกรอบเขตโทษ แต่เป็นตัวจบสกอร์ที่รู้จังหวะเกม รู้วิธีหาพื้นที่ว่าง และอ่านเกมได้ขาดอย่างเหลือเชื่อ
สตุ๊ตการ์ท รับมือความเฉียบคมของเคนไม่ไหว
แม้ สตุ๊ตการ์ท จะพยายามตั้งโซนรับแน่นตั้งแต่ต้นเกม และมีช่วงที่ยืนเกมได้ดีพอสมควร แต่เมื่อมาเหลือผู้เล่น 10 คนในช่วงท้าย ทุกอย่างยิ่งยากขึ้นไปอีกหลายเท่า พอ เคน ลงมา เกมรับเจ้าถิ่นต้องเจอกับทั้งการเคลื่อนที่หาช่องตลอดเวลา บวกกับการประสานงานกับเพื่อนแนวรุกเสือใต้ที่ไหลลื่น
ความเข้มข้นของจังหวะบุก ทำให้กองหลังสตุ๊ตการ์ทยืนผิดพลาดบ่อยขึ้น ถูกดึงหลุดตำแหน่ง และท้ายที่สุดก็โดนลงโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนสกอร์ขาดอย่างที่เห็น
เคนกับบทบาทกองหน้าสมัยใหม่ที่ครบเครื่อง
ในภาพรวม การเล่นของ เคน ในเกมนี้ไม่ใช่แค่เรื่องการยิงประตู แต่เป็นการโชว์ให้เห็นว่ากองหน้าสมัยใหม่ต้องทำอะไรบ้างในสนาม เขาลงต่ำมาช่วยเชื่อมเกมเมื่อจำเป็น เปิดบอลออกปีกได้ดี และยังอ่านช่องวิ่งทำทางให้เพื่อนทำเกมต่อ
กองหน้าที่ครองพื้นที่ในกรอบเขตโทษอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับช่วยทีมในเกมบุกและเกมรับ คือโปรไฟล์ที่สโมสรระดับท็อปต้องการ และ เคน ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขายังยืนอยู่แถวหน้าของโลกฟุตบอลตำแหน่งนี้
มุมมองระยะยาว: ดาวยิงที่สร้างผลกระทบได้ทุกยุค
ถ้ามองภาพกว้างในเชิงฟุตบอลสมัยใหม่ การมีดาวยิงที่จบสกอร์คมกริบ และรักษามาตรฐานได้หลายฤดูกาลคือทรัพยากรล้ำค่า ไม่ใช่แค่เรื่องจำนวนประตู แต่รวมถึงอิทธิพลที่มีต่อแท็กติกของทีมและสภาพจิตใจคู่แข่ง ทุกครั้งที่ เคน มีชื่ออยู่บนม้านั่งหรือในสนาม กองหลังฝั่งตรงข้ามต้องเตรียมแผนรับมือเป็นพิเศษเสมอ
นักเตะประเภทนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กองหน้ารุ่นใหม่ได้เรียนรู้ ทั้งเรื่องการวิ่งหาพื้นที่ การตัดสินใจในจังหวะเดียว และความนิ่งหน้าปากประตู ซึ่งไม่เคยตกยุคในโลกฟุตบอล ต่อให้แท็กติกเปลี่ยนไปกี่รูปแบบ กองหน้าที่เปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูได้อย่างสม่ำเสมอ ก็ยังเป็นตัวแปรสำคัญที่พาทีมลุ้นความสำเร็จได้เสมอ
เคนยังไม่หยุด และแฟนบอลต้องคอยจับตา
จากฟอร์มในเกมนี้เห็นชัดว่า เคน ยังไม่คิดผ่อน ความกระหายในประตูและความเป็นผู้นำในสนามยังจัดเต็มเหมือนเดิม หากเขายังรักษามาตรฐานแบบนี้ไว้ต่อเนื่อง ทั้งสถิติส่วนตัวและความสำเร็จของทีมมีโอกาสจะถูกเขียนหน้าใหม่อีกหลายบท
แฟนบอลที่อยากเกาะทุกจังหวะข่าวบอลมันส์ๆ และอัปเดตฟอร์มเดือดของแข้งดังจากลีกยุโรป อย่าลืมติดตามข่าวฟุตบอล มุมมองเจาะลึก และเรื่องราวรอบสนามได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

