เดวีสกลับมาซ้อมเต็มรูปแบบ เสือใต้ได้ข่าวดีฝั่งซ้าย
แฟนบอลเสือใต้โล่งใจได้เลย เมื่อ อัลฟอนโซ เดวีส แบ็กซ้ายสายสปีดของ บาเยิร์น มิวนิค หวนคืนสู่การซ้อมร่วมกับทีมได้แล้ว หลังต้องพักยาวถึง 8 เดือนจากอาการบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าขวาฉีกขาด ระหว่างรับใช้ทีมชาติแคนาดาในเดือนมีนาคม 2025 ถือเป็นการกลับมาที่ทุกคนรอคอย เพราะเดวีสคือฟูลแบ็กที่ยกระดับเกมรุกฝั่งซ้ายของเสือใต้มาตลอดในยุคหลัง
ดาวเตะวัย 25 ปีผ่านทั้งการผ่าตัดและโปรแกรมฟื้นฟูร่างกายแบบเข้มข้นต่อเนื่อง ก่อนจะกลับมาซ้อมทีมได้ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ขั้นต่อไปคือการเรียกจังหวะเกมและความฟิตให้พร้อมสำหรับการลงสนามจริง ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ
So good to see @AlphonsoDavies 🤩
— FC Bayern (@FCBayernEN) November 17, 2025
Phonzy completed parts of team training today! pic.twitter.com/xDGdxVdtW2
กอมปานีเปิดไทม์ไลน์ชัด เล็งเกมชนไมนซ์นัดที่ 14 เป็นแมตช์คัมแบ็ก
กุนซือใหญ่อย่าง วินเซนต์ กอมปานี เผยเองว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน เดวีสอาจได้คืนสนามเกมทางการในศึก บุนเดสลีกา นัดที่ 14 พบไมนซ์
เขากล่าวถึงสภาพร่างกายของเดวีสว่า
“หลังจากบาดเจ็บหนักและพักไปนาน เราต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามมุมมองทางการแพทย์ เราเชื่อว่าเขาอาจจะกลับมาลงสนามได้ในเกมเจอกับไมนซ์”
คำพูดนี้สะท้อนชัดว่า ทีมสตาฟฟ์ของบาเยิร์นไม่คิดเร่งรีบ ทุกอย่างเดินตามกระบวนการแพทย์แบบเป๊ะ ๆ เพื่อให้เดวีสกลับมาอย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงบาดเจ็บซ้ำในระยะยาว
นอกจากนี้ กอมปานียังเปิดช่องว่า เดวีสอาจถูกใส่ชื่อในทีมก่อนเกมกับไมนซ์ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะในรายการยุโรป
เขาเสริมว่า
“เราต้องอดทนรอกันอีกนิด ว่าเขาจะมีชื่อติดทีมในเกม [ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก] กับสปอร์ติ้ง ลิสบอนหรือไม่ แม้อาจยังไม่ได้ลงเล่นจริงก็ตาม ยังต้องรอดูอีกที”
การได้ใส่ชื่อเดวีสในทีมแม้แค่นั่งข้างสนาม ก็เหมือนเป็นหมุดหมายทางจิตใจ ทั้งสำหรับนักเตะเองและห้องแต่งตัวของบาเยิร์น ว่ากำลังจะได้อาวุธหนักฝั่งซ้ายกลับคืนมาเต็มตัว
กอมปานียกย่องสภาพจิตใจเดวีส แกร่งไม่แพ้สภาพร่างกาย
ตลอดช่วง 8 เดือนที่ต้องพักยาว เดวีสไม่ได้สู้เพียงกับอาการบาดเจ็บทางกายเท่านั้น แต่ต้องต่อสู้กับสภาพจิตใจของตัวเองด้วย กอมปานีออกมาชื่นชมทัศนคติของลูกทีมรายนี้แบบไม่มีกั๊ก
เขาพูดถึงเดวีสว่า
“เขาแข็งแกร่งทางจิตใจมาก ช่วงแรกเขาต้องใช้เวลาสักพักเพื่อค้นหาแรงกระตุ้น คุณต้องคิดอยู่เสมอว่าจะกลับมาให้แข็งแกร่งกว่าเดิมจากอาการบาดเจ็บได้อย่างไร ผมเชื่อว่าเขาจะกลับมาแล้วแข็งแกร่งมาก ๆ ตอนนี้เขาไม่รู้สึกกดดันอะไรเลย”
สำหรับนักเตะสายสปีดอย่างเดวีส การกลับมาหลังเจ็บเอ็นไขว้หน้า (ACL) การเอาชนะความกลัวในจังหวะเร่งสปีด วิ่งเบียด และสไลด์บล็อก มีความสำคัญไม่แพ้ตัวเลขความฟิตในเครื่องวัดของทีมแพทย์ และสิ่งที่กอมปานีพูดชี้ให้เห็นว่า เดวีสผ่านจุดนั้นมาได้ด้วยหัวใจนักสู้เต็มร้อย
เสือใต้ยังโหดแม้ไร้เดวีส คว้าถ้วย-สร้างสถิติต่อเนื่อง
แม้จะขาดตัวหลักอย่างเดวีส บาเยิร์น มิวนิค ยังคงเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จแบบไม่แผ่ว ทีมของกอมปานีปิดซีซัน 2024/25 ด้วยการคว้าแชมป์บุนเดสลีกาเรียบร้อย และยังตอกย้ำความยิ่งใหญ่ด้วยโทรฟี ฟรานซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ ซูเปอร์คัพ 2025 อีกหนึ่งรายการ
เข้าสู่ซีซันใหม่ บาเยิร์นกดชัยชนะ 16 นัดรวดทุกรายการ ทำสถิติเป็นการออกสตาร์ตที่ยอดเยี่ยมระดับยุโรป แถมยังสร้างสถิติเปิดหัว บุนเดสลีกา ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรหลังผ่าน 12 นัดแรก นี่คือภาพของทีมที่ไม่ปล่อยให้การขาดเดวีสกลายเป็นข้ออ้าง แต่กลับใช้เป็นแรงผลักให้ขุมกำลังที่เหลือยกระดับฟอร์มขึ้นมาพร้อมกันทั้งทีม
ในแง่แท็กติก กอมปานีต้องสลับใช้ฟูลแบ็กและวิงแบ็กหลายรายเล่นฝั่งซ้าย ทั้งการปรับระบบและหมุนเวียนนักเตะ แต่เมื่อเดวีสพร้อมกลับมา เสือใต้จะมีมิติการโจมตีที่โหดขึ้นไปอีกระดับ ทั้งเรื่องสปีด การลากเลื้อยฉีกแนวรับ และการเติมซ้อนเข้าไปในกรอบเขตโทษ
เดวีส-มูเซียลา สองอนาคตเสือใต้ กับเป้าหมายฟุตบอลโลก 2026
นอกจากเดวีสที่เดินหน้าเรียกความฟิตเพื่อช่วยสโมสรและลุยศึก ฟุตบอลโลก 2026 กับทีมชาติแคนาดาในฐานะเจ้าภาพร่วมแล้ว บาเยิร์นยังมีอีกหนึ่งเพลย์เมกเกอร์คนสำคัญอย่าง จามาล มูเซียลา ที่ยังต้องใช้เวลาในขั้นตอนฟื้นฟูจากอาการเจ็บข้อเท้า/ขา
ในรายของมูเซียลา กอมปานีมองภาพรวมระยะยาวชัดเจน เขาระบุว่า หากเจ้าหนูรายนี้กลับมาซ้อมเต็มรูปแบบกับทีมได้อีกไม่กี่ครั้งก่อนช่วงคริสต์มาส สโมสรจะถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างมาก และปี 2026 อาจกลายเป็นปีทองของมูเซียลา ที่ได้ปลดล็อกศักยภาพเต็มรูปแบบทั้งในสีเสื้อบาเยิร์นและทีมชาติ
ขณะเดียวกัน เดวีสเองก็มีเป้าหมายใหญ่อยู่ที่การพาแคนาดาสร้างผลงานให้โลกจับตามองในเวทีฟุตบอลโลกบนแผ่นดินบ้านตัวเอง การกลับมาฟิตร้อยเปอร์เซ็นต์กับบาเยิร์นจึงไม่ใช่แค่เรื่องของสโมสร แต่หมายถึงการเตรียมพร้อมสู่ทัวร์นาเมนต์ระดับสูงสุดในชีวิตนักเตะด้วย
บทเรียนจากอาการเจ็บเอ็นไขว้หน้า: ทำไมทีมใหญ่ต้องใจเย็นกับการคัมแบ็ก
อาการบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าแบบที่เดวีสเจอ เป็นหนึ่งในอาการเจ็บที่นักฟุตบอลกลัวที่สุด เพราะต้องใช้เวลาพักนานหลายเดือนและเสี่ยงต่อการเจ็บซ้ำหากรีบกลับมาลงสนามเร็วเกินไป สำหรับฟูลแบ็กสมัยใหม่ที่ใช้สปีดและการเปลี่ยนทิศทางรวดเร็วเป็นอาวุธ การฟื้นตัวจึงไม่ได้เกี่ยวกับแค่กล้ามเนื้อแข็งแรง แต่รวมถึงความเชื่อมั่นในหัวเข่าของตัวเองด้วย
สโมสรระดับท็อปอย่างบาเยิร์นจึงมักวางแผนฟื้นฟูเป็นขั้น ๆ ตั้งแต่ช่วงพักฟื้นเดี่ยวในยิม การวิ่งเบา ลงซ้อมเดี่ยวในสนาม ไปจนถึงการซ้อมร่วมกับทีมเต็มรูปแบบ ก่อนจะปล่อยลงเล่นเกมจริงทีละสเต็ป ไม่ว่าจะเป็นการให้ลงเล่นช่วงท้ายเกม หรือเลือกแมตช์ที่มีแรงกดดันน้อยกว่า เพื่อให้ร่างกายและจิตใจปรับตัวเข้ากับความเข้มข้นของเกมระดับสูงอีกครั้ง
การบริหารจัดการแบบนี้ไม่เพียงยืดอายุการค้าแข้งของนักเตะ แต่ยังช่วยให้ทีมมีโอกาสใช้งานสตาร์ของตัวเองแบบเต็มศักยภาพในระยะยาว ซึ่งกรณีของเดวีสกำลังกลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสำคัญที่แฟนบอลทั่วโลกจับตาดู
นับถอยหลังรอเสียงเฮจากฝั่งซ้ายเสือใต้ แฟนบอลลุ้นเดวีสคืนสนาม
โปรแกรมของบาเยิร์นก่อนจบปี 2025 ยังเหลืออีก 4 นัดให้ต้องกรำศึกต่อเนื่อง โดยทริปบุกเยือนไฮเดนไฮม์ในเกม บุนเดสลีกา นัดที่ 15 จะเป็นแมตช์สุดท้ายของปฏิทินปีนี้ แฟนเสือใต้จึงลุ้นกันสองชั้น ทั้งผลการแข่งขันและการได้เห็นชื่อเดวีสกลับมามีส่วนร่วมกับทีมอีกครั้ง
หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน เดวีสจะค่อย ๆ ถูกใส่ชื่อในทีม บิลด์ความมั่นใจและจังหวะเกม ก่อนจะกลับมาเป็นตัวหลักทางฝั่งซ้ายเหมือนเดิม และเมื่อถึงวันนั้น เกมรุกของบาเยิร์นจะยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีกระดับ
ส่วนแฟนบอลชาวไทยที่ตามเชียร์เสือใต้และบิ๊กเนมยุโรป ถ้าอยากเก็บทุกอัปเดตสำคัญของเดวีส มูเซียลา และบาเยิร์น ตลอดซีซันที่เข้มข้นแบบนี้ ห้ามพลาดติดตามทุกความเคลื่อนไหวฟุตบอลโลก, บอลยุโรป และข่าวบอลเดือด ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

