จาก : ผลบอลสด บุนเดสลีกา ระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค 3-1 ซังค์ เพาลี วันนี้ 29/11/68 – บ้านกีฬา
ศึกบุนเดสลีกาที่อัลลิอันซ์ อารีน่า บาเยิร์น มิวนิค โชว์ความเป็นทีมใหญ่แบบเต็มสูบ แซงชนะ ซังค์ เพาลี 3-1 ทั้งที่โดนนำตั้งแต่ต้นเกม จาก ผลบอลสด คู่นี้ “เสือใต้” ได้ประตูจาก ราฟาเอล เกร์เรยโร่, หลุยส์ ดิอาซ และนิโกลัส แจ็คสัน ขณะที่ทีมเยือนยิงนำก่อนจาก มานูเอล พี. ลาเค่ แต่สุดท้ายต้านความคมและแรงกดดันไม่ไหว กลับบ้านมือเปล่า
⏱ ครึ่งแรก: ซังค์ เพาลีช็อกจ่าฝูงก่อนโดนสวนคืน
เปิดฉากมาแค่ 6 นาที แฟนเจ้าบ้านเงียบกริบ เมื่อแนวรับหลุดตำแหน่ง บอลทะลุถึง มานูเอล พี. ลาเก้ หลุดเข้าไปซัดผ่านมานูเอล นอยเออร์ ให้ซังค์ เพาลีขึ้นนำ 0-1 แบบทุกคนยังไม่ทันตั้งตัว
หลังเสียประตู บาเยิร์นเร่งสปีดทันที ไล่บี้เพรสสูง ครองบอลเหนือกว่าชัดเจน เกร์เรยโร่กับดิอาซลากบอลเจาะริมเส้นสลับกันไปมา ส่วนแฮร์รี่ เคน ถอยต่ำมาล้วงบอลเพื่อเปิดช่องให้ตัวรุกสองข้างวิ่งสอด แต่ทีมเยือนยังตั้งโซนรับลึกอุดกันแน่น ใช้จังหวะสวนกลับกวนเกมเป็นระยะ
นาที 39 ซังค์ เพาลีเริ่มรั่วให้เห็น เมื่อคาเลโอ เม็ตส์ เข้าบอลช้าโดนใบเหลืองจากจังหวะตัดเกมกลางสนาม เป็นสัญญาณว่ากองหลังเริ่มตามเกมไม่ทัน ก่อนที่ท้ายครึ่งแรก นาที 44 บาเยิร์นตีเสมอจากจังหวะทำทางสุดสวย หลุยส์ ดิอาซ ล็อกเข้าเท้าขวาก่อนหยอดไปเสาสองให้ ราฟาเอล เกร์เรยโร่ เติมขึ้นมายิงจ่อๆ ตุงตาข่าย 1-1 แล้วจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
🔥 ครึ่งหลัง: เสือใต้บี้ต่อเนื่องก่อนปิดบัญชีช่วงทดเจ็บ
ครึ่งหลัง แว็งซ็องต์ กองปานี ขยับหมากทันที ส่งไมเคิล โอลิเซ แทนคอนราด ไลเมอร์ เพิ่มความจัดจ้านริมเส้น ฝั่งซังค์ เพาลีต้องแก้เกมเร็วเหมือนกัน ถอด อ็องเดรียส อูนตอนด์ฌี ออกตั้งแต่นาที 18 ให้ดาเนล ซีนานี่ลงมาช่วยพักบอลด้านบน
บาเยิร์นบุกอยู่ฝ่ายเดียว รูปเกมไหลมาฝั่งเจ้าบ้านเรื่อยๆ นาที 65 เปลี่ยนพร้อมกันสองคน ส่งโยซิป สตานิซิช กับแซร์จ นาบรี้ลงมา เติมความสดทั้งเกมรับและเกมรุก ก่อนจะขยับเอาเลออน โกเร็ตซ์ก้าลงอีกคนในนาที 77 เพื่อปูพรมบุกเต็มกำลัง
จุดเปลี่ยนอยู่ช่วงท้ายเกม นาที 83 ยอสซัว คิมมิช แทงทะลุช่องให้ นิโกลัส แจ็คสัน ที่เพิ่งลงมาได้สลัดแนวรับ แต่จังหวะนั้นยังไม่เข้า ทว่าแสดงให้เห็นชัดว่ากำลังรุกของ “เสือใต้” ยังไหลไม่หยุด
แล้วความพยายามก็สำเร็จ นาที 90+3 คิมมิชเปิดบอลคัดพุ่งไปเสาไกล หลุยส์ ดิอาซ พุ่งโหม่งเสียบเสาอย่างเด็ดขาดให้เจ้าบ้านแซงนำ 2-1 ก่อนที่นาที 90+6 จะเป็นแจ็คสันใช้สปีดหนีแนวรับเข้าไปซัดปิดกล่อง 3-1 จากนั้น VAR เช็กยืนยันประตูในนาที 90+8 ทำเอาอัลลิอันซ์ อารีน่าแทบแตก ก่อนจบเกมด้วยชัยชนะสุดเดือดของบาเยิร์น
👥 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🔴 บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1)
ผู้จัดการทีม: แว็งซ็องต์ กองปานี
ผู้เล่นตัวจริง
- ผู้รักษาประตู: มานูเอล นอยเออร์ (กัปตัน) – คะแนน 6.3
- กองหลัง: คอนราด ไลเมอร์ 5.9, คิม มิน-แจ 7.8, โจนาธาน ทาห์ 8.0, โธมัส บิช็อฟ 6.1
- กองกลางตัวรับ: ยอสซัว คิมมิช 8.2, อเล็กซานเดอร์ พาฟโลวิช 7.8
- แนวรุกสามตัว: เลออน คาร์ล 6.2, ราฟาเอล เกร์เรยโร่ 7.5, หลุยส์ ดิอาซ 8.6
- ศูนย์หน้า: แฮร์รี่ เคน 6.1
ตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนาม
- ไมเคิล โอลิเซ (ลงนาที 46 แทน ไลเมอร์) – คะแนน 7.2
- โยซิป สตานิซิช (ลงนาที 65 แทน เกร์เรยโร่) – คะแนน 6.9
- แซร์จ นาบรี้ (ลงนาที 65 แทน คาร์ล) – คะแนน 6.5
- เลออน โกเร็ตซ์ก้า (ลงนาที 77 แทน คิม มิน-แจ) – คะแนน 6.5
- นิโกลัส แจ็คสัน (ลงนาที 83 แทน พาฟโลวิช) – คะแนน 8.0
ตัวสำรองไม่ได้ใช้
โยนาส เออร์บิก, คาสเซียโน ไคอาลา, ฮิโรกิ อิโตะ, ซาชา โบอีย์
ผู้เล่นบาดเจ็บ/พักแข่ง
จามาล มูเซียลา, อัลฟอนโซ่ เดวิส
⚫ ซังค์ เพาลี (5-4-1)
ผู้จัดการทีม: อเล็กซานเดอร์ เบลสซิน
ผู้เล่นตัวจริง
- ผู้รักษาประตู: นิโคลา วาซิลย์ – คะแนน 6.1
- กองหลังห้าคน: เจซี ฟูจิตะ 6.5, ฮาวเก้ วัลห์ 6.4, เอริก สมิธ 6.3, คาเลโอ เม็ตส์ 5.9, ลูคัส ริตซ์คา 6.1
- กองกลาง: เจมส์ แซนด์ส 6.4, แจ็คสัน เออร์ไวน์ (กัปตัน) 6.8, มานูเอล พี. ลาเก้ 6.7, อาเดรียน เพียร์ก้า 6.5
- ศูนย์หน้า: อ็องเดรียส อูนตอนด์ฌี 7.4
ตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนาม
- ดาเนล ซีนานี่ (ลงนาที 18 แทน อูนตอนด์ฌี) – คะแนน 6.8
- อับดูลลาย เซสเซย์ (ลงนาที 68 แทน เออร์ไวน์) – คะแนน 6.5
- หลุยส์ อ็อปปี (ลงนาที 68 แทน ริตซ์คา) – คะแนน 6.0
- คอนเนอร์ เม็ตคาล์ฟ (ลงนาที 87 แทน ลาเก้) – คะแนน 6.3
ตัวสำรองไม่ได้ใช้
เบน โฟลล์, อดัม ดซ์วิกาลา, มานอลิส ซาเลียกาส, ริคกี้-เจด โจนส์, มาร์ติน คาร์ส
ผู้เล่นบาดเจ็บ/พักแข่ง
ดาวิด เนเมธ, มาร์วิน ชมิดทซ์
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
มองในมุมเกมรุก-เกมรับแบบสาย วิเคราะห์บอล แท็กติกของบาเยิร์นวันนี้ชัดเจนว่าเล่น 4-2-3-1 เพื่อโหมบุกใส่กำแพงห้ากองหลังของซังค์ เพาลี ฟูลแบ็กอย่างไลเมอร์กับบิช็อฟถูกสั่งให้ดันสูงซ้อนกับเกร์เรยโร่และคาร์ล ทำให้เส้นข้างฝั่งเจ้าบ้านมีตัวเลือกจ่ายบอลสองชั้นตลอดเวลา เมื่อบวกกับการจ่ายทะลุช่องแม่นๆ ของคิมมิช ทำให้แนวรับทีมเยือนต้องถอยลึกจนแทบเหยียบเขตโทษตัวเอง
จุดเด่นของเสือใต้คือการเปลี่ยนจังหวะเร็ว เมื่อเสียบอลก็ไล่เพรสแย่งกลับทันที ทำให้ซังค์ เพาลีแทบไม่ได้ตั้งลำโต้กลับ มีเพียงลูกยาวหาอูนตอนด์ฌีและลาเก้ที่พอได้ลุ้นบ้างเท่านั้น แต่ก็ไม่ต่อเนื่องพอจะกดดันแนวรับเจ้าบ้าน
ด้านเกมรับของบาเยิร์น แม้จะพลาดเสียประตูเร็วจากจังหวะหลุดซ้าย ขึ้นอยู่กับการสื่อสารระหว่างคิม มิน-แจ กับทาห์ที่เผลอเปิดช่องให้ลาเก้หลุด แต่หลังจากนั้นคู่เซ็นเตอร์คุมพื้นที่ได้ดีมาก ตัดบอลกลางอากาศแทบหมด ส่วนซังค์ เพาลีเลือกเล่นรับลึกแบบ 5-4-1 ตั้งกำแพงหน้าเขตโทษ อาศัยกองกลางถอยลงมาเก็บตกหน้ากรอบ แต่พอเริ่มล้า ช่วงท้ายเกมช่องว่างระหว่างไลน์ก็เปิดเต็มๆ ให้ดิอาซและแจ็คสันใช้สปีดเล่นงาน
สรุปเชิงแท็กติก บาเยิร์นใช้คุณภาพของตัวรุกและการหมุนเวียนบอลเร็วๆ บดจนกองหลังทีมเยือนหลุดสมาธิ ก่อนลงโทษด้วยสองประตูช่วงทดเวลา เป็นชัยชนะที่มาจากทั้งแท็กติกและความฟิตของทีม
📈 สถิติการแข่งขันสะท้อนรูปเกม
ตัวเลขหลังเกมบอกทุกอย่าง บาเยิร์นครองบอลถึง 74% ต่อ 26% ของซังค์ เพาลี ส่งบอลมากถึง 842 ครั้ง ความแม่นยำสูงถึง 93% ขณะที่ทีมเยือนจ่ายบอลได้เพียง 176 ครั้ง แม่นยำ 80% แปลว่าทั้งเกมต้องวิ่งไล่ตามลูกและแทบไม่ได้ตั้งเกมของตัวเอง
แม้ “เสือใต้” จะยิงเข้ากรอบเพียง 3 ครั้งจากการสับไกทั้งหมด 15 หน แต่ทุกลูกเป็นโอกาสทองและเปลี่ยนเป็น 3 ประตูเต็มๆ ฝั่งซังค์ เพาลียิง 7 ได้เข้ากรอบแค่ครั้งเดียวคือประตูขึ้นนำต้นเกม ฟาวล์ของทีมเยือนมากกว่า 8 ต่อ 5 สะท้อนว่าต้องใช้การตัดเกมหยุดจังหวะบุกของเจ้าบ้านอยู่ตลอด ลูกเตะมุมก็เป็นของบาเยิร์นล้วนๆ 10 ต่อ 2 ทำให้รูปเกมโดยรวมเป็นการบุกวันเวย์ใส่ประตูของวาซิลย์แทบทั้ง 90 นาที
📝 เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ นาทีที่ 6 ซังค์ เพาลีช็อกจ่าฝูง มานูเอล พี. ลาเก้ หลุดเข้าไปยิงให้ทีมเยือนนำ 0-1 จากจังหวะทำชิ่งกับอ็องเดรียส อูนตอนด์ฌี
- 🔁 นาทีที่ 18 ซังค์ เพาลีเปลี่ยนตัวเร็ว ถอดอูนตอนด์ฌีที่มีอาการไม่สมบูรณ์ออก แล้วส่งดาเนล ซีนานี่ลงมาประคองเกมรุก
- 🟨 นาทีที่ 39 คาเลโอ เม็ตส์ เข้าบอลช้าโดนใบเหลือง เป็นสัญญาณว่ากองหลังเริ่มตามเกมรุกบาเยิร์นไม่ทัน
- ⚽ นาทีที่ 44 ราฟาเอล เกร์เรยโร่ ซัดตีเสมอ 1-1 จากจังหวะเปิดสุดแม่นของหลุยส์ ดิอาซ ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
- 🔁 นาทีที่ 46 บาเยิร์นส่งไมเคิล โอลิเซ ลงแทนคอนราด ไลเมอร์ เติมความสดริมเส้นขวา
- 🔁 นาทีที่ 65 เสือใต้ขยับสองคนรวด โยซิป สตานิซิช ลงแทนเกร์เรยโร่ และแซร์จ นาบรี้ ลงแทนเลออน คาร์ล เพื่อเร่งเกมรุก
- 🔁 นาทีที่ 68 ซังค์ เพาลีเปลี่ยนเกมกลางสนาม ส่งอับดูลลาย เซสเซย์ลงแทนกัปตันทีม แจ็คสัน เออร์ไวน์ พร้อมกับ หลุยส์ อ็อปปี แทนลูคัส ริตซ์คา
- 🔁 นาทีที่ 77 บาเยิร์นส่งเลออน โกเร็ตซ์ก้าลงแทนคิม มิน-แจ ปรับแผงกลางให้มีมิติเติมยิงไกลมากขึ้น
- 🟨 นาทีที่ 83 โจนาธาน ทาห์ โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์กลางสนาม
- 🔁 นาทีที่ 83 นิโกลัส แจ็คสัน ถูกส่งลงมาแทนอเล็กซานเดอร์ พาฟโลวิช เป็นตัวทีเด็ดแดนหน้า
- 🔁 นาทีที่ 87 ซังค์ เพาลีขยับตัวสุดท้าย ส่งคอนเนอร์ เม็ตคาล์ฟลงมาแทนมานูเอล พี. ลาเก้
- ⚽ นาทีที่ 90+3 หลุยส์ ดิอาซ โหม่งประตูสุดสำคัญให้บาเยิร์นนำ 2-1 จากการเปิดโค้งของยอสซัว คิมมิช
- ⚽ นาทีที่ 90+6 นิโกลัส แจ็คสัน ใช้สปีดหนีแนวรับหลุดเข้าไปยิงเสียบเสา เป็นประตู 3-1 ให้เจ้าบ้าน
- ✅ นาทีที่ 90+8 VAR เช็กยืนยันประตูของแจ็คสัน “เสือใต้” นำห่าง 3-1 ก่อนเป่าจบเกม
🌟 Player of the Match – หลุยส์ ดิอาซ
หลุยส์ ดิอาซ คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของเกมไปครองด้วยคะแนน 8.6 สมราคาแข้งตัวทีเด็ดของบาเยิร์น ตลอดเกมเขาเป็นตัวความหวังในแดนหน้า ลากเลื้อยกินตัวคู่แข่งทั้งฝั่งซ้ายและย้ายเข้ากลาง สร้างโอกาสให้เพื่อนหลายครั้ง
ประตูตีเสมอ 1-1 มาจากการครอสบอลอย่างเยือกเย็นของเขา ส่วนประตู 2-1 ก็เป็นคนสอดโหม่งเองในช่วงทดเวลาบาดเจ็บแรก เรียกว่าแบกเกมรุกไว้ทั้งคอนเทนต์ ทำให้แนวรับซังค์ เพาลีต้องประกบสองตลอด แต่ก็ยังเอาไม่อยู่ เป็นฟอร์มระดับซูเปอร์สตาร์ที่ช่วยให้ทีมเก็บสามแต้มสุดสำคัญ
📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนบุนเดสลีกา
ชัยชนะนัดนี้ทำให้บาเยิร์นลงเล่น 12 นัด ชนะ 11 เสมอ 1 ยังไม่แพ้ใคร ยิงไปแล้ว 44 ประตู เสียเพียง 9 ลูก เก็บ 34 คะแนน ครองจ่าฝูงบุนเดสลีกาแบบโหดๆ และทิ้งอันดับสองอย่างไลป์ซิกที่มี 26 แต้มออกไปไกล ยิ่งตอกย้ำว่าปีนี้เสือใต้ยังคงเป็นเต็งหนึ่งแบบไร้ข้อโต้แย้ง
ในทางตรงกันข้าม ซังค์ เพาลียังคงจมโซนอันตราย อันดับ 17 ของตาราง แข่ง 12 นัด ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ถึง 9 มีแค่ 7 คะแนน ประตูได้เสีย -14 (ยิง 10 เสีย 24) ถ้ายังแก้ปัญหาเกมรับไม่ได้ มีสิทธิ์ต้องหนีตกชั้นยาวตลอดฤดูกาล
📅 ตารางบอลบุนเดสลีกาและโปรแกรมนัดถัดไป
มองไปข้างหน้าในมุมคนเช็ก ตารางบอล บาเยิร์นยังมีโปรแกรมหนักต่อเนื่อง เริ่มจากเกมเดเอฟเบ-โพคาล บุกเยือนอูนิโอน เบอร์ลิน วันที่ 4 ธันวาคม จากนั้น 6 ธันวาคม ต้องออกไปเยือนสตุ๊ทการ์ทในบุนเดสลีกา ซึ่งเป็นเกมสำคัญอีกนัดของการลุ้นแชมป์
ด้านซังค์ เพาลีมีโปรแกรมบอลชุกไม่แพ้กัน วันที่ 3 ธันวาคม จะบุกไปเยือนโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ในเดเอฟเบ-โพคาล ก่อนจะลงเตะลีกนัดสำคัญพบโคโลญจน์ในวันที่ 6 ธันวาคม เกมเหล่านี้คือโอกาสสำคัญในการกอบกู้ความมั่นใจและหนีจากโซนแดง หากยังพลาดซ้ำอีก อนาคตในลีกสูงสุดจะยิ่งสั่นคลอนเข้าไปใหญ่
📺 ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวบอลเดือดๆ ได้ที่บ้านกีฬา
ใครที่ชอบเช็กสกอร์สด สถิติหลังเกม และอัปเดตทุกจังหวะสำคัญแบบช็อตต่อช็อต แวะมาที่ บ้านผลบอล สายแข้งและสายเชียร์ห้ามพลาด บ้านกีฬา จะเกาะติดทุกเกมใหญ่ของบุนเดสลีกาและลีกดังยุโรป นำสรุปแมตช์เดือด บทวิเคราะห์เจาะลึก และมุมมองแบบคนดูบอลตัวจริงมาฝากกันทุกวัน อยากรู้ว่าเกมหน้าเสือใต้จะยังดุ หรือซังค์ เพาลีจะฮึดสู้ได้แค่ไหน กลับมาติดตามกันได้ที่ บ้านกีฬา เช่นเดิม
