เสือใต้สุดโหด คัมแบ็กสู่ยุคทองแห่งบาวาเรีย
ฤดูกาล 2025/26 กำลังกลายเป็นบทพิสูจน์ว่า บาเยิร์น มิวนิค ยังเป็น “จักรพรรดิแห่งยุโรป” ตัวจริง แม้จะเปลี่ยนกุนซือมาเป็น แว็งซ็องต์ กอมปานี แต่ฟอร์มกลับแรงทะลุเพดาน หลังเกมล่าสุดบุกเชือด เปแอสเช 2-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบลีกเฟส นัดที่สี่ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ “เสือใต้” ชนะรวด 16 นัดทุกรายการ ยิงกระจาย 33 ประตูใน บุนเดสลีกา และยังเก็บคลีนชีตได้ถึง 7 นัดเต็ม
กอมปานี เข้ามายกระดับบาเยิร์นให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เกมรุกดุดันเฉียบขาดเหมือนยุคทอง ส่วนเกมรับก็แข็งแกร่งจนคู่แข่งแทบไม่ได้หายใจ บ้านกีฬา ขอนำทุกท่านไปเจาะลึก 10 สถิติสุดโหดของบาเยิร์น มิวนิค ซีซั่นนี้ ที่ยืนยันว่าพวกเขาคือทีมที่น่ากลัวที่สุดในยุโรปตอนนี้
ยังไม่แพ้ใครในลีกใหญ่ยุโรป
“เสือใต้” เป็นทีมเดียวใน 5 ลีกใหญ่ที่ยังไม่พ่ายแพ้หรือแม้แต่เสมอ พวกเขากวาดชัย 9 นัดรวดในบุนเดสลีกา มี 27 คะแนนเต็ม พร้อมทิ้งห่างคู่แข่งอย่างดอร์ทมุนด์และเลเวอร์คูเซินหลายแต้ม
16 นัดรวดทุกรายการ สถิติโลกร้อง
บาเยิร์นคว้าชัยต่อเนื่องถึง 16 นัดรวมทุกรายการ ซึ่งหากรักษาฟอร์มนี้ได้อีก 8 เกม พวกเขาจะทำลายสถิติชนะติดต่อกันสูงสุดของสโมสรที่เคยทำไว้ 23 นัดในปี 2020
เกมรับแน่นสุดในลีก เสียแค่ 4 ประตู
แนวรับของบาเยิร์นแข็งแกร่งเกินต้าน เสียไปเพียง 4 ประตูจาก 9 นัดในบุนเดสลีกา ทำให้พวกเขาเป็นทีมที่โดนเจาะประตูน้อยที่สุดในลีกตอนนี้
ตามหลังคู่แข่งแค่ 5 นาทีทั้งฤดูกาล
หนึ่งในตัวเลขที่สะท้อนความเหนือชั้นคือ บาเยิร์นตกเป็นฝ่ายตามหลังเพียง “5 นาที” ตลอดทั้งซีซั่น และนั่นเกิดขึ้นในเกม เดเอฟเบ โพคาล ที่พบกับโคโลญจน์ ก่อนจะพลิกกลับมาชนะอย่างรวดเร็ว
คลีนชีต 7 นัดจาก 16 เกม
กอมปานีสร้างสมดุลเกมรับได้สมบูรณ์แบบ ทีมสามารถเก็บคลีนชีตได้ถึง 7 นัดจาก 16 เกม สะท้อนถึงการทำงานร่วมกันที่ลงตัวระหว่างแนวรับและผู้รักษาประตู
ทำสถิติเทียบยุค เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
บาเยิร์นกลายเป็นทีมที่สองในประวัติศาสตร์สโมสรที่ชนะ 9 นัดแรกของบุนเดสลีกา ติดต่อกัน หลังเคยทำได้ในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เมื่อฤดูกาล 2015/16 นับเป็นการคืนชีพของดีเอ็นเอ “แชมป์นิสัยดีแต่ไม่ยอมใคร”
ยิงได้ทั้งทีม 11 คนมีสกอร์
ไม่ใช่เพียงซูเปอร์สตาร์ที่แบกทีม แต่บาเยิร์นมีผู้เล่นถึง 11 คนที่ทำประตูได้ในซีซั่นนี้ แสดงให้เห็นถึงระบบเกมรุกที่หลากหลายและยากจะจับทางได้
กระสุนคมสุดในลีกและยุโรป
“เสือใต้” ยิงในบุนเดสลีกาไปแล้วถึง 33 ประตูจาก 9 นัด มากที่สุดในลีก ขณะที่ใน แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ยิงไป 14 ลูก เท่ากับ เปแอสเช ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนพลังเกมรุกระดับโลกอย่างแท้จริง
33 ประตูในลีก สถิติสูงสุดอันดับสองตลอดกาล
ตัวเลข 33 ประตูจาก 9 เกม ถือเป็นสถิติสูงสุดอันดับสองในประวัติศาสตร์ลีกเยอรมัน รองเพียงฤดูกาลที่บาเยิร์นยุคทองของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่เคยยิงได้มากกว่าในจำนวนแมตช์เท่ากัน
ผ่านบอลแม่นยำ 90.2% ตัวเลขแห่งความสมบูรณ์แบบ
บาเยิร์นมีเปอร์เซ็นต์การผ่านบอลแม่นถึง 90.2% ในบุนเดสลีกา ซึ่งเป็นตัวเลขระดับ “เอลิทคลับ” ของยุโรป ชี้ชัดถึงคุณภาพการครองบอลและระบบทีมเวิร์กที่กอมปานีสร้างขึ้น
ความต่อเนื่องและจิตใจแชมป์
สิ่งที่ทำให้บาเยิร์นแตกต่างจากทีมอื่นในยุโรป ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือ “จิตใจแห่งผู้ชนะ” พวกเขาเล่นด้วยความมุ่งมั่นทุกเกม ไม่ว่าจะเป็นเกมในลีกหรือต่างแดน การหมุนเวียนนักเตะก็ยังรักษามาตรฐานสูงได้เหมือนเดิม
มุมมองนักวิเคราะห์: บาเยิร์นในยุคกอมปานี
นักวิเคราะห์หลายสำนักเริ่มยกย่องว่า บาเยิร์นชุดนี้คือการรวมกันของ “พลังหนุ่ม” กับ “ความเก๋าเกม” การมาของแข้งอย่าง จามาล มูเซียล่า, คิม มินแจ, และแฮร์รี่ เคน ทำให้เกมรุกของทีมสมบูรณ์ทั้งความเร็วและพลัง ขณะที่แดนกลางคุมจังหวะได้ดุจเครื่องจักรเยอรมัน
อนาคตที่รออยู่ข้างหน้า
เมื่อมองจากฟอร์มในตอนนี้ บาเยิร์นไม่เพียงเป็นเต็งหนึ่งของบุนเดสลีกา แต่ยังกลายเป็นทีมที่ทุกสโมสรใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ต้องระวัง หากพวกเขารักษาความสม่ำเสมอนี้ไว้ได้ การคว้า “ทริปเปิลแชมป์” ก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน
สรุป
บาเยิร์น มิวนิค ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของฟุตบอลเยอรมันและยุโรป ฟอร์มในฤดูกาลนี้พิสูจน์แล้วว่า “เสือใต้” ภายใต้กอมปานี คือทีมที่พร้อมเขย่าบัลลังก์ลูกหนังโลกอีกครั้ง ติดตามความเคลื่อนไหวและทุกประเด็นร้อนของฟุตบอลยุโรปได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

