ฤดูกาลแห่งความเข้มข้นของ บุนเดสลีกา เยอรมนี ได้ปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อย กลายเป็นลีกใหญ่แห่งแรกของยุโรปที่รูดม่านซีซั่น 2024/25 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา และก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง เพราะการชิงชัยตลอดทั้งปีเต็มไปด้วยดราม่า หักมุม และความตื่นเต้นทุกหยดเวลา โดยเฉพาะการกลับมาทวงแชมป์ของยอดทีมแห่งแคว้นบาวาเรียอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ที่งัดฟอร์มดุคืนบัลลังก์ได้อย่างสง่างาม พร้อมพาดาวยิงผู้เฝ้ารอแชมป์มาทั้งชีวิตอย่าง แฮร์รี่ เคน คว้าโทรฟี่ใบแรกที่เฝ้ารอมานานถึง 15 ปี!
ชัยชนะในซีซั่นนี้ถือเป็นการคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา สมัยที่ 33 อย่างเป็นทางการ (หากนับรวมแชมป์จากระบบลีกเก่า จะเป็นสมัยที่ 34) และยังเป็นฤดูกาลเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมของกุนซือใหม่อย่าง แว็งซ็องต์ กอมปานี ที่เข้ามากู้ศักดิ์ศรี “เสือใต้” ได้อย่างทรงพลังหลังเสียแชมป์ให้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ไปในปีก่อนหน้า
สำหรับ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงทีมชาติอังกฤษที่แบกความหวังไว้บนบ่ามานานหลายปี ได้รับรางวัลแห่งความอดทนสักที เขาไม่เพียงแค่ได้แชมป์ลีกแรกในชีวิต แต่ยังคว้าตำแหน่ง ดาวซัลโว บุนเดสลีกาด้วยผลงาน 26 ประตู และเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกันที่เขาครองตำแหน่งนี้ นี่คือรางวัลที่คู่ควรสำหรับกองหน้าระดับโลกที่ไม่เคยหยุดพัฒนา
อีกด้านหนึ่งของเวทีการแข่งขัน แม้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แชมป์เก่า จะต่อสู้ได้ดี แต่จบฤดูกาลในอันดับสอง ส่งท้ายยุคของกุนซือคนเก่ง ชาบี อลอนโซ่ ที่เตรียมไปรับงานใหญ่ที่ เรอัล มาดริด ขณะที่ ดอร์ทมุนด์ เร่งเครื่องในเกมสุดท้ายจนปาดหน้า ไฟร์บวร์ก คว้าตั๋วไปลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ
ทีมที่สร้างความผิดหวังไม่น้อยคือ แอร์เบ ไลป์ซิก ที่แม้เต็มไปด้วยขุมกำลังแน่น แต่กลับพลาดท่าแพ้คาบ้านให้ สตุ๊ตการ์ท 2-3 ในนัดสุดท้าย หล่นไปจบเพียงอันดับ 7 ชวดคว้าตั๋วยุโรปเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 2016/17 ถือเป็นบทสรุปที่เจ็บแสบสำหรับทีมที่เคยเป็นขาประจำของถ้วยยุโรป
โซนตกชั้นก็มีเรื่องให้พูดถึงไม่น้อย โฮลสไตน์ คีล ทีมน้องใหม่ที่ฝันจะอยู่รอดจบฤดูกาล กลับต้องร่วงกลับ บุนเดสลีกา 2 ทันที เช่นเดียวกับ เฟาเอฟแอล โบคุ่ม ที่หล่นไปแบบเจ็บลึก ส่วน ไฮเดนไฮม์ ที่จบอันดับ 16 ยังมีหวังต่อลมหายใจด้วยการไปเล่นเพลย์ออฟกับทีมอันดับ 3 จากลีกล่าง
สรุปโควตาการไปเล่นฟุตบอลยุโรปและทีมตกชั้น
- ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : บาเยิร์น มิวนิค, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น, ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
- ยูฟ่า ยูโรปา ลีก : ไฟร์บวร์ก
- ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก : ไมนซ์ 05
- ตกชั้นโดยตรง : เฟาเอฟแอล โบคุ่ม, โฮลสไตน์ คีล
- ตกชั้นแบบมีลุ้นเพลย์ออฟ : ไฮเดนไฮม์ (อันดับ 16)
ดาวซัลโว บุนเดสลีกา 2024/25
- 26 ประตู: แฮร์รี่ เคน (บาเยิร์น มิวนิค)
- 21 ประตู: พาทริค ชิค (เลเวอร์คูเซ่น), แซร์อู กีราสซี (ดอร์ทมุนด์)
- 18 ประตู: โยนาธาน เบอร์คาร์ดท์ (ไมนซ์ 05)
- 16 ประตู: ทิม ไคลน์ดีนส์ต (กลัดบัค)
- 15 ประตู: เออร์เมดิน เดมิโรวิช (สตุ๊ตการ์ท), โอมาร์ มาร์มูช, อูโก เอกิติเก (แฟร้งค์เฟิร์ต)
- 13 ประตู: เบนจามิน เชชโก (ไลป์ซิก)
- 12 ประตู: ไมเคิล โอลีเซ, จามาล มูเซียลา (บาเยิร์น), นิค วอลเทอมาเดอ (สตุ๊ตการ์ท)
- 11 ประตู: อลาสซาน เปลอา (กลัดบัค), อันเดร ครามาริช (ฮอฟเฟนไฮม์), ลีรอย ซาเน่ (บาเยิร์น), ชูโตะ มาชิโนะ (คีล)
- 10 ประตู: ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ (เลเวอร์คูเซ่น), เยนส์ สเตจ (เบรเมน), โมฮัมเหม็ด อมูรา (โวล์ฟสบวร์ก), พอล นีเบิล (ไมนซ์), ริทซึ โดอัน (ไฟร์บวร์ก), ซาฟี ซิมอนส์ (ไลป์ซิก)
- 9 ประตู: อเล็กซิส โคลด-มัวริซ (เอาก์สบวร์ก), เบเนดิกท์ โฮลเลอร์บัค (อูนิโอน), เดนิซ อุนดาฟ (สตุ๊ตการ์ท), โยนาส วินด์ (โวล์ฟสบวร์ก), หลุยส์ โอเปนดา (ไลป์ซิก)
จอมแอสซิสต์เด่นประจำปี
- 15 แอสซิสต์: ไมเคิล โอลีเซ (บาเยิร์น)
- 12 แอสซิสต์: ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ (เลเวอร์คูเซ่น)
- 11 แอสซิสต์: วินเชนโซ กริโฟ (ไฟร์บวร์ก)
- 10 แอสซิสต์: ยูเลียน บรันด์ท, ปาสกาล กรอสส์ (ดอร์ทมุนด์)
- 9 แอสซิสต์: โมฮัมเหม็ด อมูรา (โวล์ฟสบวร์ก)
เกร็ดสถิติที่น่าสนใจ
- เกมยิงประตูเยอะสุด: แฟร้งค์เฟิร์ต ชนะ โบคุ่ม 7-2
- เจ้าบ้านถล่มสุด: ดอร์ทมุนด์ ถล่ม อูนิโอน 6-0
- ทีมเยือนถล่มสุด: บาเยิร์น บุกถล่ม คีล 6-1, โบคุ่ม 5-0, เบรเมน 5-0
- ชนะต่อเนื่องยาวสุด: เลเวอร์คูเซ่น 8 นัด
- ไร้พ่ายยาวสุด: เลเวอร์คูเซ่น 22 นัด
- ไม่ชนะใครนานสุด: โบคุ่ม 14 นัด
- แพ้รวดมากสุด: ไฮเดนไฮม์ 7 นัด
ฤดูกาลนี้บอกเลยว่า บุนเดสลีกา ไม่ได้มีดีแค่เกมรุกสุดมันหรือการลุ้นแชมป์เท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งเวทีที่บอกเล่าเรื่องราวการคืนชีพของทีมยักษ์ใหญ่ ความสมหวังของยอดดาวยิง และน้ำตาของทีมที่ต้องลาจากลีกสูงสุดอีกครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์ของฟุตบอลเยอรมันที่ไม่เคยลดดีกรีความเข้มข้นเลยแม้แต่วินาทีเดียว
ติดตาม ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดข่าวสารวงการลูกหนังระดับโลกที่นี่ที่เดียว!

