
เกิดแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า เมื่อ อูลี่ เฮอเนส ประธานกิตติมศักดิ์ของ บาเยิร์น มิวนิค ออกมายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าสโมสร “พลาด” กับการจัดการเรื่องอนาคตของ โธมัส มุลเลอร์ หลังปล่อยให้เจ้าตัวมีความหวังเรื่องการต่อสัญญา ทั้งที่ความจริงแล้วบอร์ดบริหารมีมติเด็ดขาดไปแล้วว่าจะไม่ขยายสัญญากับแข้งขวัญใจแฟนบอลรายนี้
ตำนานลูกหนังผู้เป็นสัญลักษณ์ของ “เสือใต้” มาตั้งแต่ยังอยู่ในอะคาเดมี่อย่างมุลเลอร์ กำลังจะหมดสัญญากับสโมสรเมื่อจบฤดูกาล 2024/25 แต่ท่ามกลางข่าวลือมากมายเรื่องการต่อสัญญา สโมสรกลับนิ่งเงียบ ไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจน ทำให้เกิดความคลุมเครือในแวดวงสื่อ และโดยเฉพาะกับตัวนักเตะเองที่มีความหวังว่าเขาอาจได้รับการต่อสัญญาเป็นของขวัญตอบแทนความจงรักภักดีอันยาวนาน
เฮอเนส ยืนยันว่าทางบอร์ดบริหารและ คณะกรรมการกำกับดูแล (Supervisory Board) ของสโมสรมีฉันทามติร่วมกันมาตั้งแต่แรกว่าจะไม่มีการต่อสัญญากับดาวเตะวัย 35 ปี แต่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นคือการสื่อสารที่ล่าช้า และปล่อยให้ความหวังนั้นก่อตัวขึ้นในใจของมุลเลอร์อย่างไม่จำเป็น
“มันควรเป็นตัวของโธมัสเองที่ตัดสินใจว่าเมื่อไหร่จะวางมือ ไม่ใช่ให้ เอฟเซ บาเยิร์น เป็นคนตัดสินใจแทนเขาเสียก่อน” เฮอเนส กล่าวอย่างจริงจัง “ผมเคยเห็นนักเตะระดับตำนานหลายคนผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในบั้นปลาย ไม่ว่าจะเป็น กุนเทอร์ เน็ตเซอร์, โวล์ฟกัง โอเวราธ, ฟรานซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ หรือแม้แต่ แกร์ด มุลเลอร์ พวกเขาล้วนเผชิญกับความจริงอันโหดร้ายที่ไม่มีใครอยากยอมรับว่าวันหนึ่งเราจะไม่ใช่นักเตะคนเดิมอีกต่อไป”
ประธานกิตติมศักดิ์แห่งถิ่นแคว้นบาวาเรีย ย้ำว่า ความผิดอยู่ที่สโมสรอย่างปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวมุลเลอร์ต้องมาทราบข่าวการไม่ต่อสัญญาจากฝ่ายกีฬาของทีมในภายหลัง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระแทกความรู้สึกของนักเตะผู้ภักดีรายนี้เข้าเต็มเปา
“เราปล่อยให้เขาเชื่อว่าอาจมีโอกาสได้สัญญาใหม่อยู่พักใหญ่ แต่นั่นกลายเป็นต้นเหตุของความไม่พอใจ เพราะสุดท้ายเขาต้องมารับรู้ความจริงจากการคุยกับทีมงานว่า สโมสรไม่มีแผนจะต่อสัญญาอีกต่อไป” เฮอเนส กล่าวย้ำ
“มันไม่แปลกที่โธมัสจะโกรธ เขาไม่พร้อมสำหรับข่าวร้ายแบบนั้น และผมก็เข้าใจเขาอย่างที่สุด”
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งแฟนบอลและนักวิเคราะห์ที่ตั้งคำถามว่าบาเยิร์นปฏิบัติกับหนึ่งในตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสรได้เหมาะสมแล้วหรือไม่ การออกมายอมรับของเฮอเนสในครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเยียวยาความรู้สึกของแฟนบอลและตัวมุลเลอร์เอง แม้ทุกอย่างจะสายเกินไปสำหรับการกลับคำตัดสินเรื่องอนาคตก็ตาม
เรื่องราวครั้งนี้คือเครื่องเตือนใจสำคัญว่าแม้แต่สโมสรระดับยักษ์ใหญ่อย่าง บาเยิร์น มิวนิค ก็สามารถพลาดได้ หากละเลยสิ่งสำคัญที่สุดในการบริหารสโมสรฟุตบอล นั่นคือ “การเคารพหัวใจของผู้ที่ภักดีต่อทีมเสมอมา”
ติดตามทุกมุมมองลึกซึ้ง ข่าวเด่น และเบื้องลึกเบื้องหลังของโลกลูกหนังได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา ที่นี่ที่เดียว