หลังจากที่เกิดกระแสดราม่าจากคำเปิดใจของ ภูมิใจไทย ที่ยอมรับว่ามีปัญหากับทางค่าย จนทำให้ไม่สามารถขึ้นชกได้เป็นเวลากว่า 4 เดือน ทำให้ล่าสุด ทางเพื่อนร่วมค่ายของเขา ต้องออกมาแก้ตัวให้ทางค่าย โดยยืนยันว่า ค่ายมวยปกรณ์พรสุรินทร์ ไม่เคยเอาเปรียบใคร อบอุ่นและรักกันดี
“ผมในนาม ต้มยำกุ้ง ปกรณ์พรสุรินทร์ ขอพูดความในใจของผมที่มีต่อค่ายนี้ ตั้งแต่ผมก้าวเข้ามาในค่ายผมยังไม่เคยมีความคิดที่ว่าโดนเอาเปรียบเลยแม้แต่นิด แกเลี้ยงดูตั้งแต่ผมค่าตัว 1500 บาท จนตอนนี้ค่าตัวก็อยู่ในเกณฑ์ที่พออยู่ได้ อย่าว่าแต่เลี้ยงดูผมเลย พี่ชายผมแกก็เลี้ยงดูขนาดไม่ได้ต่อยมวยให้ที่ค่าย แกยังช่วยส่งเรียนจนจบมหาลัยจนตอนนี้พี่ชายผมมีงานทำ ส่วนพ่อของผมก็ได้มีงานทำ แกใส่ใจดูแลทุกๆเรื่อง เวลาพ่อแม่ผมมาเยี่ยมที่ค่ายแกก็ดูแลค่าเดินทาง ค่ากิน ผมรุ้สึกได้ถึงความเมตตา ผมไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินกับทางค่ายเลยสักครั้ง”
“ตอนผมเดินสายชกภูธรกองเชียร์จากที่บ้านมาตามเชียร์ แกก็ยังช่วยดูแลเรื่องค่าตั๋วเข้าดูมวย ช่วงโควิดไม่มีรายการชกเป็นปีๆ ผมก็กินนอนซ้อมรักษาสภาพร่างกายอยู่ค่าย ขาดเหลือบอกแก แกก็หยิบยื่นให้ตลอด ไม่เคยทิ้งขว้าง ช่วงผมไปชกที่ช่อง 7 อัดฉีดทองผมทุกไฟต์ ค่าตัวก็ได้เต็ม พอมาชกศึก one ต้องใช้เวลาในการเก็บตัวเป็นเดือนสองเดือน เพราะเป็นรายการที่มีนักมวยหลายๆคนอยากจะขึ้นชกและมีผู้ติดตามมาก เวลาได้ค่าตัวที่ค่ายจะบอกจะสอนให้รู้จักการแบ่งปันนักมวยในค่ายที่ยังไม่มีรายการเพื่อจะได้มีกินมีใช้เล็กๆน้อยๆพอได้มีตังติดตัวซื้อขนมกินกัน ค่ายมวยเราอยู่กันแบบครอบครัวเล็กๆผมโตมาแบบครอบครัวที่อบอุ่นมีอะไรก็กินกันแบบนั้น ไม่เคยเลยที่จะแบ่งแยกแกเป็นผู้ให้โดยไม่คิดว่าจะมาเอาอะไรจากผมเลย แกต้องการอย่างเดียวคือให้เราตั้งใจซ้อมขยันและอดทนส่วนเรื่องเงินแกไม่เคยเข้ามายุ่งหรืออยากได้เลยแต่ที่ต้องหักเพราะต้องดูแลเทรนเนอร์บางส่วนแค่นั้นเอง สุดท้ายนี้แล้วผมอยากจะบอกว่าผมอบอุ่นที่สุดที่ ที่อยู่ค่ายมวยปกรณ์พรสุรินทร์ตั้งแต่เดินเข้ามาจนถึงวันนี้”
#ปกรณ์พรสุรินทร์เลือดร้อย
#แกไม่เคยสั่งให้ใครเลิกมวย
#ลูกพี่มีแต่ให้
#ตอนผมมาผมมาแต่ตัว