ซุปเปอร์เล็กตัวไม่ถึงพิกัด? นาบิลฟันธงควรหวนฟลายเวต หลังพ่ายโยซะเดือดศึก ONE 173

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

เสียงสะท้อนจากแชมป์โลก หลังซุปเปอร์เล็กพลาดท่าที่ญี่ปุ่น

กระแส มวยไทย ONE Championship กลับมาร้อนระอุอีกครั้งหลังจบศึก ONE 173 ที่อาริอาเกะ อารีน่า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยหนึ่งในประเด็นที่แฟนหมัดมวยพูดถึงกันไม่หยุด คือความพ่ายแพ้ของ ซุปเปอร์เล็ก ต่อ ยูกิ โยซะ ในพิกัด รุ่นแบนตัมเวต จนทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า เขา “ตัวเล็กเกินไป” สำหรับน้ำหนักนี้หรือไม่

คนที่ออกมาพูดแบบตรงไปตรงมาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ นาบิล อานาน แชมป์มวยไทย รุ่นแบนตัมเวตของ ONE ผู้ครองบัลลังก์พิกัด 65.8 กิโลกรัม (145 ปอนด์) อยู่ในตอนนี้ ซึ่งมองชัดว่า ซุปเปอร์เล็กควรคิดเรื่อง “ถอยกลับ” ไป รุ่นฟลายเวต เพื่อเรียกฟอร์มโหดแบบที่เคยพีกสุดในปี 2023-24 กลับมาให้ได้

นาบิลมองชัด ซุปเปอร์เล็กตัวเล็กเกินไปในแบนตัมเวต

ในศึก ONE 173 ค่ำคืนเดียวกับที่ซุปเปอร์เล็กแพ้คะแนนโยซะ ทางฝั่ง นาบิล อานาน เองก็โชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์โลก เมื่อสามารถเอาชนะ ฮิโรมิ วาจิมะ ได้แบบเอกฉันท์ที่อาริอาเกะ อารีน่า หลังไฟต์เจ้าตัวให้สัมภาษณ์กับ นิค แอตกิ้นส์ ผู้สื่อข่าวสังกัดบางกอกโพสต์ บริเวณหลังเวที โดยชี้ตรง ๆ ว่า การขึ้นไปต่อสู้ในพิกัด 65.8 กิโลกรัม หรือ รุ่นแบนตัมเวต กำลังกลายเป็นภาระที่หนักเกินไปสำหรับซุปเปอร์เล็ก

เขาเปิดใจว่า จากที่ได้ดูไฟต์ระหว่างซุปเปอร์เล็กกับโยซะนั้น ซุปเปอร์เล็กเหมือนตัวเอง “ทำอะไรไม่ค่อยได้” ไล่จับจังหวะไม่ลงเท่าในอดีต ในขณะที่โยซะโชว์ฟอร์มเกินคาด จนเจ้าตัวยังบอกด้วยว่า ในอนาคตอาจมีโอกาสได้เจอกับโยซะเองด้วยซ้ำ

ผมดูไฟต์ระหว่าง ซุปเปอร์เล็ก กับ โยซะ แล้ว ซุปเปอร์เล็ก เหมือนไม่รู้จะทำอะไร นาบิล กล่าว

โยซะ สู้ดีมาก อาจจะได้เจอกันในอนาคตนะ

ฟอร์มเบอร์หนึ่งยุค 2023–24 ยังกลับมาได้ ถ้าเลือกพิกัดให้ถูก

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงโอกาสที่ซุปเปอร์เล็กจะกลับไปอยู่ในฟอร์มระดับ “เบอร์หนึ่งของโลก” แบบที่เคยทำได้ในช่วงปี 2023–24 นาบิลก็ไม่ลังเลที่จะชี้ไปที่เรื่อง “น้ำหนักและพิกัด” เป็นหลัก

ได้นะ เขาเก่งมากในรุ่นฟลายเวต(135 ป.) เราเห็นได้ชัดว่าในพิกัดแบนตัมเวต เขาดูตัวเล็กไป

นาบิลยังไล่เรียงให้เห็นภาพชัด ๆ ว่า ซุปเปอร์เล็กแทบยังไม่ทันได้พิสูจน์ตัวเองแบบเต็ม ๆ ในพิกัดแบนตัมเวตด้วยซ้ำ

ถ้าจำไม่ผิด เขาชกในแบนตัมเวตมาแค่สามไฟต์ ไฟต์แรกเจอ แฮกเกอร์ตี้ และชนะน็อกตั้งแต่ยกแรกเลยยังไม่ได้เห็นอะไรมาก ไฟต์สองเจอกับผม ก็สู้กันครบสามยก เจอ โยซะ ก็ครบสามยก เขาเก่งมากในรุ่นฟลายเวต ดังนั้นบางทีไฟต์หน้าเขาน่าจะกลับไปฟลายเวต

มุมมองของนาบิลจึงไม่ใช่การวิจารณ์แบบกด แต่เป็นการชี้ให้เห็นว่า ถ้าซุปเปอร์เล็กกลับไปพิกัดที่ร่างกาย “ลงตัวที่สุด” อย่างฟลายเวต เขายังมีสิทธิ์กลับไปยืนในจุดที่เคยเป็น—ตัวท็อประดับโลกอีกครั้ง

ปัญหาคุมน้ำหนัก–เวทเทรนคือหัวใจของอาชีพ ไม่ใช่แค่เรื่องลดเข้าไฟต์

นอกจากเรื่องพิกัดแล้ว นาบิลยังเน้นย้ำหนัก ๆ ว่า สิ่งที่ซุปเปอร์เล็กต้องระวังคือการคุมน้ำหนักและดูแลสภาพร่างกาย เพราะอย่าลืมว่า เขายังเป็น แชมป์คิกบ็อกซิ่งรุ่นฟลายเวตของ ONE อยู่ แต่ไม่ได้ขึ้นป้องกันเข็มขัดมาเกือบสองปี และไม่ได้ขึ้นชกในรุ่นนี้มานานถึง 18 เดือนแล้ว

อย่าปล่อยตัวตอนอยู่นอกแคมป์ครับ ควรซ้อมตลอด ถึงไม่ต้องซ้อมหนักก็ยังต้องรักษาร่างกายตัวเองไว้ นาบิล แนะนำ

ถ้ายังอยู่ในกีฬานี้ ร่างกายสำคัญมาก ต้องคุมให้ดี อย่าปล่อยขึ้นไป 76–77 กิโล แล้วค่อยลดมาชก 66 กิโล มันไม่ดีเลย

คำพูดเหล่านี้สะท้อนมุมมองของนักสู้ระดับแชมป์โลกที่เข้าใจดีว่า “การลดน้ำหนักแบบหักโหม” ใกล้วันชกอาจทำลายทั้งฟอร์มการชกและอายุอาชีพในระยะยาว นักสู้ที่ดีต้องดูแลตัวเองตั้งแต่ช่วงนอกแคมป์ ไม่ใช่ค่อยมาเอาจริงเอาจังเฉพาะตอนมีไฟต์

ชาตรีมองภาพรวมแรงกิ้ง ONE: แบนตัมเวตโหดที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก

ไม่ใช่แค่เสียงจากแชมป์มวยไทยเท่านั้น ฝั่งผู้บริหารอย่าง ชาตรี ศิษย์ยอดธง ซีอีโอของ ONE Championship ก็ออกมาให้ความเห็นแบบตรงไปตรงมาในงานแถลงข่าวหลังรายการ ONE 173 เช่นกัน

โยซะ ทำให้ ซุปเปอร์เล็ก ดูเหมือนนักสู้ธรรมดา ๆ ผมไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน

เขาบอกผมว่าอยากชกกับ โยซะ อีกครั้ง แต่ผมไม่แน่ใจนะ ถ้าดูรุ่นแบนตัมเวต ตอนนี้มันโหดมาก มีทั้ง นาบิล แฮกเกอร์ตี้ โยซะ ซุปเปอร์เล็ก… เป็นหนึ่งในรุ่นที่แข็งที่สุดในโลก

คำพูดของชาตรีสะท้อนสองอย่างในเวลาเดียวกัน หนึ่ง – เขาให้เครดิตโยซะเต็ม ๆ ว่าทำได้ดีจริงจนทำให้ซุปเปอร์เล็กดู “ธรรมดา” และสอง – เขาชี้ให้เห็นว่า รุ่นแบนตัมเวตของ ONE ตอนนี้เต็มไปด้วยตัวท็อประดับโลก แค่ชื่อ นาบิล – แฮกเกอร์ตี้ – โยซะ – ซุปเปอร์เล็ก ก็รู้แล้วว่ามันคือสมรภูมิที่ผิดพลาดนิดเดียว อาจหลุดจากเส้นทางลุ้นเข็มขัดทันที

ทำไมการเลือกพิกัดจึงสำคัญกับนักมวยไทยยุคใหม่

ในยุคที่วงการ มวยไทย และ คิกบ็อกซิ่ง ขยับขึ้นสู่เวทีโลกอย่างเต็มตัว นักสู้แทบทุกคนไม่ได้ชกแค่ในไทย แต่ต้องขึ้นเวทีระดับอินเตอร์ เจอทั้งกติกา เวทเทรน และคู่แข่งที่มีพื้นฐานศิลปะการต่อสู้หลากหลาย การเลือก “รุ่นน้ำหนักที่เหมาะสม” จึงไม่ได้เป็นแค่เรื่องตัวเลขบนตาชั่ง แต่เกี่ยวข้องกับทุกอย่าง ตั้งแต่พลังหมัด–แข้ง ความเร็ว ความอึด ไปจนถึงโอกาสยืนระยะบนเวทีระดับสูง

ถ้าน้ำหนักที่ใช้ชกเป็นตัวเลขที่ร่างกายต้อง “ฝืน” ทั้งลดหนักเกิน หรือต้องขึ้นไปเจอคู่ชกตัวใหญ่กว่าเกินไป นักมวยจะเสียเปรียบตั้งแต่ก่อนระฆังยกแรก ซึ่งเคสของซุปเปอร์เล็กในแบนตัมเวต กำลังกลายเป็นตัวอย่างที่ถูกถกเถียงกันในหมู่แฟนมวยว่า เขาควรยืนระยะในพิกัดนี้ต่อ หรือกลับไปฟลายเวตที่เคยเป็นบ้านหลังเดิมของเขา

สำหรับแฟนมวยไทย การติดตามเส้นทางของนักสู้ระดับท็อปอย่างซุปเปอร์เล็ก จึงไม่ได้มีแค่ผลแพ้–ชนะในไฟต์เดียว แต่อยู่ที่การวางหมากในอาชีพ การเลือกพิกัด การดูแลร่างกาย และการตัดสินใจร่วมกันระหว่างทีม งานโค้ช และโปรโมเตอร์ด้วย

ซุปเปอร์เล็กจะเลือกทางไหนต่อ? แฟนหมัดมวยจับตาไฟต์หน้า

แม้ค่ำคืนที่ญี่ปุ่นจะไม่ใช่วันของซุปเปอร์เล็ก แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเขายังเป็นหนึ่งในนักสู้สายมวยไทยที่อันตรายที่สุดบนเวที ONE Championship โดยเฉพาะใน รุ่นฟลายเวต ที่เคยเป็นสนามล่าเหยื่อและเวทีสร้างชื่อให้เขากลายเป็นตัวท็อประดับโลก

ฝั่งนาบิลเองก็ยังย้ำชัดในตอนท้ายว่า

“เขา (ซุปเปอร์เล็ก) เก่งมากในฟลายเวต ไฟต์หน้าบางทีเขาควรกลับไปฟลายเวตครับ”

คำถามสำคัญตอนนี้คือ ทีมงานของซุปเปอร์เล็กจะเลือกเดินต่อทางไหน? จะดันต่อในแบนตัมเวตที่โหดสุด ๆ หรือจะถอยกลับไปฟลายเวตเพื่อรีดฟอร์มเก่งให้กลับมาน่ากลัวเหมือนเดิม แฟนมวยไทยและแฟน ONE ทั่วโลกคงต้องรอติดตามกันแบบห้ามกระพริบตา

และถ้าไม่อยากพลาดทุกประเด็นเดือดในวงการ มวยไทย, ศึก ONE, มวยไทยเวทีโลก และเรื่องราวของยอดมวยไทยอย่างซุปเปอร์เล็กในทุกไฟต์สำคัญ กดติดตาม มวยสดบ้านกีฬา เอาไว้ได้เลย เราจะพาแฟนมวยชาวไทยไปเกาะทุกมุมเวที วิเคราะห์ทุกไฟต์ และอัปเดตทุกข่าวแบบเข้มข้น ดุดัน สไตล์คอมวยตัวจริง

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา