
การกลับมาสู่สังเวียนในรอบกว่าหนึ่งปีของ “แหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์โลก WBC 2 สมัยวัย 38 ปี กลายเป็นบทเรียนสุดเจ็บปวด เมื่อเจ้าตัวต้องพ่ายคะแนนแบบเอกฉันท์ให้กับดาวรุ่งพุ่งแรงจากแดนอาทิตย์อุทัย ไคโตะ ยามาซากิ วัยเพียง 26 ปี ในศึกกำหนด 8 ยก พิกัด 122 ปอนด์ ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2568
ไฟต์นี้จัดขึ้นที่ ซูมิโยชิ เซ็นเตอร์ เมืองโอซาก้า โดยถือเป็นบททดสอบที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับศรีสะเกษ หลังขยับน้ำหนักขึ้นมาสู่พิกัด 122 ปอนด์ ซึ่งเป็นรุ่นที่เขาไม่คุ้นเคยนัก และจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในยกแรก เมื่อเจ้าตัวพลาดท่าเจอหมัดตรงของยามาซากิเข้าเต็ม ๆ จนต้องให้กรรมการนับแปดทันทีตั้งแต่เสียงระฆังยังไม่ทันจางหาย
แม้จากนั้น “เจ้าแหลม” จะพยายามกลับเข้าสู่เกม เดินหน้าลุย ไล่บด ไล่บี้ในช่วงยกที่ 2 ถึงยกที่ 4 พร้อมอาศัยประสบการณ์และความเก๋าสะสมจังหวะหวังทวงแต้มคืน แต่ยามาซากิหนุ่มแน่น แข็งแรง และฉลาดเกม ครองพื้นที่กลางเวทีได้ตลอด บวกกับช่วงตัวยาวทำให้ศรีสะเกษไม่สามารถเข้าไปปิดระยะหวังผลได้อย่างถนัด
ในยกหลัง ๆ ศรีสะเกษยังคงเดินลุยไม่ถอย พยายามรัวหมัดซ้ายอันเป็นอาวุธประจำตัว แต่น้ำหนักหมัดดูเหมือนจะไม่เพียงพอในการสร้างความเสียหายชัดเจนให้กับเจ้าถิ่น ครบ 8 ยก เสียงระฆังปิดฉากลง ท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนมวยญี่ปุ่นที่สะเทือนทั้งเวที ก่อนกรรมการทั้งสามรายจะรวมคะแนนแล้วชี้ขาดให้ ไคโตะ ยามาซากิ เป็นฝ่ายชนะคะแนนเอกฉันท์ด้วยคะแนน 77-74, 78-73 และ 78-73
หลังการชก “แหลม” เปิดใจด้วยน้ำเสียงผิดหวังแต่ยังเปี่ยมไปด้วยความจริงใจ โดยกล่าวขอโทษแฟนมวยชาวไทยที่ไม่สามารถคว้าชัยชนะกลับมาเป็นของขวัญช่วงเทศกาล สงกรานต์ ได้ พร้อมยอมรับว่าไฟต์นี้ตนเสียเปรียบเรื่องรูปร่างและน้ำหนักเป็นอย่างมาก
“เขาสูงกว่า ตัวใหญ่กว่า และหมัดหนักด้วย ผมพยายามเร่งเครื่องหลายรอบ แต่ต่อยยังไงก็ไม่สะเทือน คิดว่าคงต้องกลับไปชกในรุ่น 118 ปอนด์ที่เป็นพิกัดถนัดของผมมากกว่า” ศรีสะเกษเผยถึงแผนในอนาคตอย่างตรงไปตรงมา
ด้าน “เสี่ยฮุย” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ผู้จัดการส่วนตัวของอดีตแชมป์โลกรายนี้ ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ตนยังคงเชื่อมั่นในความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณนักสู้ของศรีสะเกษ และพร้อมผลักดันให้เดินหน้าต่อในพิกัดที่เหมาะสมกับร่างกายและสไตล์การชกของเจ้าตัวมากที่สุด
“ในรุ่น 122 ปอนด์ แหลมเสียเปรียบมากจริง ๆ โดยเฉพาะเรื่องสรีระ แต่ผมเห็นความพยายาม เห็นความตั้งใจของเขา ยังเชื่อว่าแหลมจะกลับมาได้อีกครั้งในรุ่นที่เหมาะสมกว่า ขอให้แฟนมวยชาวไทยส่งแรงใจให้พวกเราด้วย เราจะสู้ไปด้วยกัน” เสี่ยฮุยกล่าวปิดท้ายอย่างมั่นใจ
แม้จะพลาดชัยในการกลับมาครั้งสำคัญ แต่ “แหลม ศรีสะเกษ” ยังคงเป็นขวัญใจของแฟนมวยไทยทั้งประเทศ และการเดินทางในเส้นทางนักสู้ของเขายังไม่ถึงจุดจบ หากมีการปรับแผนและวางกลยุทธ์ใหม่อย่างรอบคอบ เชื่อว่านักชกจากเมืองศรีสะเกษรายนี้จะยังมีไฟต์ใหญ่รออยู่อีกหลายครั้งบนเวทีโลก
ติดตามทุกข่าวสารความเคลื่อนไหวในวงการกำปั้นทั้งในประเทศและระดับโลกได้ก่อนใครกับ มวยสดบ้านกีฬา ที่เดียวครบ จบทุกความมันส์ของคนรักมวย!