แฟรนไชส์ดาวรุ่งอย่าง โอกลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์ เตรียมทดสอบแผนงานใหม่ในการสร้างทีมระหว่างช่วง เทรนนิ่งแคมป์ โดยมุ่งหน้าไปยังแนวทางการเล่นที่เคยประสบความสำเร็จในยุคมิลเลเนียม ซึ่งจะใช้ผู้เล่นไซส์ยักษ์สองคนประสานงานกันในแนวฟร้อนต์คอร์ต โดยเป้าหมายของธันเดอร์คือการปั้น เช็ต โฮล์มเกรน และเซนเตอร์ใหม่ไฟแรง ไอเซอาห์ ฮาร์เท่นสไตน์ เพื่อสร้างความได้เปรียบทั้งเกมรุกและเกมรับ
จากรายงานของสื่อท้องถิ่นอย่าง ‘โอกลาโฮแมน สปอร์ตส์’ ระบุว่าแม้ว่าในทางตำแหน่ง โฮล์มเกรน และ ฮาร์เท่นสไตน์ จะเป็นเซนเตอร์ แต่ด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยมของ โฮล์มเกรน โดยเฉพาะความคล่องแคล่วในการครองบอลและการเล่นเป็นเพาเวอร์ฟอร์เวิร์ด ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นการประสานงานกันของฟร้อนต์คอร์ตดาวรุ่งวัย 22 ปีอย่าง โฮล์มเกรน และ ฮาร์เท่นสไตน์ ที่เพิ่งเซ็นสัญญามาจากตลาดฟรีเอเจนต์ ขึ้นอยู่กับคู่แข่งในแต่ละเกม
ทางด้าน มาร์ก แด็กโนลต์ เฮดโค้ชของทีมก็ได้เปิดใจถึงไอเดียการใช้ “หอคอยคู่” โดยระบุว่าการส่งผู้เล่นตัวใหญ่ลงสนามพร้อมกันจะทำให้เกิดความยากลำบากแก่คู่แข่งทั้งสองฝั่งของสนาม ไม่ว่าจะเป็นการตั้งรับหรือการบุกโจมตี นอกจากนี้ ยังสร้างโอกาสให้ทีมได้ควบคุมเกมมากยิ่งขึ้น ด้วยความสูงและความสามารถของทั้งคู่
แนวคิด “หอคอยคู่” นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ใน NBA โดยเคยถูกใช้มาแล้วอย่างประสบความสำเร็จในช่วงต้นทศวรรษ 2000 กับทีมอย่าง ซาน แอนโทนิโอ สเปอร์ส ที่ใช้สองตำนานยักษ์ใหญ่อย่าง เดวิด โรบินสัน และ ทิม ดันแคน จนพาทีมคว้าแชมป์ในปี 1999 และ 2003 แนวทางนี้สามารถสร้างทีมที่มีความแข็งแกร่งทั้งในเรื่องของการป้องกันและการทำเกมรุก ซึ่งทำให้หลายทีมเริ่มหันกลับมาทบทวนแผนนี้อีกครั้งในยุคปัจจุบัน
หาก ธันเดอร์ สามารถพัฒนาแนวฟร้อนต์คอร์ตของพวกเขาด้วยการประสานงานระหว่าง โฮล์มเกรน และ ฮาร์เท่นสไตน์ ได้อย่างลงตัว มันอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่พาทีมก้าวไปสู่ความสำเร็จในฤดูกาลที่จะถึงนี้ การใช้ผู้เล่นสองคนที่มีทั้งความสูงและความสามารถหลากหลายจะไม่เพียงแต่ทำให้ทีมมีความได้เปรียบ แต่ยังช่วยเปิดโอกาสในการปรับเปลี่ยนเกมตามสถานการณ์ได้อย่างยืดหยุ่น
ติดตามข่าวสารบาสเกตบอลได้ที่ : บาสสดบ้านกีฬา