สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ ซูเปอร์สตาร์การ์ดของ โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส เริ่มเปิดใจถึงเส้นทางชีวิตหลังรีไทร์จาก NBA โดยเจ้าตัวไม่ปิดโอกาสที่จะก้าวสู่การเป็น โค้ชบาสเก็ตบอลระดับไฮสคูล เพื่อสานฝันและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นใหม่
เส้นทางที่เริ่มจากครอบครัวนักกีฬา
เคอร์รี่เติบโตท่ามกลางบรรยากาศบาสเก็ตบอลตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาอย่าง เดลล์ เคอร์รี่ ฝากผลงานใน NBA ยาวนานถึง 16 ฤดูกาล ผ่านการเล่นให้กับ 5 แฟรนไชส์ใหญ่ และยังคว้ารางวัล Sixth Man of the Year ปี 1994 ขณะอยู่กับ ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ ผลงานเฉลี่ยสูงสุดของเขาคือ 16.3 แต้มต่อเกม พร้อมความแม่นยำจากระยะไกล 40.2% ถือเป็นแบบอย่างในเส้นทางอาชีพของลูกชาย แต่เคอร์รี่ยืนยันว่าแรงบันดาลใจที่แท้จริง ไม่ได้มาจากพ่อเพียงอย่างเดียว
เขายกความสำคัญให้กับ ซอนย่า เคอร์รี่ คุณแม่ที่เป็นนักการศึกษา ซึ่งทำให้เขาเข้าใจถึงคุณค่าของการเรียนรู้และการเชื่อมโยงกับผู้คน นี่คือสิ่งที่หล่อหลอมให้เขามองเห็นบทบาทของการเป็นโค้ชว่าไม่ใช่แค่การสอนกีฬา แต่คือการพัฒนาเด็กๆให้เติบโตทั้งในสนามและในชีวิต
บทบาทนอกสนามที่เริ่มชัดเจนขึ้น
ตลอดปีที่ผ่านมา เคอร์รี่ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในบทบาทนักกีฬา เขายังรับตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ของโครงการบาสเก็ตบอลที่มหาวิทยาลัยเดวิสัน ซึ่งเป็นสถาบันที่สร้างชื่อเสียงให้เขาในอดีต อีกทั้งยังมีโอกาสจัดการฝึกซ้อมให้กับทีมบาสชายในเขต เบย์ แอเรีย เมื่อเดือนก่อน สะท้อนถึงความสนใจอย่างจริงจังในเส้นทางโค้ช
นอกจากนี้ ในงาน Workday Charity Classic ครั้งที่ 6 ที่สนามกอล์ฟสแตนฟอร์ด เคอร์รี่ยังพูดถึงอนาคตอย่างเปิดเผย โดยไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของภรรยา อายีชา เคอร์รี่ ที่เคยกล่าวไว้ในพ็อดแคสต์ว่าเขาสนใจอยากเป็นโค้ชระดับไฮสคูล
เสียงจากครอบครัวและความฝันในโลกคู่ขนาน
อายีชา ภรรยาของเคอร์รี่ เคยเล่าไว้อย่างตรงไปตรงมาว่า
“เขาบอกว่าอยากเป็นโค้ชบาสเก็ตบอลไฮสคูล ฉันคิดว่าฉันจะเป็นผู้หญิงที่คว้ามันมาได้ ไม่รู้สิ”
คำพูดนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนความคิดในบ้าน แต่ยังเผยถึงความตั้งใจจริงของเคอร์รี่ที่อยากสร้างสิ่งใหม่หลังแขวนรองเท้า
เจ้าตัวยังเสริมเองว่า
“ผมหมายถึง อะไรก็เป็นไปได้ ใครจะรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ด้วยความคิดที่ว่า โลกคู่ขนานนั้น ผมคงดีใจสุดๆ ที่ได้เป็นโค้ชระดับไฮสคูล เพราะรู้ว่าการมีบทบาทสำคัญต่อเด็กๆทุกคนมีบทบาท ผมเลือกเส้นทางที่แตกต่างออกไป”
ความหมายที่มากกว่าเกมกีฬา
สิ่งที่ทำให้แฟนบาสทั่วโลกจับตามอง ไม่ใช่เพียงสถิติการยิงสามแต้มที่เป็นตำนาน แต่คือภาพของเคอร์รี่ในบทบาทใหม่ ที่อาจใช้พลังแห่งชื่อเสียง ประสบการณ์ และทักษะในการเป็นผู้นำ ถ่ายทอดสู่เด็กๆในรุ่นต่อไป การเลือกทางนี้ยังสะท้อนคุณค่าของการศึกษาและการพัฒนาชุมชน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขายึดถือมาตลอด
มรดกที่เคอร์รี่จะฝากไว้
แม้วันนี้เขายังคงโลดแล่นใน NBA และเป็นหัวใจหลักของวอร์ริเออร์ส แต่เส้นทางข้างหน้าก็เริ่มชัดเจนมากขึ้น หากเขาตัดสินใจจริง เส้นทางโค้ชไฮสคูลคงเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่เติมเต็มความยิ่งใหญ่ของ “เชฟเคอร์รี่” ไม่ใช่เพียงในฐานะนักบาสระดับโลก แต่ในฐานะผู้สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นต่อรุ่น
และนี่คือสิ่งที่แฟนกีฬาไทยและทั่วโลกต่างอยากเห็น – การเปลี่ยนบทบาทจาก ตำนานผู้เล่น NBA สู่การเป็น ครูผู้สร้างคน
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวและเรื่องราวเข้มข้นของวงการกีฬาได้ที่ บาสสดบ้านกีฬา

