ในวงการมวยไทยดุเดือดอีกครั้งเมื่อ “พ่อเลี้ยงเจ” ผู้ว่าจ้างให้ โจ ณัฐวุฒิ นักมวยชื่อดัง เป็นพรีเซนเตอร์สินค้า เปิดเผยข้อมูลที่ทำให้สังคมฮือฮาเกี่ยวกับการจัดการเงินที่ไม่โปร่งใสของเอเยนต์ส่วนตัวของโจ ซึ่งทำให้เขาไม่ได้รับค่าตอบแทนตามที่ควรจะได้รับจริง
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา โจ ณัฐวุฒิ ประกาศแยกทางกับบริษัทที่ดูแลเขา หลังพบว่ามีการกระทำที่ไม่ถูกต้องในเรื่องการจัดจำหน่ายเสื้อ UPR x JO NATTAWUT ซึ่งเป็นสินค้าร่วมระหว่างโจและบริษัท ทำให้เกิดข้อพิพาททางการเงิน แต่เรื่องนี้เงียบหายไปนาน จนล่าสุดเพจ พ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคาร ที่เป็นเจ้าของโดย พ่อเลี้ยงเจ ออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมถึงสัญญาว่าจ้างที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งส่งผลให้ โจ ณัฐวุฒิ สูญเสียรายได้ที่ควรได้รับจากการเป็นพรีเซนเตอร์
พ่อเลี้ยงเจ เผยว่าตนได้จ่ายค่าตัวให้กับ โจ ณัฐวุฒิ เป็นจำนวน 200,000 บาท เพื่อโปรโมตสินค้าหนึ่งรายการ โดยตามข้อตกลงในสัญญาจะมีการแบ่งเงินกันในอัตรา 70:30 โดยที่ โจ ควรได้รับ 70% ของเงินค่าจ้าง หรือประมาณ 140,000 บาท ขณะที่บริษัทที่ดูแลเขาจะได้รับส่วนแบ่ง 30% จากยอดเงินทั้งหมด
แต่สิ่งที่ไม่ปกติก็คือ โจ ณัฐวุฒิ กลับได้รับแจ้งจากบริษัทว่ามีค่าตัวเพียง 75,000 บาท เมื่อหักค่าบริการเอเยนต์ 30% เหลือเพียงประมาณ 50,000 บาท ซึ่งแตกต่างจากยอดเงินที่ควรจะได้รับอย่างมาก สร้างความสงสัยและไม่พอใจให้กับโจและผู้สนับสนุน
พ่อเลี้ยงเจ ได้แสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนว่าพร้อมเป็นพยานในคดีนี้และมีเอกสารสัญญาที่ชัดเจนในการยืนยันข้อกล่าวหา ฝั่งของบริษัทที่ถูกกล่าวหายังไม่มีการตอบโต้หรือออกมาชี้แจงเรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งทำให้ความไม่ชัดเจนในประเด็นนี้ยังคงค้างคา
ประเด็นนี้สร้างความสนใจให้กับวงการมวยไทยและผู้ติดตามอย่างมาก เนื่องจากการที่นักมวยชื่อดังเช่น โจ ณัฐวุฒิ ที่ควรได้รับรายได้ตามข้อตกลงกลับต้องมาเจอกับปัญหาด้านการจัดการทางการเงินที่ไม่โปร่งใส ความคืบหน้าในกรณีนี้ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ฝั่งบริษัทจะออกมาชี้แจงหรือแก้ไขข้อพิพาทนี้อย่างไร
ติดตามมวยไทยอัพเดทก่อนใครที่ มวยสดบ้านกีฬา