Stade de Reims เป็นสโมสรฟุตบอลฝรั่งเศส ก่อตั้งเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 1931 ในเมืองแร็งส์ จังหวัดมาร์น เกิดจากการควบรวมสโมสรหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Société sportive du parc Pommery Stade de Reims จึงย้ายมาสู่สนามกีฬาเวโลโดรมเทศบาลแห่งใหม่ในปี 1934 ซึ่งต่อมากลายเป็นสนามกีฬา Auguste-Delaune หลังจากชนะเลิศการแข่งขันชิงแชมป์สมัครเล่นของฝรั่งเศสในปี 1935 สโมสรก็ตัดสินใจเปลี่ยนมาเล่นในระดับมืออาชีพและเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ฝรั่งเศสในดิวิชั่น 2 ปี 1938 มีการควบรวมกิจการกับ Sporting Club Rémois ซึ่งเป็นคู่แข่งในท้องถิ่น ทำให้ทีมมีแรงกระตุ้นใหม่ นำไปสู่การเลื่อนชั้นสู่ดิวิชัน 1 หลังสงครามได้สำเร็จ
ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจในอดีตจนถึงปัจจุบัน ของสโมสรแร็งส์
นับตั้งแต่มีการก่อตั้งสโมสรในปี ค.ศ. 1910 ระยะเวลามากกว่า 114 ปี ถือว่าเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่เริ่มต้นในยุคแรก Marquis Melchior de Polignac ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยให้ทุกอย่างผ่านไป และกลายมาเป็นสโมสรฟุตบอลได้จริง และก็มีการเปลี่ยนแปลงชื่อสโมสรหลายครั้ง เรียกได้ว่าทุกการเปลี่ยนแปลงมาจาก ผลกระทบทางการเงิน ทำให้เมื่อมีการช่วยเหลือหรือว่าหาทางออก ส่งผลให้มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อ เริ่มต้นลงแข่งขันในรูปแบบฟุตบอลอาชีพในปี ค.ศ. 1932 แต่ทว่าก็ยังไม่สามารถขึ้นไปแข่งขันได้อย่างเต็มที่ ต้องใช้เวลาถึง 3 ปี หลังจากนั้นถึงจะพัฒนาและยกระดับจากสมัครเล่น เข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลอาชีพได้สำเร็จ
Billy Aitken คือผู้จัดการทีมคนสำคัญที่พาให้สโมสร สามารถเข้าร่วมลีกสูงที่สุดในเวลานั้น ดิวิชัน 1 เนื่องจากว่าการแข่งขันลีกเอิงจะมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง การคว้าแชมป์แรกต้องรอถึงปี ค.ศ. 1949 เรียกได้ว่าลงแข่งขันมากกว่า 17 ปี และเป็นแชมป์รายการใหญ่ครั้งแรกของสโมสรนับตั้งแต่มีการก่อตั้งมา ถือว่าไม่ใช่สโมสรที่มีความพร้อม แต่เป็นการพัฒนาและเพิ่มเติมทักษะ ต้องบอกว่าในช่วงเวลานั้นสโมสรทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ และเดินหน้าในการคว้าแชมป์มากมาย กลายเป็นช่วงเวลา 12 ปี ที่ดีที่สุด แต่ทว่าทุกอย่างก็ยืนยาว หลังจากยุค 60 ตอนกลาง สโมสรแห่งนี้ก็หายไปจากคำว่าแชมป์ กลายเป็นสโมสรที่เลื่อนขั้นและลงลีกตลอดเวลา แต่ในเวลานี้ก็สามารถกลับมาแข่งขันในลีกลีกเอิงและกลายเป็นสโมสรกลางตาราง
ผลงานที่ผ่านมาของสโมสรแร็งส์
เกียรติประวัติและผลงานทั้งหมดที่ผ่านมา จะมีการคว้าแชมป์มาแล้วกี่สมัย และมีความยิ่งใหญ่เหมือนกับสโมสรอื่น ๆ ภายในประเทศฝรั่งเศสหรือไม่ เชื่อเถอะว่าถ้าไม่มีข้อมูลเหล่านี้เลย สโมสรฟุตบอลแร็งส์คงจะไม่สามารถยืนระยะมานานแบบนี้นั่นเอง เริ่มต้นลีกเอิง หรือว่าลีกสูงที่สุด สามารถครองแชมป์ไปถึง 6 สมัย ในปี ค.ศ. 1948-1949 , 1952-1953 , 1954-1955 , 1957-1958 , 1959-1960 และ 1961-1962 จากข้อมูลจะเห็นได้ถึงช่วงเวลาที่อยู่ในจุดสูงที่สุดได้ นับตั้งแต่ยุค 40 ตอนปลายถึงยุค 60 ตอนต้น และหลังจากนั้นทุกอย่างก็ไม่ประสบความสำเร็จได้อีกเลย หลากหลายสโมสรชื่อดังมักจะมีช่วงเวลาที่แตกต่างกันออกไป และมีช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำ
เพราะฉะนั้นเลือกติดตามเชียร์ก็ควรที่จะดูประวัติทั้งหมด แล้วจะรู้ว่าความยิ่งใหญ่ผ่านกาลเวลามานานแค่ไหน ต่อด้วยลีกเดอซ์ หรือว่าลีกอันดับที่ 2 สามารถครองแชมป์ได้ 2 สมัย ในปี ค.ศ. 1965-1966 และ 2017-2018 จากข้อมูลสามารถเข้าใจได้ว่า ยุคที่ประสบความสำเร็จหลังจากนั้นไม่นาน ก็ตกต่ำลงมาแข่ขันในลีกรอง แต่ก็ใช้เวลาไม่นานสามารถกลับขึ้นไปลีกชั้นนำได้ กุปเดอฟร็องส์ 2 สมัย ในปี ค.ศ. 1949-1950 และ 1957-1958 ช็องปียอนานาซียอนาล 1 สมัย ในปี ค.ศ. 2003-2004 กุปเดอลาลีก สามารถครองแชมป์ 1 สมัย
ในปี ค.ศ. 1990-1991 ทรอเฟเดช็องปียง รายการนี้ครองแชมป์ถึง 5 สมัยด้วยกัน ในปี ค.ศ. 1949 , 1955 , 1958 , 1960 และ 1966 ช็องปียอนาเดอฟร็องซามาเตอร์ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1934-1935 ในระดับยุโรป สโมสรแห่งนี้ไม่สามารถขึ้นไปคว้าแชมป์ได้ แต่เป็นการทำผลงานเข้ารอบลึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2 ครั้ง ในปี ค.ศ. 1955-1956 และ 1958-1959 ลาตินคัพ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1953 และนี่ถือว่าเป็นทุกข้อมูลที่ยิ่งใหญ่ภายในสโมสรแห่งนี้ จากยุคที่รุ่งเรืองและกลายมาเป็นยุคตกต่ำ การคว้าแชมป์คือจุดมุ่งหมายของทุกสโมสรฟุตบอล
สรุป สถานการณ์โดยรวมของสโมสรแร็งส์ ในฤดูกาล 2023-2024
สโมสรแร็งส์กับลีกสูงที่สุดภายในประเทศฝรั่งเศส ต้องบอกว่าในยุคสมัยนี้อาจจะไม่ใช่โอกาสที่จะพัฒนา หรือว่าขึ้นไปยืนในจุดสูงที่สุด มีหลากหลายสโมสรที่มีการพัฒนามาตรฐาน ทำให้ความต่างชั้นกลายเป็นปัจจัยสำคัญของผลงาน ในฤดูกาลที่ผ่านมาถือว่าไม่ได้ดีหรือว่าไม่ได้แย่ กลับกลายเป็นผลงานกลางตารางจบในอันดับที่ 8 มีรายละเอียดของการแข่งขันทั้งหมด 34 นัด แบ่งออกเป็นชนะ 13 เสมอไป 8 และแพ้ไปถึง 13 เท่ากับว่าผลชนะกับแพ้เท่ากัน มาดูกันต่อที่ผลงานของผลต่างประตูได้เสียกันบ้าง ทำประตูไปได้ถึง 42 และเสียไป 47 เท่ากับว่าผลงานไม่น่าพอใจอย่างที่ควรจะเป็น
การมีผลต่างติดลบบอกถึงนักเตะไม่มีความคมในการจบสกอร์ และช่วงสุดท้ายของฤดูกาลเนื่องจากว่าช่วงเวลานั้นคะแนนก็ถือว่าปลอดภัยในลีกสูงที่สุดแล้ว แต่ก็ยังสามารถเก็บชัยไปถึง 2 เสมอ 1 และแพ้ 2 เท่ากับว่ามี 47 คะแนน แต่ทว่าการอยู่รอดไม่ได้หมายความว่า จะสามารถพัฒนาและขึ้นไปแย่งแชมป์กับทางสโมสรอื่น ๆ ถ้าในฤดูกาลต่อไปไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม อาจจะเป็นการรอเวลาในการตกชั้นก็ได้ การหยุดพัฒนาถือว่าจะเสี่ยงและลดมาตรฐานได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นคอยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด มั่นใจว่าทุกอย่างจะอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน
