ล็องส์ จากสโมสรกีฬาทั่วไป สู่การเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีความสามารถ

Racing Club de Lens หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่าล็องส์ (RC Lens) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ในเมืองล็องส์ ทางตอนเหนือ ภายในเขตปาส-เดอ-กาแลส์ ชื่อเล่นของสโมสร คือ Les Sang et Or ซึ่งแปลว่าเลือดและทองคำ ได้มาจากสีประจำสโมสร คือ สีแดงและสีทอง ปัจจุบันล็องส์กำลังแข่งขันในลีกเอิงฝรั่งเศส ซึ่งเป็นลีกระดับสูงสุดของฝรั่งเศส และยังคงแสดงความสามารถที่ยอดเยี่ยม พร้อมได้ไปต่อในฤดูกาล 2024-2025

ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของสโมสรล็องส์

เริ่มต้นก่อตั้งสโมสรฟุตบอลคครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1906 และเป็นกลุ่มนักศึกษารวมตัวกัน และมีคณะกรรมการชุดแรกมาจากผู้ปกครองของนักเรียนในเวลานั้น เรียกได้ว่ากระแสความน่าสนใจของกีฬาฟุตบอล กลายเป็นการเริ่มต้นในครั้งนี้ ต้องบอกว่ากีฬาที่น่าสนใจเวลานั้น ไม่ว่าจะรักบี้หรือว่าอื่น ๆ จะได้รับความสนใจมากกว่า ฟุตบอลมาจากชาวอังกฤษเข้ามา แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบกับกีฬาอื่น ๆ ได้เลย ทำให้เวลานั้นอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่โดนใจ ในช่วงแรกมีการถูกบังคับมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสนามเหย้าของสโมสร อาจจะมาจากเหตุผลไม่มีมาตรฐานมากพอ

ต้องยอมรับว่ากลุ่มคนที่ก่อตั้งไม่มีเงินทุนสนับสนุนมากพอ ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อทำการยกระดับมาตรฐานได้สูงขึ้น หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 บอกได้ว่า ทุกอย่างต้องหยุดลงไปไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ต่อได้เลย เช่นเดียวกับการแข่งจันฟุตบอล อันนี้เป็นผลกระทบในวงกว้างทุกสโมสรทั่วยุโรปโดยทั้งหมด หลังจากที่ทุกอย่างสงบและกลับเข้าสู่ปกติ มีการเปลี่ยนแปลงสีประจำสโมสรใหม่ เพื่อให้ไม่ซ้ำกับสโมสรอื่น ๆ ซึ่ง Pierre Moglia ที่รับตำแหน่งประธานสโมสร สามารถพัฒนาและเปลี่ยนแปลง ช่วยให้มาตรฐานสูงขึ้น

การได้กลับมาแข่งขันฟุตบอลทำให้มีนักเตะระดับตำนานเกิดขึ้น  คิด เฟนตัน ถือว่าเป็นนักเตะสัญชาติอังกฤษคนแรกที่ลงแข่งขันให้กับทางสโมสร บอกได้ว่าการที่จะเปิดตัวนักเตะต่างชาติ ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านของแฟนบอล รวมไปถึงค่าเหนื่ยที่สูงมากขึ้น แต่กลับกันทุกอย่างลงตัวและคว้าแชมป์ได้สำเร็จ จึงทำให้เรื่องเหล่านี้ผ่านมาและกลายมาเป็นตำนานของสโมสรนั่นเอง จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1931 ได้เข้าร่วมการแข่งขันในระดับดิวิชัน 1 ซึ่งถือว่าเป็นลีกสูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศสเวลานั้น เนื่องจากว่าทำผลงานได้ดีจากดิวิชัน 2 จึงมีคะแนนมากพอและเลื่อนชั้นขึ้นมา รวมไปถึงยังสามารถทำผลงานในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยในประเทศได้เข้ารอบลึก

แต่ถึงจะทำผลงานได้อย่างน่าสนใจอย่างไร แต่ก็ไปไม่ถึงฝันในการคว้าแชมป์ ต้องใช้เวลาอีกถึง 6 ปี ในการขึ้นมาครองแชมป์ได้สำเร็จ ดิวิชัน 1 ยิ่งใหญ่และกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญ หลังจากนั้น 2 ปี เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในเวลานั้นต้องทำการหยุดและตัดจบการแข่งขันฟุตบอลและกีฬาอื่น ๆ ซึ่งสโมสรล็องส์อยู่ในอันดับที่ 6 ของตารางคะแนน ทำให้ทุกอย่างกลับกลายเป็นหยุดนิ่งอีกครั้ง เมื่อสงครามจบลงกลับมาแข่งขันฟุตบอลฤดูกาลใหม่ สโมสรกลับไม่สามารถทำผลงานได้ดีกลายเป็นการตกชั้น กล่าวได้ว่าจากสโมสรที่มีมาตรฐานเกิดสงครามก็แย่ลงไปมากมาย แต่ทว่าตกชั้นไม่นานก็สามารถกลับขึ้นมาลีกชั้นนำได้อีกครั้ง การใช้เวลา 1 ปี ในการพัฒนาปรับเปลี่ยน ช่วยให้ทุกอย่างดีและมีมาตรฐานมากขึ้น

ในปี ค.ศ. 1953 เกิดเหตุการณ์สำคัญอีกครั้ง สโมสรเกิดปัญหากับทางคณะกรรมการ และมีการเปลี่ยนยกชุด เรียกได้ว่าฝ่ายบริการมีความสำคัญในเรื่องของเงินทุนอย่างมาก และการออกไปเหล่านี้ไปเข้าร่วมกับ UC Sampdoria Genoa สโมสรฟุตบอลในประเทศอิตาลี แต่ก็ไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จได้ ปี ค.ศ. 1962 เหมืองในเมืองต้องมีการปิดตัวลง ส่งผลกระทบในเรื่องของเงินทุนในทันที เนื่องจากว่านักเตะส่วนมากเป็นคนงานเหมือง แต่ก็สามารถผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาได้ แต่ไม่นานก็ไม่สามารถคงอยู่ในลีกสูงสุดได้ ต้องตกชั้นลงไปในปี ค.ศ. 1968

เรียกได้ว่ากว่าที่จะกลับมาได้ต้องใช้เวลานานในรอบนี้ ในปี ค.ศ. 1988 มีการเปลี่ยนแปลงกับทางสโมสรครั้งใหญ่ เมื่อมีนักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นส่วนมาก และกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่  ต้องบอกว่าจุดเปลี่ยนในครั้งนี้ส่งผลดีกับทางสโมสรมาก เนื่องจากว่ายกระดับมาตรฐานของนักเตะมีการเสริมทัพ ส่งผลให้ผลงานและภาพรวมเป็นที่น่าสนใจ เรียกได้ว่าการกลับมาในครั้งนี้ สามารถขึ้นไปคว้าแชมป์มากมายนั่นเอง และมีการเขียนประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนเมื่อเข้าสู่ยุค 2000 ทุกอย่างก็เริ่มต้นลดระดับมาตรฐานลงไป กลายเป็นลุ้นแชมป์ได้น้อยลง รวมไปถึงกลายเป็นสโมสรกลางตาราง แต่ทว่าด้วยความยิ่งใหญ่ในปลายยุค 90 ยังส่งผลดีให้กับสโมสรแห่งนี้ เรียกได้ว่าถึงแม้จะไม่ยิ่งใหญ่เท่าเดิม แต่ก็มีมาตรฐานที่ได้รับความสนใจไปทั่วประเทศ หลังจากนั้นเข้าสู่ปี ค.ศ. 2010 ทุกอย่างก็ลดลงและกลายเป็นการตกชั้น เรียกได้ว่าไม่ใช่ช่วงเวลาที่น่าจดจำเลย แต่ก็ใช้เวลาไม่นานสามารถกลับขึ้นมาได้สำเร็จ

ผลงานที่ผ่านมาในอดีตของสโมสรล็องส์

 เรียกได้ว่าความยิ่งใหญ่จะช่วยเพิ่มเติมความน่าสนใจ สโมสรฟุตบอลล็องส์ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่มีข้อมูลการคว้าแชมป์มากมาย และรวมไปถึงแชมป์สูงสุดภายในประเทศ เริ่มต้นลีกเอิง 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1997-1998 ยังมีสโมสรมากมายที่ลงแข่งขัน มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่กลับไม่เคยขึ้นไปจุดสูงสุดได้แม้แต่ครั้งเดียว เชื่อเถอะว่าในเวลานั้นสโมสรแห่งนี้ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ และยังมีรองแชมป์ถึง 5 สมัย ในปี ค.ศ. 1955–1956  , 1956–1957  , 1976–1977 , 2001–2002 และ 2022–2023 ลีกเดอซ์ หรือว่าลีกอันดับที่ 2 ภายในประเทศ 4 สมัย ในปี ค.ศ. 1936-1937 , 1948-1949 , 1972-1973 และ 2008-2009

คูเป้ เดอ ฟรองซ์ รายการแข่งขันนี้ยังไม่เคยคว้าแชมป์มาครองได้เลย เป็นเพียงแค่ผลงานรองชนะเลิศ 3 สมัย ในปี ค.ศ. 1947-1948 , 1974-1975 และ 1997-1998 คูเป เดอ ลา ลีก 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1998-1999 คูเป้ ดราโก้ 3 สมัย ในปี ค.ศ. 1959 , 1960 และ 1965 คูเป้ กัมบาร์เดลลา 3 สมัย ในปี ค.ศ. 1957 , 1958 และ 1992 มาถึงข้อมูลเกี่ยวกับการแข่งขันในระดับยุโรป เชื่อเถอะว่าสโมสรล็องส์เคยทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจมาแล้ว เริ่มต้นจาก ยูฟ่าคัพ ทำผลงานเข้ารอบรองชนะเลิศในปี ค.ศ. 1999-2000 ยูฟ่าอินเตอร์โตโต้คัพ 2 สมัย ในปี ค.ศ. 2005 และ 2007 บอกได้ว่า มีสโมสรภายในประเทศฝรั่งเศสน้อยมากที่จะประสบความสำเร็จในระดับยุโรป และหนึ่งในนั้นก็คือสโมสรล็องส์แห่งนี้

สรุป สถานการณ์โดยรวมของสโมสรล็องส์ ในฤดูกาล 2023-2024

สโมสรชั้นนำในประเทศฝรั่งเศส ผลงานและภาพรวมถือว่าอยู่ในระดับต้นตารางคะแนน ถึงแม้ว่าในฤดูกาลที่ผ่านมาจะจบในอันดับที่ 7 เท่านั้นก็ตาม มาดูกันว่าเชิงลึกและรายละเอียด สามารถบอกได้อย่างไรและมีทิศทางในฤดูกาลต่อไปหรือไม่ เริ่มต้นจากลงแข่งขันทั้งหมด 34 นัด เนื่องจากว่าลีกเอิงมีสโมสรร่วมการแข่งขันทั้งหมด 18 สโมสร ซึ่งแตกต่างกับลีกชั้นนำในยุโรปอย่างอังกฤษหรือว่าสเปนที่มี 20 สโมสรฟุตบอล แต่ทว่าลีกรองกลับมี 20 สโมสรเช่นเดียวกัน ทำให้การแข่งขันที่น้อยกว่า ผลรวมจึงน้อยเช่นเดียวกัน ผลชนะ 14 เสมอ 9 และแพ้ไป 11 ถือว่าข้อมูลนี้บอกได้ถึงมาตรฐานและความพร้อม เนื่องจากว่าในช่วงหลังมานี้ ลีกของประเทศฝรั่งเศสมีการเพิ่มเติมนักเตะระดับมากมาย

รวมไปถึงเน้นการทำผลงานในฟุตบอลยุโรปมากขึ้น ทำให้ทุกอย่างที่เคยไม่น่าสนใจ กลับกลายเป็นทิศทางที่ชัดเจนนั่นเอง ผลต่างประตูได้เสียดังนี้ ทำประตูได้ทั้งหมด 45 และเสียไป 37 ประตู เท่ากับว่าผลต่างยังคงบวกอยู่ แต่อาจจะทำประตูได้น้อย และเสียประตูมาก ถ้าอยากจะขึ้นไปแข่งขันหรือว่าลุ้นแชมป์ เชื่อเถอะว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการทีมชื่อดัง นักเตะที่มีมาตรฐานสูง หรือว่าเปลี่ยนแปลงเจ้าของสโมสรใหม่ เพื่อให้มีเงินทุนมากพอในการพัฒนาในครั้งนี้ ในฐานะของแฟนบอลสโมสรล็องส์ คงต้องติดตามและคอยเชียร์อย่างใกล้ชิด แต่มั่นใจว่าฤดูกาลต่อไปไม่ต้องเสี่ยงตกชั้นแน่นอน