ฟิออเรนติน่า สโมสรดังของลีกสูงสุดอิตาลี ที่มีแฟนบอลชาวไทยตามเชียร์ไม่น้อย!

สโมสรฟุตบอลฟิออเรนติน่า ACF Fiorentina หรือ ม่วงมหากาฬ ซึ่งมีฐานอยู่ในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของประเทศ ปัจจุบันเข้าแข่งขันในเซเรียอา และเป็นคู่แข่งที่ยาวนานกับทีมอย่างยูเวนตุส สโมสรแห่งนี้ตกเป็นข่าวใหญ่เมื่อฤดูกาล 1981-1982 เมื่อพลาดการคว้าแชมป์เซเรียอาไปอย่างหวุดหวิด ในนัดชิงชนะเลิศที่ดวลกับยูเวนตุส นับแต่นั้นมา การแข่งขันนัดนี้ได้กลายเป็นตำนานในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอิตาลีไปโดยปริยาย

ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของสโมสรฟิออเรนติน่า

เจ้าของฉายาที่คุ้นชินภายในประเทศไทย ม่วงมหากาฬ สโมสรไม่ใช่ตัวเลือกของยุคเริ่มต้นฟุตบอลภายในประเทศอิตาลี แต่กลับเป็นการก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1926 โดยบุคคล Luigi Ridolfi Vay da Verrazzano ในเวลานั้นคือขุนนางท้องถิ่น ซึ่งเป็นการควบรวมสโมสรท้องถิ่น CS Firenze และ PG Libertas กลายมาเป็นสโมสรแห่งนี้ในปัจจุบัน เพื่อให้สามารถที่จะยกระดับและพัฒนามาตรฐาน ขึ้นมาสู่ลีกชั้นนำได้ในเวลานนั้น สโมสรฟุตบอลทางตะวันออกของประเทศอิตาลี มีการพัฒนาและเพิ่มเติมมากมาย ส่งผลให้มีการแข่งขันที่สูงขึ้น

สโมสรมากมายต้องมีการปรับเปลี่ยน เพื่อที่จะสู้ในลีกที่มีมาตรฐานมากขึ้น ทางสโมสรเริ่มต้นก็ถือว่าไม่ใช่เส้นทางที่ง่ายเลย ใช้เวลาในลีกล่างถึง 3 ปี ถึงจะสามารถขึ้นมาในลีกสำคัญได้ ในปี ค.ศ. 1931 สามารถแข่งขันใน เซเรีย อา ได้สำเร็จ แต่ก็ไม่สามารถขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดได้เลย จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1950 ผลงานของสโมสรฟุตบอลฟิออเรนติน่าเริ่มต้นดีอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในอันดับที่ 5 ของตาราง หลังจากนั้น 5 ปี ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของแชมป์แรกที่ยิ่งใหญ่ แชมป์สคูเด็ตโต้ ในปี ค.ศ. 1955-1956 และใช้เวลาอีก 5 ปี คว้าแชมป์แชมป์โคปปา อิตาเลีย ถือว่าในช่วงเวลานั้น มีมาตรฐานมากขึ้นและพร้อมที่จะพัฒนาให้สูงมากกว่านี้

เมื่อถึงปี ค.ศ. 1970 ยังเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ เนื่องจากว่ายังเดินหน้าและรวบรวมแชมป์มากมาย เพื่อบันทึกความยิ่งใหญ่ให้กับทางสโมสร กลายเป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่แฟนบอลมากมายจดจำได้ และก็ถึงช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ มีการเข้ามาซื้อสโมสรจาก Flavio Pontello มีการเปลี่ยนเพลงและโลโก้ของสโมสร ทำให้ในเวลานั้นแฟนบอลมากมาย ไม่พอใจกับการกระทำในครั้งนั้น แต่ถ้ามองในเรื่องของนักเตะ มีการเพิ่มเติมนักเตะชื่อดังมากมาย ยกระดับมาตรฐานของสโมสรได้อย่างชัดเจน และก็มาถึงช่วงปี ค.ศ. 1990 มีข้อมูลที่น่าสนใจมากมาย รวมไปถึงการล้มละลาย เรียกได้ว่าติดหนี้มากกว่า 50 ล้าน US

และทางประธานในเวลานั้น วิตตอริโอ เชคกี้ ก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ทำให้ทางสโมสรถูกห้ามแข่งขันในลีกเซเรียบี  และเมื่อเข้าสู่ยุค 2000 ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีก การก่อตั้งใหม่ Associazione Calcio Fiorentina e Florentia Viola ชื่อใหม่อย่างเป็นทางการ การเข้ามาซื้อสโมสร Diego Della Valle ช่วยให้วิกฤตทางการเงิน ผ่านพ้นไปได้นั่นเอง และทำให้สโมสรกลับเข้ามาแข่งขันในระดับเซเรียซีอีกครั้ง ลีกอันดับที่ 4 ภายในประเทศอิตาลี และยังมีนักเตะที่อยู่กับสโมสรไม่ว่าจะตกต่ำหรือว่าสำเร็จ Angelo Di Livio เขาคนนี้มีความภักดีกับสโมสรสูงมาก และส่งผลให้กลายเป็นที่รักของแฟนบอลจำนวนมาก ผลงานและมาตรฐานก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสามารถเลื่อนอันดับได้สำเร็จ

ต่อมาในปี ค.ศ. 2003 สโมสรได้กลับมาใช่ชื่อ ฟิออเรนติน่า อีกครั้ง รวมไปถึงจบอันดับที่ 6 และเข้ารอบเพลย์ออฟ ชนะและเลื่อนขึ้นสู่เซเรียอาได้อย่างยิ่งใหญ่ ต้องบอกว่าการกลับมาในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย เนื่องจากว่ามาตรฐานของสโมสรชั้นนำมากมาย ส่งผลให้สโมสรแห่งนี้เสี่ยงในการตกชั้นอย่างมาก และก็ต้องลุ้นกันถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล และก็เอาชนะและอยู่ในลีกสูงที่สุดได้นั่นเอง ในเวลาต่อมามีการแต่งตั้งผู้อำนวยการฝ่ายการกีฬาคนใหม่ เข้ามารับหน้านี้สำคัญ แพนตาเลโอ คอร์วิโน และยังแต่งตั้ง เชซาเร ปรันเดลลี รับหน้านี้หัวหน้าโค้ชของสโมสร การเริ่มฤดูกาลใหม่สามารถที่จะพัฒนาและยกระดับมาตรฐานได้อย่างชัดเจน

นักเตะใหม่ปรับตัวเข้ากับแผนการทำทีมได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่ากลับมาครั้งนี้จบในอันดับที่ 4 ของตารางคะแนน รวมไปถึงยังเข้ารอบคัดเลือกรายการแข่งขันฟุตบอลยุโรปในเวลาเดียวกัน แต่ทว่าในฤดูกาลต่อมาในปี ค.ศ. 2006 สโมสรตกชั้นกลับไปแข่งขันในเซเรียบี อันนี้ไม่ได้มาจากผลงานที่ย่ำแย่แต่อย่างไร แต่กลับเป็นการเข้าไปมีส่วนร่วมกับการล็อคผลการแข่งขัน  ทำให้ถูกตัด 12 แต้ม ทางสโมสรได้มีการยื่นเรื่องอีกครั้ง ขอให้กลับขึ้นมาแข่งขันในลีกเซเรียอา แต่ก็ถูกตัด 19 แต้ม ต่อมามีการปรับเปลี่ยนเหลือ 15 แต้ม

หลังจากนั้นชื่อเสียงและมาตรฐานที่เคยมี ทุกอย่างก็ลดลงไปตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมากมาย หรือว่าเพิ่มเติมตัวของนักเตะ แต่ภาพรวมแล้วผลงานยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และก็มาถึงเวลาการเปลี่ยนเจ้าของใหม่อีกครั้ง Rocco Commisso เข้ามาซื้อและทำการบริการ เพราะว่าก่อนหน้าที่จะมีการขายสโมสร บอกได้ว่ามาตรฐานและความเสี่ยงในการตกชั้น และได้ตัว วินเซนโซ อิตาเลียโน เข้ามาดูแลทีม ส่งผลให้ภาพรวมและมาตรฐานดีมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้เป็นที่น่าพอใจสำหรับแฟนบอล

ผลงานการแข่งขันจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ของสโมสรฟิออเรนติน่า

เกียรติยศและความยิ่งใหญ่ของสโมสรฟิออเรนติน่าการคว้าแชมป์รายการใหญ่ก็มีจำนวนมาก รวมไปถึงเป็นช่วงเวลาที่แฟนบอลมีความสุขกันถ้วนหน้า เริ่มต้นด้วยการคว้าแชมป์เซเรียอา 2 สมัย ในปี ค.ศ. 1955-1956 และ 1968-1969 พร้อมกับเป็นรองแชมป์ถึง 5 สมัยด้วยกันในปี ค.ศ. 1956–1957 , 1957–1958 , 1958–1959 , 1959–1960 และ 1981–1982 โคปปา อิตาเลีย 6 สมัย ในปี ค.ศ. 1939–1940 , 1960–1961 , 1965–1966 , 1974–1975 , 1995–1996 และ 2000–2001 รองแชมป์ 5 สมัย 1958-1959 , 1959–1960 , 1998–1999 , 2013–2014 และ 2022–2023

ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1996 และรองแชมป์ในปี ค.ศ. 2001 มาถึงความยิ่งใหญ่ในระดับเวทียุโรป สโมสรแห่งนี้ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เริ่มต้นจากยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก รอบรองชนะเลิศ ในปี ค.ศ. 1956-1957  ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1960-1961 และรอบรองชนะเทิศในปี ค.ศ. 1961-1962  ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบรองชนะเลิศ ในปี ค.ศ. 1989-1990 ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก รอบรองชนะเลิศ ในปี ค.ศ. 2022-2023 และ 2023-2024 เซเรียบี 3 สมัย ในปี ค.ศ. 1930-1931 , 1998-1939 และ 1993-1994 เซเรียซี 1 สมัย ในปี ค.ศ. 2002-2003  กราสฮอปเปอร์โคปปา 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1957 มิโทรปา คัพ 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1966 ลีกคัพอังกฤษ-อิตาลี 1 สมัย ในปี ค.ศ. 1975 และนี่ถือว่าเป็นข้อมูลในการบันทึกความยิ่งใหญ่ของทาสโมสรฟิออเรนติน่า 

สรุปสถานการณ์โดยรวมของสโมสรฟิออเรนติน่า  ช่วงฤดูกาล 2023-2024

ถ้าย้อนเวลากลับไปในยุค 90 ถือว่าเป็นหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดของประเทศอิตาลี ไม่ว่าจะตัวจองนักเตะและผลงาน แต่ในเวลานี้กลับกลายเป็นอดีตไปแล้ว เนื่องจากว่านักเตะที่อยู่ภายในสโมสรเวลานี้ ไม่ได้มีชื่อเสียงมากมาย ส่งผลให้อันดับในตารางก็ไม่ได้ว่าจะดีอย่างที่เคย ในฤดูกาลที่ผ่านมาจบในอันดับที่ 6 ของตาราง บอกได้ว่าในภาพรวมถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของลีก แต่ถ้าดูในเรื่องของสถิติทั้งหมดและข้อมูลจากตารางการแข่งขัน แฟนบอลจะเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริง ลงแข่งขันทั้งหมด 38 นัด ชนะ 17 เสมอ 9 แพ้ 12 เรียกได้ว่าสถิติแบบนี้ไม่ได้ดี สมแล้วที่อยู่ในอันดับกลางตารางเท่านั้น

ผลต่างประตูได้เสียดังนี้ ทำประตูได้ 61 และเสียไปถึง 46 เท่ากับว่ามีผลต่าง 15 ประตู ถ้าจะดูผลงานในส่วนนี้ ถือว่ายังดีกว่าสโมสรชั้นนำมากมาย แต่ก็มีการเสียประตูที่สูง แต้มรวมอยู่ที่ 60 คะแนน ถ้าจะกลับมายิ่งใหญ่เหมือนในอดีต อันนี้ต้องบอกว่ามีความเป็นไปได้ยากมา ถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ รวมไปถึงเสริมทัพด้วยนักเตะมากความสามารถ ไม่เช่นนั้นก็ยังคงเป็นสโมสรอันดับกลางตารางต่อไปแน่นอน หวังว่าในฤดูกาลที่จะเริ่มต้นนี้ จะมีข่าวดีให้กับแฟนบอล