ทัพนักกีฬาไทยได้สร้างความประทับใจและสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในศึก โอลิมปิก 2024 ที่ปารีส โดยการปิดฉากด้วย 1 เหรียญทอง, 3 เหรียญเงิน, และ 2 เหรียญทองแดง จบในอันดับที่ 43 ร่วมกับทีมชาติแอฟริกาใต้และจาไมก้า โดยทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีพิธีปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการในค่ำคืนวันที่ 11 สิงหาคม 2024 ที่ผ่านมา
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
ในการแข่งขันครั้งนี้ “ส้ม” ดวงอักษร ใจดี นักยกน้ำหนักสาวผู้เป็นความหวังสุดท้ายของทัพไทยในศึก โอลิมปิก 2024 ลงทำการแข่งขันในรุ่นมากกว่า 81 กก.หญิง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 สิงหาคม โดยเธอสามารถคว้าอันดับ 6 มาครองได้อย่างสมศักดิ์ศรี ส่งผลให้ทัพนักกีฬาไทยเสร็จสิ้นภารกิจในเวทีโอลิมปิกเกมส์ 2024 ด้วยผลงานที่น่าภาคภูมิใจ 1 เหรียญทอง, 3 เหรียญเงิน, 2 เหรียญทองแดง ซึ่งเป็นผลงานที่ยืนยันถึงความสามารถและความพยายามของนักกีฬาไทย
เหรียญทอง เดียวที่ไทยสามารถคว้ามาได้ในครั้งนี้เป็นผลงานของ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่สามารถคว้าเหรียญทองได้ในกีฬาเทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง โดยเธอสามารถเอาชนะ ฉิง กั๋ว จากจีนในรอบชิงชนะเลิศไปได้อย่างตื่นเต้น 2-1 ยก ทำให้พาณิภัคสามารถสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยติดต่อกัน และเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ได้เหรียญโอลิมปิกถึง 3 สมัย โดยการคว้าเหรียญทองครั้งนี้นับเป็น เหรียญทองโอลิมปิกสมัยที่ 7 ของประเทศไทยจากการแข่งขันทั้งหมด
สำหรับ เหรียญเงิน ทั้ง 3 เหรียญนั้น ประกอบด้วย “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ที่สามารถคว้าเหรียญเงินในกีฬาแบดมินตันชายเดี่ยว ซึ่งนับเป็นเหรียญรางวัลแรกในประวัติศาสตร์ของแบดมินตันไทยตั้งแต่มีการเข้าร่วมการแข่งขันในโอลิมปิกตั้งแต่ปี 1992 ในรอบชิงชนะเลิศ กุลวุฒิได้พบกับวิคเตอร์ อเซลเซ่น แชมป์เก่าจากเดนมาร์ก และพ่ายไป 0-2 เกม แต่ก็ยังเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของวงการแบดมินตันไทย
นอกจากนี้ ในกีฬา ยกน้ำหนัก ทัพนักกีฬาไทยก็ยังสามารถคว้าเหรียญเงินได้ถึง 2 เหรียญ โดยเริ่มจาก “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย ที่คว้าเหรียญเงินในรุ่น 61 กก.ชาย ซึ่งเป็นเหรียญแรกของทีมยกน้ำหนักไทยในศึกนี้ และตามมาติดๆ ด้วย “เวฟ” วีรพล วิชุมา ที่สามารถคว้าเหรียญเงินในรุ่น 73 กก.ชายได้สำเร็จ
ในส่วนของ เหรียญทองแดง 2 เหรียญที่ได้มาในครั้งนี้ ประกอบด้วย “ออย” สุรจนา คำเบ้า นักยกน้ำหนักสาวจากเชียงรายที่คว้าเหรียญทองแดงในรุ่น 49 กก.หญิง และอีกหนึ่งเหรียญมาจาก “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ในกีฬา มวยสากลหญิง รุ่น 66 กก. โดยจันทร์แจ่มสามารถเข้าสู่รอบตัดเชือก แต่พ่ายให้กับ อิมาน เคลิฟ นักชกจอมดราม่าจากแอลจีเรียไป 0-5 เสียง ทำให้จันทร์แจ่มได้รับเหรียญทองแดงเป็นรางวัลในการแข่งขันครั้งนี้
ด้วยความสามารถและความทุ่มเทของนักกีฬาไทยที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในโอลิมปิกครั้งนี้ ทัพนักกีฬาไทยยังคงเป็นความภูมิใจของคนไทยทุกคนและได้แสดงให้โลกเห็นถึงความสามารถที่ไม่แพ้ใครในเวทีระดับโลก
ติดตามข่าวสารโอลิมปิก 2024 ได้ที่ : โอลิมปิกบ้านกีฬา