สโมสรฟุตบอลไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน Brighton & Hove Albion หรือที่แฟนคลับทั่วโลกเรียกกันสั้น ๆ ว่าไบรท์ตัน และมีฉายาในวงการคือ The Seagulls เป็นสโมสรฟุตบอลมืออาชีพ ที่ตั้งอยู่ในเมืองไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ ในอีสต์ซัสเซ็กซ์ ของประเทศอังกฤษ ปัจจุบันสโมสรเข้าแข่งขันในระดับพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ มีสนามเหย้าที่ใช้ในการแข่งขัน คือ ฟัลเมอร์สเตเดียม จึงเป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการในชื่ออเมริกันเอ็กซ์เพรส คอมมิวนิตี้ สเตเดียม และมักเรียกโดยย่อว่า The Amex โดยตั้งอยู่ห่างจากสโมสรคู่แข่งอย่างคริสตัล พาเลซ เพียง 40 ไมล์เท่านั้น
ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของสโมสรไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
ความน่าสนใจและประวัติความเป็นมาของสโมสรแห่งนี้ ถือว่ามีความยิ่งใหญ่ในระดับลีกของประเทศอังกฤษ ก่อตั้งครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ 1901 และเริ่มต้นจากการลงแข่งขันลีกสมัครเล่นเท่านั้น ด้วยฟอร์มการแข่งขันที่ดี ในปีแรกสามารถที่จะคว้าแชมป์ได้สำเร็จ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสโมสรที่น่าสนใจมาก รวมไปถึงได้คว้าแชมป์แชริตี ชีลด์อีกด้วย แต่กว่าที่จะเข้าสู่ระดับที่สูงและมีมาตรฐาน ต้องใช้เวลานานกว่า 19 ปี ถึงจะสามารถเข้าสู่ระดับลีกอาชีพได้ ปี ค.ศ.1920 ก้าวขึ้นไปสู่ลีกดิวิชัน 1 ได้สำเร็จ โดยเป็นการเชิญจากทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษในเวลานั้น
จุดเริ่มต้นจากดิวิชัน 3 ในปี ค.ศ. 1920 แต่กว่าที่จะพาสโมสรแห่งนี้ขึ้นไปดิวิชัน 2 ได้ ต้องใช้เวลามากกว่า 50 ปี โดยเป็นปี ค.ศ.1971-1972 ได้อันดับที่ 2 จึงได้รับสิทธิ์เลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งในเวลานั้นกลับไม่ใช่เรื่องที่น่าจดจำเท่าไหร่ เพราะขึ้นไปได้แค่ปีเดียวก็ต้องกลับลงมาสู่ดิวิชัน 3 ตามเดิม อาจจะเป็นมาจากความไม่พร้อม สภาพโดยรวมของนักเตะ ทำให้ไม่สามารถที่จะสู้กับสโมสรที่มีมาตรฐานสูงกว่า จนสามารถจบอันดับสุดท้ายของลีก ต่อมาในปี ค.ศ. 1976 ทางสโมสรได้มีการแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่ คือ อลัน มัลเลอรี ที่เพิ่งจะประกาศเลิกเล่นฟุตบอลไม่นาน และการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ช่วยให้สโมสรได้พัฒนามากขึ้น
เพียงแค่ 3 ปี สามารถที่จะพาสโมสรไปไกลจากหน้ามือเป็นหลังมือ ก้าวขึ้นอันดับจากลีกดิวิชัน 3 สู่ดิวิชัน 2 และถึงดิวิชัน 1 ประวัติศาสตร์สโมสรต้องจารึกการกระทำในครั้งนี้ อลัน มัลเลอรีกับการคุมสโมสรครั้งแรกในฐานะผู้จัดการทีม ในช่วงปี ค.ศ. 1991 สโมสรเกือบที่จะเลื่อนชั้นกลับมาแต่กลับแพ้ในรอบเพลย์ออฟ เพราะเกิดปัญหาเรื่องการเงินภายในสโมสร เรียกได้ว่าสโมสรกำลังไปถึงทางตัน จึงได้มีการขายสนามเหย้าอย่างสนามโกลด์สโตนกราวด์ เพื่อที่จะนำเงินมาชำระหนี้จำนวนมาก และประกาศปลดผู้จัดการทีม Jimmy Case ที่ไม่สามารถพาชัยชนะเข้ามาได้ พร้อมการแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่ จึงช่วยให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงและมีโอกาสที่มากขึ้น โดยเป็นสตีฟ กริตต์ เข้ามารับงานคุมทีมแทน
สโมสรแห่งนี้ก็ทำผลงานได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากรายละเอียดเหล่านี้ ต้องยกความดีให้กับประธานสโมสร Dick Knight ที่เข้ามาช่วยกอบกู้วิกฤตของสโมสรไว้ได้ ในเวลาต่อมาทุกอย่างก็หยุดนิ่ง ไม่มีอะไรที่น่าสนใจ จนต้องใช้เวลายาวนานกว่า 34 ปี ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ในปี ค.ศ. 2016-2017 ไบรท์ตัน ได้เลื่อนชั้นมาลงแข่งขันในพรีเมียร์ลีกครั้งแรก หลังจากเปลี่ยนชื่อการแข่งขันจากเดิมดิวิชัน 1 ให้มาเป็นพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน แต่กว่าที่จะผ่านความยากลำบากมาในพรีเมียร์ชิพได้นั้น ถือว่ามีเหตุการณ์มากมายที่น่าจดจำ เช่น การเจอกับวีแกน สามารถเอาชนะและเก็บแต้มสำคัญเพื่อเป็นอันดับที่ 2 ของลีก ช่วยให้พร้อมที่จะเลื่อนชั้นไปกับจ่าฝูงอย่างนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
การเข้าสู่การแข่งขันระดับลีกครั้งแรกของไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน
ก้าวแรกสู่ระดับสูงสุด ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เรียกได้ว่ากว่าที่จะสามารถบันทึกข้อมูลได้ ต้องใช้เวลามาอย่างยาวนาน แต่เมื่อทำได้แล้วสามารถที่จะสร้างความแตกต่างให้กับสโมสรอื่น ๆ อาจจะเป็นสโมสรที่ไม่มีใครสนใจ ไม่มีนักเตะที่มีชื่อเสียง แต่การลงแข่งขันแบบไม่มีแรงกดดัน ช่วยให้สโมสรเก็บชัยชนะจากสโมสรที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เช่น การเจอกับยอดสโมสรอย่างอาร์เซนอลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีแฟนบอลคนไหนที่จะคาดคิดว่าสโมสรแห่งนี้ จะสามารถชนะสุดยอดทีมของลีกใหญ่ทั้ง 2 สโมสรได้
จนกลายเป็นที่มาของการล้มยักษ์ที่ดังไปทั่วประเทศอังกฤษในเวลานั้น ทำให้กลายเป็นอีกสโมสรที่ทีมใหญ่ไม่ควรประมาทเด็ดขาด และยังทำอันดับในลีกได้สูงอีกด้วย ถือว่าการขึ้นมาครั้งแรกเป็นเรื่องที่ต้องบันทึกข้อมูลของทางสโมสรแห่งนี้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้วหลังจากฤดูกาล ก็ทำได้เพียงแค่อันดับที่ 15 เท่านั้น ซึ่งอยู่ในโซนอันตราย มีความเสี่ยงที่จะตกชั้นกลับไปสู่ลีกรอง หลังจากนั้นฤดูกาลต่อมาก็ยังสามารถรักษาและประคองสโมสรให้อยู่ในลีกสูงสุดได้ แต่อาจจะต้องลุ้นเหนื่อยในนัดสุดท้าย เนื่องจากอยู่ในอันดับที่ 15-17 แต่ทุกอย่างต้องพัฒนาและเปลี่ยนแปลง ทุกวันนี้สโมสรมีทิศทางที่ดีขึ้น มีผู้จัดการทีมคนใหม่ รวมไปถึงผลงานที่อยู่ในอันดับที่สูงกว่าเดิมอีกด้วย
การคว้าแชมป์ที่น่าประทับใจของสโมสรนกนางนวล
สโมสรฟุตบอลไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ถือว่ามีที่จัดเก็บถ้วยรางวัลมากมาย แต่ถ้าจะพูดถึงความประทับใจและการคว้าแชมป์รายการใหญ่ FA CUP และเป็นรายการใหญ่ 1 เดียวของสโมสรที่สามารถทำได้อีกด้วย โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 198-1983 ซึ่งในปีนั้นผลงานในลีกแย่มากจนไม่มีแฟนบอลคนไหนคิดว่าจะได้ แล้วก็กลับคว้าแชมป์บอลถ้วยของประเทศอังกฤษไปครองจนน่าตกใจ เพราะเส้นทางในฟุตบอลถ้วย มักเจอกับยอดสโมสรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนิวคาสเซิล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมไปถึงลิเวอร์พูล และยังเป็นสโมสรแรกที่มีการตกชั้น แต่กลับสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยได้ จึงมีทั้งน้ำตาจากแฟนบอลที่เสียใจและดีใจในเวลาเดียวกัน
สรุปสถานการณ์แข่งขันของสโมสรไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในปี 2024
ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เป็นหนึ่งในสโมสรที่ถึงแม้จะไม่มีนักเตะที่มีชื่อเสียง ไม่มีความยิ่งใหญ่เท่ากับสโมสรอื่น ๆ แต่กลับพัฒนาและคงมาตรฐานมาได้ดี จนทำให้ปี ค.ศ. 2023-2024 สามารถรั้งอันดับที่ 11 ของพรีเมียร์ลีกได้ เนื่องจากการขึ้นมาในจุดสูงที่สุด อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ยากเท่ากับการรักษาไม่ให้ตกชั้นลงไป ซึ่งในส่วนนี้เองที่เป็นอีกเรื่องพิเศษ และถ้ามีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ มีการยกเครื่องใหม่ในทีม ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของสโมสร นักเตะที่มีชื่อเสียง เชื่อว่าจะกลายเป็นหนึ่งในสโมสรที่น่าติดตามมากที่สุดได้เช่นกัน โดยในลีกระดับสูงมีการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งหมดนี้มั่นใจได้ว่าแฟนบอลของสโมสรไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน พร้อมที่จะคอยติดตามเชียร์และสนับสนุนต่อเนื่องแน่นอน