ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมดังแห่งยุค ฉายาไก่เดือยทองแห่งกรุงลอนดอน

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ Tottenham Hotspur เป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลอาชีพของประเทศอังกฤษ ซึ่งอยู่ภายในย่านกรุงลอนดอน ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในทีมอันดับต้นตารางของการแข่งขันพรีเมียร์ลีก โดยจะใช้สนามเหย้า คือ สนามกีฬาท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สามารถให้ความจุได้สูงถึง 62,850 ที่นั่ง และเป็นสนามใหม่ที่ถูกนำมาแทนที่สนามไวต์ฮาร์ตเลน ตั้งแต่ปี ค.ศ.2019 ที่ถือเป็นอีกหนึ่งสนามหลักของสเปอร์มาตั้งแต่อดีต สำหรับแฟนบอลชาวไทยมีไม่น้อยที่ชื่นชอบในสโมสรฟุตบอลดังแห่งนี้ พร้อมการให้ฉายาอย่าง The Lilywhites หรือไก่เดือยทองอีกด้วย

ประวัติความเป็นมาสำคัญของสโมสรท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

สโมสรท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หรือฉายาที่เรียกกันในคนไทย คือ ไก่ดอยทอง ได้มีการก่อตั้งครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1882 จากเด็กนักเรียน 11 คน และใช้ชื่อฮอตสเปอร์ เอฟซี จุดประสงค์ของการก่อตั้งเพื่อให้การส่งเสริมนักเรียน ได้มีการออกกำลังกาย และมีการแต่งตั้งจอห์น ริพเชอร์ ครูสอนศาสนาให้เป็นประธานสโมสร พร้อมกับเปิดคำขวัญของสโมสรว่า To Dare is to Do แปลเป็นไทยมีความหมายว่าจงกล้าที่จะทำ ตราสโมสรรุ่นแรกจะเป็นรูปไก่ที่ยืนอยู่ในลูกฟุบอล และมีการปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลาจนมาใช้ตราใหม่ในปัจจุบัน

จุดเริ่มต้นอาจจะไม่ใช่สโมสรที่คว้าแชมป์ได้ในทันที เพราะต้องใช้เวลายาวนานมาถึงปี ค.ศ. 1901 จึงสามารถคว้าแชมป์แรก FA CUP ให้กับสโมสรได้ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวทางสโมสรไม่ได้แข่งขันในลีกอาชีพ แต่กลับเป็นลีกสมัครเล่นเท่านั้น  ทำให้ประวัติสมาคมฟุตบอลอังกฤษได้จดจำว่าสเปอร์เป็นสโมสรแรกและสโมสรเดียว ที่สามารถคว้าแชมป์บอลถ้วยใหญ่ของประเทศได้ โดยไม่ใช่สโมสรฟุตบอลอาชีพ ต่อมาในปี ค.ศ. 1960 สามารถที่จะคว้าแชมป์ลีกและ FA CUP ในปีเดียวกันได้เป็นสโมสรแรก จนกลายมาเป็นประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่จนถึงทุกวันนี้ ต่อมาในปี ค.ศ. 1963 ยังเป็นสโมสรแรกจากประเทศอังกฤษที่ชนะฟุตบอลยุโรป พร้อมกับคว้ารางวัลชนะเลิศยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพและยูฟ่าคัพอีกด้วย จากข้อมูลเหล่านี้สามารถที่จะบอกถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตของสโมสรท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ได้อย่างชัดเจน

ผลงานของสโมสรท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จากยุคต่ำสุด

สโมสรท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มียุคมืดและยุครุ่งเรืองเหมือนกับทีมอื่น ๆ เริ่มจากปี ค.ศ. 1912 ในเวลานั้นมีผู้จัดการทีมคือปีเตอร์ แม็ควิลเลียม ชาวสกอตแลนด์ พาจบฤดูกาลแข่งฟุตบอลดิวิชั่น 1 เป็นอันดับสุดท้าย และเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 จึงหยุดแข่งไปถึง 5 ปี ด้วยกัน ได้เริ่มต้นใหม่ในปี ค.ศ. 1919-1920 มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของจำนวนสโมสรที่เข้าแข่งขันให้มีถึง 22 ทีม จากเดิมที่มีแค่ 20 ทีมเท่านั้น หลักการเลื่อนอันดับเข้าสู่ลีกที่สูงกว่า จะนับแค่อันดับตารางคะแนน 1 และ 2  ทำให้ก่อนหน้านี้สเปอร์จบอันดับที่ 20 ของดิวิชั่น 1 ต้องต่ำชั้นลงมาแข่งขันในดิวิชัน 2 แทน ทางสโมสรได้ยื่นเรื่องร้องต่อศาล แต่ทว่าทุกอย่างกลับไม่มีผลอะไร

แต่จากนั้นทางสเปอร์ใช้เวลาไม่นานก็สามารถกลับขึ้นมาอยู่ในดิวิชั่น 1 ได้ทันที  เรียกได้ว่าถึงจะตกต่ำแต่ก็ยังมีมาตรฐานที่ดี ต่อมาในปี ค.ศ. 1927-1928 กลับสู่การตกอันดับของลีกอีกครั้ง ในเวลานี้เองที่ทางสโมสร ต้องวนเวียนอยู่กับลีกดิวิชั่น 2 ตลอดเวลา สุดท้ายมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมมาเป็นอาเทอร์ โรเวย์ ที่มีการวางแผนและให้สไตล์การเล่นที่เน้นเกมรุก สนุกเร้าใจ ช่วยให้ปี ค.ศ. 1950 กลับเข้าสู่เส้นทางลีกดิวิชั่น 1 ได้อีกครั้ง จนแฟนบอลจำนวนมากมีการตั้งฉายาว่า The Push and Run แต่ก็คุมสโมสรถึงแค่ปี ค.ศ. 1955 แล้วต้องลาออกจากปัญหาสุขภาพส่วนตัว

ยุคทองที่ทำให้ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กลับมามีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้น

เมื่อมีช่วงเวลาตกต่ำก็ย่อมต้องมีช่วงเวลารุ่งเรือง ยุคทองของสโมสรท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เริ่มต้นจากปี ค.ศ. 1958 การเข้ามาคุมทีมของบิล นิโคลสัน อดีตนักเตะที่พาให้ช่วงเวลานั้น ๆ ถูกเรียกว่ายุคทองที่แท้จริง จากการพาสโมสรคว้าดับเบิลแชมป์ โดยเป็นการคว้ามแชมป์ดิวิชั่น 1 และ FA CUP ในปี ค.ศ. 1960-1961 พร้อมสร้างสถิติใหม่ด้วยการทำผลงาน 16 นัดแรกได้คะแนนดีที่สุดของประเทศอังกฤษ ชนะติดต่อกันได้ถึง 11 นัดรวด เสมอ 1 และกลับมาชนะ 4 นัดติดอีกครั้ง  ความสำเร็จในครั้งนี้ ทำให้มีการบันทึกไว้ว่าเป็นสโมสรแรกของประเทศอังกฤษที่คว้าแชมป์ 2 รายการใหญ่ในฤดูกาลเดียวกันได้

แต่ความยิ่งใหญ่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะในปี ค.ศ. 1963 สเปอร์ได้ไปแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรป และคว้าแชมป์ยูฟ่าคัพวินเนอร์คัพ ซึ่งเป็นการเอาชนะยอดสโมสรจากประเทศสเปนอย่างแอตแลติโกมาดริด ด้วยผลสกอร์ 5 ประตูต่อ 1 มีเรื่องของสถิติสโมสรแรกของประเทศอังกฤษ ที่สามารถคว้าแชมป์ยุโรป 2 รายการที่ต่างกัน ยูฟ่าคัพในปี ค.ศ. 1971-1972 ในรายการแข่งขันดังกล่าว ได้เจอกับสโมสรจากประเทศอังกฤษอย่างวุลเวอร์แฮมป์ตันวันเดอเรอส์ แล้วชนะไปด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3 ประตูต่อ 2 และยังมีการคว้าแชมป์อีกหลากหลายรายการในยุคของนิโคลสัน

รวมแล้ว 8 รายการ ตลอดระยะการคุมทีม 16 ปี และนี่ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของเหล่าแฟนบอล  สุดท้ายจะเป็นการคว้าแชมป์ FA CUP ได้ 8 สมัยเป็นสโมสรแรก และหลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่ พร้อมคว้าแชมป์ได้จนถึงปี ค.ศ. 1984 แล้วกลับกลายเป็นไม่สามารถลุ้นแชมป์อะไรได้อีกเลย จากปัญหาการเปลี่ยนเจ้าของทีมใหม่และการบริหารงานแบบทำธุรกิจสโมสรแบบเต็มระบบมากเกินไป    

สรุปสถานการณ์โดยรวมของสโมสรท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์สั ในปี 2024

การออกตัวในต้นฤดูกาล ถือว่าทางสโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทำได้อย่างน่าประทับใจ แต่ไม่นานก็แผ่วลงไป ทำให้ตกไปอยู่ในกลางตาราง แต่สุดท้ายของฤดูกาลแล้ว กลับมารักษามาตรฐานได้อีกครั้ง ทำให้จบในอันดับที่ 5 พร้อมที่จะคว้าโควต้าไปแข่งขันฟุตบอลยุโรป ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ถ้วยใหญ่ก็ตาม แต่ก็มีแฟนบอลจำนวนมากที่มีความกังวลใจ เรื่องการสูญเสียซุปเปอร์สตาร์อย่างแฮรี่ เคน ซึ่งทางสโมสรก็ยังสามารถหานักเตะมาทดแทนได้ รวมไปถึงนักเตะคนสำคัญอย่าง ซอง ยังสามารถโชว์ฟอร์มการเล่นในระดับโลกได้ดี ทำให้รักษามาตรฐานทีมอยู่อันดับบนของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกได้