อมรเทพ คนหาญ ยอดดาวตบตัวเก่งของทีม วอลเลย์บอล ราชมงคลล้านนา พิษณุโลก ได้รับการยกย่องไม่น้อยจากแฟนลูกยาง เพราะว่า เจ้าตัว คืนฟอร์มเก่ง! ทำเเต้มเป็นกอบเป็นกำช่วยทีมคว้าชัยมาครอง เเละยังเป็นครั้งเเรกในฤดูกาลนี้ของ “หนุ่มพิษณุโลก” ที่สามารถล้มทีมใหญ่ได้สำเร็จ
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
อมรเทพ กลายเป็น นักตบระดับเเนวหน้าของเมืองไทย มาเเล้วสักพัก รวมทั้งยังเป็น 1 ในสมาชิกของทีมชาติไทย ยุคปัจจุบัน ซึ่งล่าสุด เจ้าตัว เพิ่งติดธงรับใช้ “ตบหนุ่มไทย” ในการเเข่งขัน ซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เเม้ว่าจะจบเป็น อันดับที่ 3 แต่ก็ถือว่าฟอร์มของ อมรเทพ ร้อนเเรงไม่เเพ้ใครในทัวร์นาเมนต์ แต่ว่าใครจะรู้ว่าชีวิตของ อมรเทพ ต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ …. ครั้งหนึ่ง เจ้าตัว เคยเกือบที่จะไม่ได้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย เเละเกือบที่จะไม่ได้เป็น “ซูเปอร์สตาร์” ของวงการลูกยางไทย
“จูน” อมรเทพ คนหาญ เด็กหนุ่มจากมุกดาหาร(เกิดวันที่ 6 ตุลาคม 2538) ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ คุณเเม่ ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เเละได้เริ่มเล่น “วอลเลย์บอล” ที่โรงเรียนนิยมศิลป์อนุสรณ์ จนกระทั่งจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่ไม่ได้เรียนต่อในระดับอุดมศึกษา เพราะว่าครอบครัวมีฐานะยากจน
เมื่อชีวิตต้องดำเนินต่อไป อมรเทพ ก็ไม่ท้อเเท้กับโชคชะตา เจ้าตัว ทำงานหาเลี้ยงชีพด้วยการ “รับจ้างตัดอ้อย” เเละหากมีเวลาว่างก็จะไปฝึกซ้อมวอลเลย์บอลอยู่เป็นประจำ รวมทั้งเดินสายแข่งขันวอลเลย์บอลตามงานวัดอยู่เรื่อยๆ เเน่นอนมันคือช่วงเวลาที่ค่อนข้างหนักหนาสาหัส เเต่ว่า อมรเทพ ก็พร้อมที่จะก้มหน้ารับมัน ด้วยความที่เป็นคนมีฝีมือในเรื่องของ “วอลเลย์บอล” ส่งผลให้ อมรเทพ ได้มีโอกาสลงเเข่งขัน กีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 34 “เมืองแพร่เกมส์” ที่จังหวัดแพร่ ในปี 2556 โดยเป็นตัวเเทนของ ทีมเพชรบูรณ์ เเละเป็นรายการนั้นเองที่เปลี่ยนชีวิตของ เจ้าตัว ให้กลายมาเป็น อมรเทพ ที่คนรู้จักไปทั่วประเทศ
“โค้ชช้าง” พ.อ.อ.กำพล ศรีโพธิ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีม วอลเลย์บอล ราชมงคลล้าน พิษณุโลก คือคนที่เห็นเเววของ อมรเทพ จากการเเข่งขัน “เมืองเเพร่เกมส์” เเม้จะไม่ได้ติดตาตรึงใจจากผลงานในสนาม เเต่ว่า “โค้ชช้าง” ก็มองขาดว่า อมรเทพ น่าจะอนาคตไกลเพราะว่าหน่วยก้านดี เหตุผลที่ อมรเทพ ตัดสินใจมาอยู่กับ “โค้ชช้าง” ไม่ใช่เพียงเเค่ว่า เจ้าตัว จะได้เล่นวอลเลย์บอลต่อไปเรื่อยๆ เเต่เป็นเพราะ อมรเทพ จะได้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญอีกหนึ่งอย่างในชีวิต
อมรเทพ ประเดิมสนามครั้งเเรกในเวทีระดับอาชีพด้วยวัยเพียงเเค่ 19 ปีเท่านั้น ในการเเข่งขัน วอลเลย์บอล ไทย-เดนมาร์ค ซูเปอร์ลีก 2015 แม้ว่าจะได้รับโอกาสลงสนามช่วย พิษณุโลก ในฐานะตัวสำรองเป็นส่วนใหญ่ เเต่ว่า เจ้าตัว ก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม รวมทั้งมีส่วนไม่น้อยที่พาทีมจบเป็น “รองเเชมป์” ในรายการดังกล่าว ปีต่อมา อมรเทพ ได้รับโอกาสมากขึ้นกับ พิษณุโลก ก่อนจะค่อยๆเบียดเเย่ง “ตัวจริง” มาจริงได้สำเร็จ และในฤดูกาลนั้นเอง อมรเทพ ผนึกกำลังกับ กิตติคุณ ศรีอุทธวงศ์ เเละ ธีรศักดิ์ นาคประสงค์ 2 ดาวตบดีกรีทีมชาติไทย(ตอนนั้น) พาทีมคว้า “เเชมป์ลีก” มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งเเรกในประวัติศาสตร์ เเละเป็นความสำเร็จเพียงครั้งเดียวของ พิษณุโลก มาจนถึงปัจจุบัน
อมรเทพ เก็บประสบการณ์บนเวที “ไทยเเลนด์ลีก” มาอย่างต่อเนื่องตั้งเเต่ปี 2015 เเละกลายเป็นกำลังหลักสำคัญของ พิษณุโลก มาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมทั้งยังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นไม่เเพ้ “สตาร์ดัง” ของทีมอื่นๆ เเต่น่าเสียดายที่งบประมาณของ พิษณุโลก มีค่อนข้างจำกัด จึงทำให้ศักยภาพเป็นรอง “บิ๊กเนม” รายอื่นๆพอสมควร เเละถือเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จอีกครั้ง
จากผลงานอันยอดเยี่ยม เเละฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาของ อมรเทพ ในการเเข่งขัน “ไทยเเลนด์ลีก” ส่งผลให้ เจ้าตัว ก้าวขึ้นมาติด “ทีมชาติไทย” เป็นครั้งเเรกในปี 2018 เเม้ว่าประสบการณ์จะยังค่อนข้างน้อย(ระดับชาติ) อมรเทพ ก็ยังสามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากว่า นักกีฬารุ่นพี่หลายคน เริ่มทยอยอำลาทีมชาติกันไป
โดยครั้งหนึ่ง อมรเทพ เคยกล่าวไว้ว่า “ผมอยากจะติดทีมชาติ เป็นผู้เล่นของทีมชาติไทยสักครั้ง ให้แม่ได้ภูมิใจ แค่นี้ผมก็ถือว่าทำหน้าที่ของลูกที่ดีตอบแทนแม่ได้แล้วครับ” รวมทั้ง เจ้าตัว ยังต้องการที่จะก้าวขึ้นมาเป็น ผู้เล่นคนสำคัญของ “ตบหนุ่มไทย” เหมือนกับ “นักตบขวัญใจ” จิรายุ รักษาแก้ว
ระยะเวลา 2 ปีในนามทีมชาติ อมรเทพ ผ่านการเเข่งขันรายการใหญ่ๆมาเเล้ว 4 ทัวร์นาเมนต์ ประกอบด้วย เอวีซี คัพ 2018, เอเชียนเกมส์ 2018, ชิงเเชมป์เอเชีย 2019 เเละ ซีเกมส์ 2019 โดยผลงานดีที่สุดคือ “เหรียญทองเเดงซีเกมส์” รวมทั้งในหลายๆเกม เจ้าตัว ยังเป็นผู้เล่นที่ทำเเต้มสูงสุดให้กับ ทีมชาติไทย
ภาระกิจสำคัญของ อมรเทพ ในเวลานี้ คือการนำทัพ ราชมงคลล้านนา พิษณุโลก เก็บชัยชนะมาครองให้ได้มากที่สุด ในการเเข่งขัน “ไทยเเลนด์ลีก” เลกที่ 2 เพื่อตีตั๋วผ่านเข้าสู่ “รอบ 4 ทีมสุดท้าย” หลังจากเมื่อฤดูกาลที่่เเล้ว เจ้าตัว ทำได้ดีที่สุดเพียงเเค่การพาทีมจบเป็น อันดับที่ 5 ของตารางคะเเเนน เเละพลาดโอกาสทะลูเข้าสู่ “ไฟน่อล โฟร์” แบบฉิวเฉียด
บทความจาก https://stadiumth.com/