ภาพรวมสถานการณ์ของเคียซ่ากับลิเวอร์พูล
ตอนนี้ชื่อของ เฟเดริโก้ เคียซ่า กำลังกลายเป็นหนึ่งในเครื่องหมายคำถามตัวโตของโลกฟุตบอลอังกฤษ กับเส้นทางที่ยังไม่ปังเท่าที่ควรบนเวที พรีเมียร์ลีก แม้จะสวมเสื้อของสโมสรใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล แต่ปีแรกบนถิ่นเมอร์ซีย์ไซด์กลับเต็มไปด้วยเครื่องหมาย “ถ้า” มากกว่าคำว่า “ใช่” โดยเฉพาะเมื่อฟุตบอลโลกครั้งต่อไปกำลังใกล้เข้ามา การย้ายกลับอิตาลีในตลาดเดือนมกราคมจึงเริ่มถูกพูดถึงอย่างจริงจัง ว่าอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทั้งตัวนักเตะและสโมสร
ดีลที่ดูคุ้มค่า แต่ใช้งานไม่เต็มศักยภาพ
ลิเวอร์พูลคว้าตัวเคียซ่ามาจากยูเวนตุสเมื่อเดือนสิงหาคม 2024 ด้วยค่าตัวราว 10 ล้านปอนด์ บวกแอดออนอีก 2.5 ล้านปอนด์ ดีลในระดับนี้สำหรับแนวรุกทีมชาติอิตาลีถือว่าราคาไม่แรง และถูกวางตัวมาเป็นกำลังเสริมในแนวรุกมากกว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของทีม แต่ถึงจะรู้กันว่าเขาไม่ได้ถูกซื้อมาเป็นตัวหลัก ความคาดหวังเรื่องจังหวะหวือหวา ทักษะลากเลื้อย และลูกยิงพลิกเกมก็ยังมีเต็มกระเป๋า เพราะเคียซ่าคือคนที่พร้อมสร้างโมเมนต์ “ว้าว” ได้ทุกเมื่อถ้าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
ปัญหาคือ พอเข้าสู่ระบบของลิเวอร์พูลจริง ๆ เขากลับยังหาจุดยืนในทีมไม่ได้ ต้องแย่งนาทีลงสนามกับแนวรุกระดับท็อปคนอื่น ทั้งที่ศักยภาพส่วนตัวไม่ได้ด้อย แต่จังหวะการเล่นและความฟิตยังไม่ต่อเนื่องพอจะเบียดขึ้นไปเป็นตัวเลือกแรก ๆ ได้
อายุ 28 แต่บทบาทยังเหมือนสำรองดาวรุ่ง
ในวัย 28 ปี เคียซ่าควรจะอยู่ช่วงพีคที่สุดของอาชีพ เป็นเวลาเก็บเกี่ยวทั้งผลงานและถ้วยแชมป์ แต่ภาพที่เห็นกลับเหมือนนักเตะวัยยี่สิบต้น ๆ ที่ต้องค่อย ๆ สะสมประสบการณ์ หลายนัดถูกหมุนลงเป็นตัวสำรอง ได้เล่นแบบจำกัดเวลา ทำให้จังหวะและความมั่นใจขาดไป ครั้นจะเบียดแย่งตัวจริงก็ต้องชนกับแนวรุกฝีเท้าคมของลิเวอร์พูลแทบทุกตำแหน่ง
สิ่งที่เขาต้องชนะให้ได้ ไม่ใช่แค่คู่แข่งในทีม แต่คือศัตรูที่คุ้นเคยที่สุดในเส้นทางอาชีพ – สภาพร่างกายของตัวเองที่มักจะขัดขวางในเวลาสำคัญ
อาการบาดเจ็บที่ฉุดรั้งบนเวทีพรีเมียร์ลีก
ตั้งแต่ย้ายมาใส่ชุดแดงแห่งแอนฟิลด์ ปีกชาวเจนัวรายนี้ลงเล่นให้ลิเวอร์พูลเพียง 30 นัดรวมทุกรายการ ทำไปได้ 4 ประตู ตัวเลขที่สะท้อนทันทีว่าความต่อเนื่องยังไม่มา อาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อและเข่ารบกวนอยู่เรื่อย ๆ จนทำให้เขาต้องพักรวมกันถึง 73 วันในปีนี้ ระหว่างช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นธันวาคม
แม้จะกลับมามีชื่อในช่วงโปรแกรมเทศกาลปลายปี แต่จังหวะคืนสนามก็ยังไม่ราบรื่น เพราะดันเจอปัญหาเรื่องอาการป่วยตามมาอีก ทำให้เขาไม่สามารถเคาะสนิมและเรียกจังหวะของเกมได้เต็มที่ เหมือนโดนตัดตอนทุกครั้งที่กำลังจะยกระดับฟอร์ม
ศักดิ์ศรีแข้งทีมชาติอิตาลีที่ยังไม่ถูกใช้ให้เต็ม
บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาจะมองข้ามคุณค่าของแข้งดีกรีทีมชาติอิตาลีที่ติดธงไปแล้ว 51 นัดอย่างเคียซ่าเลย ตรงกันข้าม เส้นเรื่องทั้งหมดคือการตั้งคำถามว่า เราจะเห็นเขากลับมาฟิตเต็มร้อยแล้วเล่นฟุตบอลแบบปล่อยของจริง ๆ ที่ไหน และในเสื้อทีมไหนมากกว่า
เมื่อมองภาพรวมแล้ว คำตอบยังคงชี้กลับไปที่บ้านเก่าอย่างลีกอิตาลี ดินแดนที่คุ้นเคยทั้งเรื่องภาษา วัฒนธรรมฟุตบอล และรูปแบบการเล่นที่เขารู้ทางเป็นอย่างดี
ทำไมการคืนถิ่นกัลโช่ เซเรีย อา ถึงดูลงตัวกว่า
กับ กัลโช่ เซเรีย อา เคียซ่ารู้ดีว่าจังหวะเกมไม่ได้เร็วจัดตลอด 90 นาทีเหมือนบอลอังกฤษ จุดนี้ช่วยให้ร่างกายของเขาไม่ต้องกรำศึกหนักจนเกินไป เกมเน้นวินัยแท็กติก การยืนตำแหน่ง การอ่านจังหวะ มากกว่าการวิ่งฟัดชนไม่หยุด ซึ่งเข้าทางสไตล์ปีกที่ชอบหาพื้นที่ รับบอลแล้วใช้เซนส์และทักษะตัดสินใจ
การกลับไปอิตาลียังหมายถึงการได้กลับสู่สภาพแวดล้อมที่เขารู้ทุกซอกทุกมุม ทั้งสนามที่เคยลงเล่น คู่แข่งที่คุ้นหน้า รวมถึงการยืนตำแหน่งในระบบการเล่นที่โค้ชอิตาเลียนมักออกแบบให้ใช้จุดแข็งของเขาเต็มที่มากกว่า
นาโปลีกับสัญญาณเรียกกลับบ้านจากอิตาลี
กลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เริ่มมีเสียงจากแดนมะกะโรนีรายงานตรงกันว่า นาโปลี แชมป์สคูเด็ตโต้กำลังจับตาดูสถานการณ์ของเคียซ่าอย่างใกล้ชิด โดยมีข่าวว่าตัวแทนนักเตะเปิดโต๊ะพูดคุยเบื้องต้นกับสโมสรแล้ว เพื่อมองหาความเป็นไปได้ในดีลย้ายกลับบ้านเกิด
นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่าเจ้านายใหญ่ของนาโปลีอย่างเจนนาโร่ กัตตูโซ่ เชื่อว่าการที่เคียซ่ากลับมาเล่นในลีกบ้านเกิดจะช่วยให้เขาได้โอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอมากกว่าเดิม ซึ่งสำคัญมากต่อการลุ้นติดทีมชาติอิตาลีไปลุยฟุตบอลโลกครั้งถัดไป หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง เคียซ่าอาจได้บทบาทที่ชัดเจนขึ้น แบกเกมรุกทางฝั่งปีกและเป็นตัวหลักของทีมอีกครั้ง
มองในระยะยาว: เส้นทางอาชีพกับโอกาสทีมชาติ
สำหรับนักเตะระดับทีมชาติ การเลือกสโมสรไม่ได้มีผลแค่เรื่องค่าเหนื่อยหรือถ้วยแชมป์เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับโอกาสติดทีมชาติในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ อย่างฟุตบอลโลกหรือยูโร ถ้าเคียซ่ายังต้องนั่งสำรอง หรือได้ลงแบบขาด ๆ หาย ๆ กับลิเวอร์พูลต่อไป ฟอร์มและความมั่นใจย่อมมีโอกาสดร็อปลงเรื่อย ๆ
ในทางกลับกัน การย้ายไปเล่นให้ทีมที่การันตีเวลาในสนามมากกว่า ระบบเอื้อให้เขาได้เล่นในตำแหน่งถนัด และลีกที่ไม่โหดร้ายต่อสภาพร่างกายเกินไป คือโอกาสทองในการกลับมาฟื้นทั้งฟอร์มและร่างกายให้เฉียบคม พร้อมยืนระยะในระดับสูงไปอีกหลายปี
มุมมองแฟนบอล: อยู่หงส์ต่อ หรือคืนเซเรีย อา ดีกว่ากัน?
ในสายตาแฟนบอล การที่ ลิเวอร์พูล มีตัวเลือกแนวรุกมากมายถือเป็นเรื่องดีของทีม แต่สำหรับตัวเคียซ่าเอง การได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมออาจจะสำคัญกว่าอยู่ในสโมสรใหญ่แต่ต้องนั่งรอโอกาสเป็นส่วนใหญ่ หากดีลย้ายกลับอิตาลีในเดือนมกราคมเกิดขึ้นจริง มันอาจเป็นการแยกทางแบบทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ลิเวอร์พูลลดภาระค่าเหนื่อยจากนักเตะที่ใช้งานไม่เต็มศักยภาพ ส่วนนักเตะก็ได้โอกาสฟื้นอาชีพในลีกที่เหมาะกับเขามากกว่า
สุดท้ายแล้ว เส้นทางที่ถูกต้องคงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจร่วมกันของนักเตะ สโมสร และเอเยนต์ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ เคียซ่ายังมีของ ยังมีความสามารถพอจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมในค่ำคืนใหญ่ ๆ ได้เสมอ หากเขาได้โอกาสที่ใช่ ในเวลาที่พร้อมที่สุด แฟนบอลคงได้แต่ภาวนาให้เขากลับมาอยู่ในสภาพที่เราคุ้นเคยในเร็ววัน และไม่ว่าอนาคตจะเป็นสีแดงของเมอร์ซีย์ไซด์ หรือสีฟ้าแห่งเนเปิลส์ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา จะตามจับตาอัปเดตทุกก้าวให้แฟนบอลชาวไทยไม่พลาดทุกประเด็นสำคัญแน่นอน
