เหน็บบอร์ดคู่แค้น! ลาปอร์ต้าสวนแรง เปเรซ ทนไม่ไหวเห็นบาร์ซ่าคืนชีพกลับมามีความสุข

ลาปอร์ต้าเปิดสงครามคำพูด กลางยุคที่บาร์ซ่ากลับมาสนุกอีกครั้ง

ดราม่านอกสนามในวงการ ฟุตบอลสเปน เดือดขึ้นอีกระลอก เมื่อ โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสร บาร์เซโลน่า ออกมาพูดเชิงเหน็บแรงใส่ “บางคน” ที่ดูเหมือนจะอยู่ไม่สุข เวลาที่เห็น “อาซูลกราน่า” กลับมามีช่วงเวลาดี ๆ ทั้งในและนอกสนาม จนแฟนบอลจับโยงไปถึงชื่อของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ บิ๊กบอสเรอัล มาดริด แบบเลี่ยงไม่ได้

ลาปอร์ต้าในยุคนี้ไม่ใช่แค่คนบริหารสโมสร แต่เป็นเหมือนตัวแทนเสียงของแฟนบอลบาร์ซ่า ที่กำลังดีใจที่ทีมเริ่มกลับมายืนได้อีกครั้ง ในวันที่ปัญหาการเงินยังคงกดดัน และดราม่าระดับประเทศอย่างคดีผู้ตัดสินยังตามหลอกหลอน แต่บรรยากาศในแคมป์ “เจ้าบุญทุ่ม” กลับเริ่มมีรอยยิ้มและความเชื่อมั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ

เปเรซกดดันไม่หยุด จุดไฟคดีเนเกรร่าให้ลุกโชน

ก่อนหน้าคำพูดของลาปอร์ต้าไม่นาน ฝั่ง ฟลอเรนติโน่ เปเรซ เดินเกมกดดันอย่างต่อเนื่องกับประเด็นร้อนที่ทั้งลีกจับตา นั่นคือข้อกล่าวหาว่า บาร์เซโลน่า เคยจ่ายเงินให้ โฆเซ่ มาเรีย เอ็นรีเกซ เนเกรร่า อดีตรองประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินในสเปน (ซีทีเอ) จนถูกตีความว่าเป็นการ “ติดสินบนกรรมการ” เพื่อหวังผลในสนาม

เปเรซถึงขั้นออกมาระบุว่า เรื่องนี้คือ “การทุจริตที่ร้ายแรงมาก ๆ ในวงการฟุตบอลสเปน” และเป็นบาดแผลใหญ่ที่ทำลายความเชื่อมั่นของแฟนบอลทั้งประเทศ ยิ่งทำให้ไฟระหว่างสองขั้วอำนาจอย่างเรอัล มาดริด กับบาร์เซโลน่าลุกโชนยิ่งกว่าเดิม ทั้งในมุมของการเมืองลูกหนังและภาพลักษณ์องค์กร

ลาปอร์ต้ายกบาร์ซ่าฟื้นตัว องค์กรแข็งแกร่ง-ความสนุกกลับมาแล้ว

ในงานเปิดตัวสำนักงานแห่งใหม่ของสโมสร บาร์เซโลน่า ลาปอร์ต้าเลือกใช้เวทีนี้ส่งสารกลับไปอย่างเจ็บแสบ พร้อมประกาศว่าทีมของเขากำลังกลับมายืนอย่างมั่นคง

เขากล่าวว่า
“เราสามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ตอนนี้องค์กรของเราแข็งแกร่งสุดๆ และความสนุกก็กลับมาสู่ บาร์เซโลน่า แล้ว และมันดูเหมือนว่าบางคนจะทนไม่ได้ที่เราเป็นแบบนั้น”

ประโยคนี้ไม่เพียงสะท้อนความมั่นใจว่าโครงสร้างสโมสรกลับมาแน่นขึ้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณไปยังคนที่พยายามใช้คดีนอกสนามมากดดันบาร์ซ่า ว่าทีมไม่ได้สั่นคลอนง่าย ๆ อีกต่อไป และพร้อมเดินหน้าต่อทั้งในสนามและห้องประชุม

เสียงหัวเราะในห้องงาน กับการจิกเบา ๆ แต่เจ็บลึก

หลังคำพูดดังกล่าว คนในงานถึงกับหลุดหัวเราะออกมา เพราะทุกคนต่าง “เดาได้” ว่าลาปอร์ต้ากำลังพูดถึงใคร แม้จะไม่มีการเอ่ยชื่อโดยตรง แต่บริบททั้งหมดพุ่งไปที่ฟากมาดริดแบบไม่ต้องตีความเยอะ

ลาปอร์ต้าพูดต่อว่า
“พวกคุณหัวเราะทำไมกันเหรอ ? พวกคุณตีความที่ผมพูดว่าอะไร ? รู้เหรอว่าผมสื่อถึงใคร ? เอาเป็นว่าตอนนี้แฟนบอล บาร์ซ่า กลับมามีความสุขกันแล้ว ส่วนคนอื่นก็จำเป็นต้องพูดถึง บาร์ซ่า เพื่อที่จะเบี่ยงเบนความสนใจจากความล้มเหลวของตัวเอง”

ตรงนี้คือจังหวะที่แฟนบอลทั้งในห้องและทั่วโลกโซเชียลหยิบไปพูดต่อ เพราะเป็นประโยคที่ “จี้ใจดำ” คนที่ถูกพาดพิงเต็ม ๆ ว่า ยิ่งบาร์ซ่ากลับมามีความสุขมากเท่าไหร่ ฝั่งที่ไม่อยากเห็นภาพนั้นก็ยิ่งต้องพยายามสร้างประเด็นมาสกัดให้มากขึ้นเท่านั้น

ศึกนอกสนามที่ยืดเยื้อ กับภาพใหญ่ของศึกเอล กลาซิโก้

ในมุมของ บ้านกีฬา ดราม่าระหว่างลาปอร์ต้ากับเปเรซครั้งนี้ไม่ใช่แค่ประโยคเหน็บกันเล่น ๆ แต่สะท้อนให้เห็นว่า ศึก “เอล กลาซิโก้” ทุกวันนี้ไม่ได้มีเดิมพันแค่คะแนนในตาราง ลาลีกา แต่ยังลามไปถึงสงครามภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ และอำนาจต่อรองในระดับลีกและยุโรป

คดีเนเกรร่ากลายเป็นอาวุธที่ถูกหยิบมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฝั่งหนึ่งพยายามยืนยันความบริสุทธิ์ อีกฝั่งหนึ่งกดดันให้มีการพิสูจน์ความจริงอย่างถึงที่สุด ขณะที่แฟนบอลทั่วโลกก็เฝ้าดูว่าผลลัพธ์จะเปลี่ยนโฉมหน้าฟุตบอลสเปนในระยะยาวหรือไม่

บทเรียนสำหรับแฟนบอลไทยจากดราม่าบาร์ซ่า–มาดริด

สำหรับแฟนบอลชาวไทย ดราม่าแบบนี้คือภาพสะท้อนสำคัญว่า ฟุตบอลยุคใหม่ไม่ได้มีแต่เรื่องแท็กติก 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยเกมการเมือง การสื่อสาร และการรักษาภาพลักษณ์สโมสรในสายตาแฟนบอลทั่วโลก

การติดตามคำพูดของคนระดับประธานสโมสรอย่าง โจน ลาปอร์ต้า หรือฟลอเรนติโน่ เปเรซ ช่วยให้เราเข้าใจมิติอื่นของเกมลูกหนังมากขึ้น ว่าเบื้องหลังความสำเร็จในสนาม คือการต่อสู้เชิงกลยุทธ์นอกสนาม ที่มีผลต่ออนาคตทีมไม่แพ้ฟอร์มการเล่นของนักเตะเลย

ใครที่เชียร์บาร์ซ่า หรือแม้แต่เป็นแฟนบอลทีมอื่น ถ้าเข้าใจเรื่องพวกนี้เพิ่มขึ้น เวลาเห็นดราม่าข่าวดัง ก็จะมองทะลุได้ว่าอะไรคือคำพูดเพื่อสร้างแรงกระเพื่อม อะไรคือเกมกดดัน และอะไรคือสิ่งที่สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างในวงการฟุตบอลจริง ๆ

แฟนบอลบาร์ซ่ามีความสุข คนอื่นต้องรับให้ได้

ท้ายที่สุด คำพูดของลาปอร์ต้าในงานเปิดสำนักงานใหม่ ไม่ได้เป็นแค่มุกให้คนในห้องหัวเราะ แต่คือการประกาศชัด ๆ ว่า “บาร์ซ่ากำลังเดินต่ออย่างมั่นใจ” แฟนบอลกลับมามีรอยยิ้ม และทีมจะไม่ยอมให้เสียงวิจารณ์ภายนอกมาล้มความเชื่อมั่นง่าย ๆ

ส่วนฝั่งที่ “ทนไม่ได้” เมื่อเห็น แฟนบอลบาร์ซ่า มีความสุข ก็อาจต้องทำใจให้ชิน เพราะถ้าอาซูลกราน่ายังรักษาเสถียรภาพทั้งในสนามและการบริหารได้แบบนี้ เสียงจิกกัดจากสองฝั่งก็มีแววว่าจะดังไม่หยุดแน่นอน

แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะดราม่า ทั้งในสนามและนอกสนามของโลกฟุตบอล อย่าลืมติดตามข่าวเดือด ข่าวมันส์ และมุมมองจัดจ้านแบบนี้ได้ตลอดที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา