ศึกสอยคิวทีมชาติชิงทองซีเกมส์เดือดที่ธันเดอร์โดม
ดราม่าบนโต๊ะสอยคิวในมหกรรมกีฬา ซีเกมส์ 33 ต้องยกให้ไฟนอลสนุกเกอร์ 15 แดงบุคคลชาย ที่สนามธันเดอร์โดม เมืองทองธานี วันที่ 17 ธันวาคม 2568 เมื่อสองมือดังทีมชาติไทยดวลกันเองระหว่าง กร นครปฐม ภาสกร สุวรรณวัฒน์ กับ นุ้ก สงขลา กฤษณัส เลิศสัตยาทร ในเกมที่ทั้งศักดิ์ศรี มืออันดับ และเหรียญทองมีค่าเท่าชีวิตสำหรับนักกีฬาอาชีพ
เกมนี้ไม่ใช่แค่ลุ้นว่าใครจะได้แชมป์ แต่ยังเป็นการวัดกันของสองยุคบนโต๊ะเดียว มือ 1 ประเทศไทยอย่างภาสกร อดีตแชมป์เอเชีย ปี 2554 ปะทะมือ 2 ของไทยอย่างกฤษณัส แชมป์ประเทศไทยคนล่าสุดและอดีตแชมป์เอเชีย ปี 2559 ทำให้บรรยากาศในฮอลล์แน่นขนัดไปด้วยแรงกดดันและเสียงเชียร์จากแฟนสอยคิวไทย
กร นครปฐม โดนกดก่อนแต่ไม่ยอมแพ้
เปิดสองเฟรมแรก รูปเกมเป็นของกฤษณัสชัดเจน นักสอยคิวจากสงขลาออกคิวแน่น ตัวแทงมั่นใจ อ่านหน้าโต๊ะขาด เก็บสองเฟรมแรกนำห่าง 2-0 เฟรม กดดันให้ภาสกรต้องตามสถานการณ์ตั้งแต่ช่วงต้น แม้จะตามหลังแต่ภาสกรยังคุมอารมณ์ได้ดี พยายามรักษาวินัยเกมรับ ไม่เร่งเกินไป และรอจังหวะผิดพลาดของคู่แข่ง

จุดสำคัญคือหลังเฟรมที่สอง ภาสกรเริ่มปรับสปีดเกม เปลี่ยนจากการแทงเน้นเซฟเป็นการเร่งบุกในจังหวะที่บนโต๊ะเปิดโอกาส ทำให้เริ่มกลับมามั่นใจมากขึ้น ประสบการณ์ในระดับทวีปและรายการใหญ่ช่วยให้เขาไม่แตกในช่วงที่สกอร์ตามหลัง
แซง 4 เฟรมรวด พลิกเกมแบบมืออาชีพตัวจริง
หลังตั้งหลักได้ ภาสกรเดินเครื่องเต็มสปีด ในเฟรมที่สามยิงเบรกใหญ่ชนะขาด ก่อนจะยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ เกมบุกคมขึ้น เกมเซฟเหนียวแน่นกว่าเดิม เหมือนคนละคนกับช่วงเปิดสองเฟรมแรก ขณะที่นุ้ก สงขลา เริ่มออกอาการกดดัน แทงง่ายพลาดง่าย ทำให้โมเมนตัมของเกมไหลไปเข้าทางภาสกรเต็มๆ
สุดท้ายภาสกรกดชัยรวด 4 เฟรมติด จากตามหลัง 0-2 กลายเป็นชนะ 4-2 เฟรม แบบไม่ปล่อยให้เกมไหลไปถึงเฟรมตัดสิน แสดงให้เห็นถึงทั้งความนิ่ง หัวจิตหัวใจ และมาตรฐานการเล่นระดับท็อปของภูมิภาค
สกอร์ทั้ง 6 เฟรม บอกเรื่องราวชัดเจน
ตัวเลขบนสกอร์บอร์ดสะท้อนภาพเกมได้ชัดเจน ดังนี้
- เฟรม 1: ภาสกร แพ้ 48-61
- เฟรม 2: ภาสกร แพ้ 50-55
- เฟรม 3: ภาสกร ชนะ 100-34
- เฟรม 4: ภาสกร ชนะ 63-1
- เฟรม 5: ภาสกร ชนะ 73-62
- เฟรม 6: ภาสกร ชนะ 70-17
สองเฟรมแรกสกอร์สูสี แสดงให้เห็นว่าเกมไม่ได้ขาด แต่กฤษณัสคมในจังหวะปิดเฟรมมากกว่า ทว่าหลังจากเฟรมสามเป็นต้นไป ภาสกรยกระดับขึ้นมาอีกขั้น ชนะขาดในหลายเฟรม โดยเฉพาะเฟรม 3, 4 และเฟรม 6 ที่แทบไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งกลับเข้ามาในเกมเลย
ชัยชนะ 4-2 เฟรมนี้ ทำให้ สนุกเกอร์ 15 แดง บุคคลชาย เหรียญทองตกเป็นของกร นครปฐม พร้อมจารึกชื่อว่าเป็นการคว้าเหรียญทองสมัยแรกของเขาในอีเวนต์เดี่ยวประเภทนี้ และยังถือเป็นเหรียญทองที่ 2 ของเจ้าตัวในซีเกมส์ครั้งที่ 33 หลังจากก่อนหน้านี้คว้าเหรียญทองประเภททีมชายมาแล้ว
ทองซีเกมส์นี้สำคัญต่อเส้นทางสอยคิวไทยแค่ไหน
เหรียญทองของกร นครปฐม ไม่ได้มีความหมายแค่ในเชิงผลงานส่วนตัว แต่ยังเป็นสัญญาณที่ดีต่อทีมชาติไทยในชนิดกีฬา สนุกเกอร์ และบิลเลียดโดยรวม เพราะการที่นักกีฬามือ 1 และมือ 2 ประเทศไทยเจอกันเองในรอบชิงฯ คือหลักฐานชัดเจนว่าศักยภาพของทีมไทยยังอยู่ในระดับท็อปของอาเซียน
นอกจากนี้ การที่ภาสกรสามารถพลิกจากตามหลัง 0-2 เฟรม กลับมาชนะ 4-2 ได้ ยังกลายเป็นเคสตัวอย่างสำหรับนักกีฬารุ่นใหม่เรื่องการควบคุมสภาพจิตใจในเกมยาว การไม่ถอดใจเมื่อสกอร์ตาม และการใช้ประสบการณ์มาช่วยปิดบัญชีในเกมใหญ่ที่เดิมพันด้วยเหรียญทองระดับนานาชาติ

มุมกว้างต่อวงการสนุกเกอร์ไทยและบทเรียนสำหรับแฟนกีฬา
สำหรับวงการสอยคิวไทย ความสำเร็จในซีเกมส์แต่ละครั้ง คือจิ๊กซอว์สำคัญในการรักษาความนิยมของกีฬาโต๊ะเขียวในบ้านเรา เพราะยิ่งนักกีฬาไทยคว้าเหรียญได้มากเท่าไหร่ เด็กรุ่นใหม่ยิ่งมีแรงบันดาลใจมากขึ้นเท่านั้น อีกด้านหนึ่ง เกมแบบนี้ยังสอนแฟนกีฬาเรื่อง “จิตวิทยาการแข่งขัน” อย่างเป็นรูปธรรม ว่าแม้จะเริ่มเกมได้ไม่ดี แต่ตราบใดที่ยังมีเฟรมให้เล่น ยังมีโอกาสกลับมาได้เสมอ ถ้ากล้าปรับเกม กล้ารับความเสี่ยง และเชื่อในศักยภาพของตัวเองจนถึงลูกสุดท้ายบนโต๊ะ
แฟนสอยคิวไทยเตรียมลุ้นต่อที่ บ้านกีฬา
ชัยชนะของกร นครปฐม ในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การคว้า เหรียญทอง เพิ่มให้ทัพไทย แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนคู่แข่งในระดับภูมิภาคว่าวงการสนุกเกอร์ไทยยังไม่ถอยจากตำแหน่งมหาอำนาจของอาเซียน และยังพร้อมเดินหน้าล่าแชมป์ในทุกรายการใหญ่ แฟนสอยคิวชาวไทยที่อยากตามทุกมุมของซีเกมส์ รวมถึงข่าวกีฬาเข้มข้นจากทุกชนิดกีฬา สามารถติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ สนุกเกอร์สดบ้านกีฬา เพราะเราจะไม่พลาดทุกช็อตสำคัญบนโต๊ะเขียวและทุกสังเวียนกีฬาให้คุณได้เช็กฟอร์ม เช็กสถิติ และเช็กอารมณ์ร่วมไปพร้อมกัน

