คู่ผสมเบอร์หนึ่งไทยประเดิมศึกใหญ่ที่หางโจว
ศึก แบดมินตัน รายการใหญ่ส่งท้ายปีอย่าง บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2025 ที่ฮางโจว ประเทศจีน วันพุธที่ 17 ธ.ค. 68 ในประเภทคู่ผสม กลุ่มเอ แฟนกีฬาไทยได้ลุ้น “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ จับคู่กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ และคู่มืออันดับ 3 ของโลก ลงประเดิมแมตช์แรก พบกับ ฮิโรกิ โมโดริคาวะ กับ นัตสึ ไซโตะ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคู่แข่งฟอร์มจัดจ้านของสายนี้
รูปเกมสุดสูสี แต่แต้มปลายเซตหันเข้าหาฝั่งญี่ปุ่น
แมตช์นี้บาส–เฟมไม่ได้ลงไปเล่นแบบประคองตัว แต่เปิดเกมสู้เต็มสูบ ตั้งแต่การเสิร์ฟกดดัน การเล่นลูกหน้าเน็ต และการวางลูกบุกใส่คู่อริจากญี่ปุ่นแบบไม่เกรงใจดีกรีฝ่ายตรงข้าม ทว่าในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โดยเฉพาะแต้มสำคัญช่วงปลายเกม กลับเป็นฝั่งมิโดริคาวะ–ไซโตะ ที่นิ่งกว่า หยิบแต้มสำคัญเก็บเข้ากระเป๋าได้ครบ



ผลสุดท้ายคู่ผสมไทยพ่ายไป 0-2 เกม แบบต้องบอกว่า “เจ็บแต่จบไม่ได้” ด้วยสกอร์ 19-21 และ 18-21 ซึ่งตัวเลขบนสกอร์บอร์ดสะท้อนชัดว่าระดับฝีมือไม่ได้ห่างกันมาก แต่การปิดจังหวะสำคัญในแต้มท้ายๆ ยังเป็นจุดที่ต้องกลับไปปรับในเกมต่อๆ ไป
แพ้ได้แต่อย่าถอย คู่ผสมไทยยังมีโอกาสในรอบแบ่งกลุ่ม
แม้ผลการแข่งขันนัดแรกจะไม่เป็นใจ แต่ด้วยรูปแบบการแข่งขันเวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ที่เล่นกันในระบบรอบแบ่งกลุ่ม คู่ผสมไทยอย่างบาส–เฟมยังมีโอกาสแก้ตัวในแมตช์ต่อไป หากเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่อง ทุกอย่างยังสามารถพลิกกลับมาเข้ารอบตัดเชือกได้อยู่
การพ่ายในแมตช์เปิดหัวจึงไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นสัญญาณเตือนให้ทีมต้องละเอียดขึ้น ทั้งเรื่องสมาธิ การตัดสินใจในแต้มสำคัญ และการอ่านแท็กติกคู่แข่งให้ขาดกว่าเดิม ซึ่งหากแก้จุดนี้ได้ บวกกับศักยภาพระดับท็อปของโลกของทั้งเดชาพลและศุภิสรา ก็ยังมีลุ้นกลับมาสร้างผลงานเดือดๆ ให้แฟนไทยภูมิใจได้แน่นอน
เวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ เวทีชี้ชัดมาตรฐานคู่ผสมไทยบนเวทีโลก
รายการนี้ถือเป็นเวทีที่คัดเฉพาะคู่ที่ทำผลงานตลอดปีได้โดดเด่นที่สุดจากทั่วโลก การที่คู่บาส–เฟมได้สิทธิ์มาต่อคอร์ทในฐานะคู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ และยืนอยู่ในฐานะคู่มืออันดับ 3 ของโลก เป็นการการันตีชัดเจนว่าคู่ผสมไทยยังคงยืนระยะได้ในระดับท็อปคลาส
สำหรับแฟนกีฬาชาวไทย การได้เห็นนักแบดไทยลงเล่นในรายการนี้ทุกปีไม่ใช่เรื่องธรรมดา แต่คือผลลัพธ์จากการทำงานหนักทั้งของนักกีฬา ทีมโค้ช และสมาคมฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลระยะยาวต่อความแข็งแกร่งของทีมชาติไทย ไม่ต่างจากทีมชาติฟุตบอลหรือกีฬาใหญ่ชนิดอื่นๆ ที่ต้องอาศัยเวทีระดับโลกมาช่วยยกระดับประสบการณ์
แฟนกีฬาไทยอย่าปล่อยให้คอร์ทว่าง ส่งแรงเชียร์ถึงบาส–เฟมให้ไปให้สุดทาง
จากแมตช์แรกที่จบแบบน่าเสียดาย ถือเป็นบททดสอบทั้งร่างกายและใจของบาส–เฟม ว่าจะลุกขึ้นมาสวนกลับในเกมถัดไปได้แค่ไหน ซึ่งสิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่ายุทธศาสตร์ในสนาม ก็คือแรงเชียร์จากแฟนกีฬาชาวไทยที่ช่วยเติมพลังให้สองคู่หูตัวแทนไทยกล้าลุย กล้าบุก และกล้าปิดเกมให้เฉียบขาดกว่าเดิม
ใครที่อยากตามลุ้นฟอร์มต่อเนื่องของทัพแบดมินตันไทย รวมถึงข่าวสารกีฬาเดือดๆ จากสนามต่างๆ ทั่วโลก แนะนำให้เกาะติดหน้าจอและหน้าข่าวของ แบดมินตันสดบ้านกีฬา เอาไว้ให้ดี เพราะเราจะพาแฟนกีฬาไทยไปอยู่ทั้งขอบคอร์ท ขอบสนาม และทุกจุดเดือดของวงการกีฬาแบบไม่ให้ตกข่าวแม้แต่วินาทีเดียว

