ภารกิจเร่งด่วนของกองทัพ: “ต้องพากำลังพลกลับบ้านให้ได้”
เช้าวันที่ 17 ธ.ค. 2568 ประเด็นร้อนที่สุดของสมรภูมิฝั่งอีสานตอนใต้ หนีไม่พ้นข่าว กองทัพบก เดินหน้า “ภารกิจกู้ร่าง” กำลังพล 2 นายที่หายไปหลังปฏิบัติการเข้าตีควบคุมที่หมายบริเวณ ปราสาทตาควาย และพื้นที่โดยรอบ
ข้อมูลจากโฆษกกองทัพบกชี้ชัดว่า ช่วงหลังเข้าตี–ถอนตัว สถานการณ์ “ไม่เหมาะต่อการค้นหาเร่งด่วน” เพราะทัศนวิสัยจำกัด ภูมิประเทศเป็นอุปสรรค เสี่ยงจาก ทุ่นระเบิด และยังมีการยิงต้านทาน ทำให้ต้องถอยกลับมาวางแผนใหม่ ก่อนระดมกำลังกลับเข้าไปอีกครั้ง โดยจะใช้ทั้งการค้นหาทางพื้นดินและทางอากาศ เพื่อพากำลังพลกลับมาให้ได้
ในอีกด้าน กองทัพภาคที่ 2 ก็รายงานภาพรวมว่า แนวตาควาย–เนิน 350 ยังมีการปะทะจากความพยายามรุกคืบของฝ่ายตรงข้าม ขณะที่ฝ่ายไทยใช้กำลังตามแผนและยิงสนับสนุนเพื่อคุมพื้นที่/เส้นทาง และป้องกันการเพิ่มเติมกำลังของฝ่ายตรงข้าม โดยย้ำว่าการปฏิบัติการยังดำเนินอยู่ภายใต้การควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ไทม์ไลน์ “คืนเดือด–เช้ากู้ร่าง” จากคำยืนยันในรายงาน
เพื่อให้เห็นภาพชัดแบบจับต้นชนปลาย บ้านกีฬารวบเป็นไทม์ไลน์จากข้อมูลที่ปรากฏในรายงานข่าว/แถลงการณ์ที่เผยแพร่ในช่วงเวลาเดียวกัน
- ช่วงค่ำ 16 ธ.ค. 68: มีปฏิบัติการเข้าตีเพื่อควบคุมที่หมายบริเวณเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย
- หลังถอนตัว: พบกำลังพลหายไป 2 นาย แต่ยังไม่เหมาะต่อการค้นหาเร่งด่วนจากสภาพพื้นที่และสถานการณ์
- เช้า 17 ธ.ค. 68: ทบ.วางแผนเข้ากู้ร่างใหม่ ระดมค้นหาทั้งทางบก–ทางอากาศ
- ช่วงสาย/เที่ยง 17 ธ.ค. 68: กองทัพภาคที่ 2 รายงานแนวตาควาย–เนิน 350 ยังมีการปะทะ และการปฏิบัติการยังดำเนินต่อเนื่อง
ทำไม “เนิน 350” ถึงถูกยกเป็นจุดชี้ขาดเกมชายแดน
คำว่า “เนิน” ในสนามรบ ไม่ใช่แค่ความสูงต่ำธรรมดา แต่มันคือแต้มต่อเชิงพื้นที่แบบชัดเจน เพราะพื้นที่สูงมักให้ “มุมมอง–มุมคุมเส้นทาง–การตั้งรับ/สนับสนุน” ได้ดีกว่า และยิ่งเมื่ออยู่บนแนวเทือกเขาชายแดนยิ่งทวีความสำคัญ
ปราสาทตาควายถูกระบุว่า “ตั้งอยู่บนทิวเขาพนมดงรัก ตรงชายแดนไทย–กัมพูชา” ซึ่งทำให้บริเวณโดยรอบกลายเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่ละเอียดอ่อนมากทั้งในมิติความมั่นคงและสัญลักษณ์ทางพื้นที่
พูดให้เข้าใจง่าย: ใครคุม “จุดสูง” ได้ มักคุม “จังหวะ” ของพื้นที่ได้ และนี่คือเหตุผลที่ชื่อ “เนิน 350” ถูกพูดถึงหนักที่สุดในรายงานสถานการณ์ช่วงนี้
สภาพแวดล้อมที่ทำให้ “กู้ร่าง” ไม่ใช่แค่ความกล้า แต่ต้องเป็นความรอบคอบ
ประโยคที่สะเทือนใจที่สุดจากคำชี้แจง คือ “สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย” ซึ่งในภาษาสนามจริงมันหมายถึง “ความเสี่ยงซ้อนความเสี่ยง”
- ทัศนวิสัยจำกัด: ยิ่งช่วงกลางคืน/เช้าตรู่ ยิ่งเพิ่มโอกาสพลาด
- ภูมิประเทศกดดัน: เส้นทางยากต่อการเคลื่อนที่และค้นหา
- ความเสี่ยงจากทุ่นระเบิด: พื้นที่ที่มีรายงานตรวจพบทุ่นระเบิดจำนวนมาก ทำให้ทุกก้าวต้องคิดเผื่อชีวิตกำลังพล
- การยิงต้านทาน: ทำให้การเข้าไปค้นหาแบบเร่งด่วนอาจเพิ่มการสูญเสียโดยไม่จำเป็น
ในมุม “ความรู้ที่ควรรู้” เรื่องทุ่นระเบิดสังหารบุคคลเป็นปัญหามนุษยธรรมระดับโลกมานาน หลายประเทศร่วมลงนามในอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิด (Anti-Personnel Mine Ban Convention) เพื่อจำกัดอันตรายต่อพลเรือนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยง
สรุปภาพรวมแนวปะทะ 17 ธ.ค. 68: หลายจุดยังร้อน แต่ “ตาควาย–เนิน 350” คือจุดที่จับตาสุด
รายงานสรุปของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ในวันเดียวกันสะท้อนว่า ภาพรวมมีหลายพื้นที่ที่เกิดการปะทะเป็นห้วง ๆ และมีการใช้อาวุธสนับสนุนตามสถานการณ์ โดยในรายงานระบุ “ตาควาย–เนิน 350” ยังมีการปะทะจากความพยายามรุกคืบ และฝ่ายไทยใช้กำลังที่เหมาะสมเพื่อยับยั้งและควบคุมสถานการณ์
นอกจากนี้ ในภาพรวมข่าวสถานการณ์ยังมีการกล่าวถึงการใช้อาวุธยิงสนับสนุน/จรวดหลายลำกล้องในบางแนวรบ ซึ่งประชาชนมักได้ยินคำว่า BM-21 อยู่บ่อยครั้ง (เป็นระบบยิงจรวดหลายลำกล้องที่ถูกกล่าวถึงในหลายความขัดแย้งทั่วโลก)
“ติดตามจากแหล่งทางการ” ทำไมถึงสำคัญในช่วงสถานการณ์อ่อนไหว
ช่วงที่ข้อมูลไหลเร็วที่สุด มักเป็นช่วงที่ข่าวลือวิ่งเร็วที่สุดเช่นกัน สิ่งที่ประชาชนทำได้และควรทำ คือ
- ยึดข้อมูลจากการแถลง/รายงานของหน่วยงานทางการเป็นหลัก
- ระวังการแชร์ภาพ/ข้อความที่ยังไม่ยืนยัน เพราะอาจกระทบความปลอดภัยและการปฏิบัติงาน
- หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ให้ติดตามประกาศการอพยพ จุดพักพิง และคำเตือนด้านความปลอดภัยจากหน่วยงานรัฐในพื้นที่
นี่ไม่ใช่เรื่อง “เชียร์ข้างไหน” แต่เป็นเรื่อง “ลดความเสียหาย” และ “รักษาชีวิตคน” ให้มากที่สุด
บทส่งท้ายจากบ้านกีฬา: สดุดีความเสียสละ และขอให้ภารกิจกู้ร่างสำเร็จโดยปลอดภัย
สุดท้ายแล้ว ข่าวแนวหน้าไม่ว่าจุดไหน สิ่งที่คนไทยอยากได้ยินที่สุดคือ “ทุกคนกลับบ้าน” และในวันที่สมรภูมิยังไม่นิ่ง การทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยิ่งต้องอาศัยทั้งความกล้าและความรอบคอบในทุกขั้นตอน
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา
