จาก : ผลบอลสด ไทยลีก ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-0 การท่าเรือ เอฟซี วันนี้ 14/12/68 – บ้านกีฬา
ศึก ไทยลีก 1 คืนเดือดที่ช้างอารีนา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับ การท่าเรือ เอฟซี เกมนี้แฟนบอลเช็กผลผ่านทั้งหน้าเว็บและจอทีวีกันแบบลุ้นตัวโก่ง เพราะเป็นศึกชิงจ่าฝูงโดยตรง และแน่นอนว่าทุกสายตาจับจ้องไปที่ ผลบอลสด คู่บิ๊กแมตช์คู่นี้ตั้งแต่นกหวีดแรก
บ้านกีฬาเห็นภาพชัดตั้งแต่ก่อนเริ่มเกมว่า ทั้ง “ปราสาทสายฟ้า” และ “สิงห์เจ้าท่า” มาแบบเน้นผลเต็มร้อย เกมเลยอัดแน่นทั้งแท็กติก ความดุเดือด และดราม่าใบแดงในช่วงท้าย
⚔️ ครึ่งแรก: ท่าเรือยิงนำแต่ล้ำหน้า เกมตึงทุกจังหวะ
เริ่มมาแค่ราวนาทีที่ 2 การท่าเรือเกือบสร้างเซอร์ไพรส์ เมื่อ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่ายได้สำเร็จ แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้า ก่อน VAR ยืนยันตามเดิม ชวดขึ้นนำแบบน่าเสียดาย ฝั่งแฟนท่าเรือได้แต่กุมหัว ส่วนแฟนเจ้าถิ่นถอนหายใจโล่ง
หลังจากนั้นรูปเกมค่อนข้างสูสี บุรีรัมย์พยายามเซ็ตบอลจากหลังขึ้นหน้า ผ่านการคุมจังหวะของ เคนเน็ต ดูกอลล์ และ โกรัน เคาซิช ส่วน การท่าเรือ เอฟซี ตอบโต้ด้วยเกมสวนกลับเร็วให้ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย และ ลูคัส โตคันตินส์ วิ่งไล่บีบแนวรับเจ้าถิ่น
ความเดือดเริ่มก่อตัวกลางสนาม ใบเหลืองปลิวให้ ธีราทร บุญมาทัน กับ เคนเน็ต ดูกอลล์ จากจังหวะโต้เถียงและตัดเกมหนัก ๆ ทำให้ครึ่งแรกเน้นเกมกัดฟันสู้มากกว่าจังหวะลุ้นประตูแบบจัง ๆ ก่อนจบ 45 นาทีแรกสกอร์ยัง 0-0 แต่ความเดือดในสนามเริ่มเกินร้อยแล้ว
🔥 ครึ่งหลัง: ใบแดง 2 ลูก จุดโทษทดเจ็บ พลิกเกมให้บุรีรัมย์
ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เร่งสปีดเกมบุกมากขึ้น ดันวิงแบ็กสองฝั่ง ศศลักษณ์ ไหประโคน กับ สราญศักดิ์ ไหประโคน (สลับวิ่งเติมไม่หยุด) เพื่อกดไลน์รับของท่าเรือให้ถอยต่ำ นาที 53 มาร์ค แจ็คสันแก้เกมส่ง ปีเตอร์ ซูลจ์ ลงมาแทน ธีราทร เพื่อเพิ่มมิติการวางบอลและยิงไกล
จุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงนาที 64 เมื่อการท่าเรือส่ง ชานุกูล ก๋ารินทร์ ลงมาเติมพลังตรงกลางแทน ธีรศักดิ์ เผยพิมาย แต่เจ้าตัวกลับกลายเป็นพระรองของดราม่า นาที 73 ชานุกูลไปเล่นหนักใส่คู่แข่ง ผู้ตัดสินเช็กเหตุการณ์และเปลี่ยนเป็นใบแดง ไล่ออกจากสนามทันที ท่าเรือเหลือ 10 คน ต้องหันมาแพ็กเกมรับเต็มตัว
ช่วงท้ายเกม บุรีรัมย์โหมหนัก จนแนวรับท่าเรือเริ่มผิดพลาด สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายสำหรับทีมเยือนเมื่อช่วงทดเจ็บยาว ๆ นาที 90+1 ผู้ตัดสินชี้จุดโทษให้เจ้าถิ่น และเป็น โกรัน เคาซิช กองกลางเซอร์เบียอารมณ์นิ่ง ที่รับหน้าที่สังหารไม่เหลือ พาบุรีรัมย์ขึ้นนำ 1-0 ท่ามกลางเสียงเฮลั่นสนาม
ดราม่ายังไม่จบ นาทีท้าย ๆ อัสนาวี มังกูอาลัม โดนเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดง ท่าเรือเหลือ 9 คน แถมมีจังหวะใบเหลืองจากการถ่วงเวลาและโต้เถียงผู้ตัดสินหลายใบ จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เฉือนชนะสุดมัน 1-0 เก็บสามแต้มสำคัญต่อหน้าแฟนบอลตัวเอง
👥 รายชื่อ 11 ตัวจริง นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
💙 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ระบบ 3-5-2) – ผู้จัดการทีม: มาร์ค แจ็คสัน
ผู้รักษาประตู
- นีล เอเธอร์ริดจ์ (13) เรตติ้ง 7.0 เซฟสำคัญหลายครั้ง เก็บคลีนชีตอีกนัด
กองหลัง
- มานูเอล ซาฟราโน โก (22) เรตติ้ง 7.1
- นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (15, กัปตัน) เรตติ้ง 6.9 คุมไลน์หลังได้ดี
- พรรษา เหมวิบูลย์ (3) เรตติ้ง 7.1 เล่นบอลกลางอากาศแข็งแกร่ง
กองกลาง
- ศศลักษณ์ ไหประโคน (2) เรตติ้ง 7.4 เติมเกมรุกซ้ายตลอดเกม
- ธีราทร บุญมาทัน (5) เรตติ้ง 7.1 เปิดบอลแม่นยำก่อนถูกเปลี่ยนออก
- เคนเน็ต ดูกอลล์ (16) เรตติ้ง 7.3 เชื่อมเกมรับ–รุกกลางสนาม
- ปีเตอร์ ซูลจ์ (32) เรตติ้ง 7.3 ลงมาแล้วคุมจังหวะและแอสซิสต์ลูกโทษสำคัญ
- โกรัน เคาซิช (23) เรตติ้ง 7.6 ตัวเก็บบอลจังหวะสอง และซัดจุดโทษชัย
กองหน้า
- ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (10) เรตติ้ง 7.3 ขยับหาพื้นที่ได้ดีตลอด
- กิลเยร์เม่ บิสโซลี่ (7) เรตติ้ง 6.5 ทำหน้าที่พักบอลและดึงตัวประกบ
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- ปีเตอร์ ซูลจ์ แทน ธีราทร บุญมาทัน นาที 53
- พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล แทน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา นาที 90+11
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
- ชัชชัย บุญเติมพร, ชินภัทร์ ลีเอาะ, รัตนากร ใหม่คามิ, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์
🦁 การท่าเรือ เอฟซี (ระบบ 4-1-4-1) – ผู้จัดการทีม: อเล็กซานเดร กามา
ผู้รักษาประตู
- ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด (93) เรตติ้ง 7.5 เซฟแล้วเซฟอีก แต่สุดท้ายพลาดเสียจุดโทษ
กองหลัง
- ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (4) เรตติ้ง 7.4 เติมเกมขวาได้อันตราย
- เรบิน ซูลากา (22) เรตติ้ง 7.1 ยืนคุมแนวรับเป็นหลัก
- กาก้า เมนเดส (12) เรตติ้ง 6.2 เจอเกมบุกบุรีรัมย์เล่นงานหนัก
- อัสนาวี มังกูอาลัม (3) เรตติ้ง 6.3 โดนไล่ออกช่วงทดเจ็บ ทำให้ทีมเหลือ 9 คน
กองกลาง
- พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (5, กัปตัน) เรตติ้ง 6.7 ตัดเกมกลางสนาม
- โนโบรุ ชิมูระ (33) เรตติ้ง 6.5 เชื่อมเกมรุกซ้าย–ขวา
- วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (44) เรตติ้ง 6.6 ยิงเข้าแต่โดนจับล้ำหน้าตั้งแต่ต้นเกม
- ปกรณ์ อรรคธรรม (36) เรตติ้ง 6.7 เติมเกมริมเส้น
แนวรุก
- ลูคัส โตคันตินส์ (27) เรตติ้ง 6.9 ลากเลื้อยสร้างปัญหาแนวรับบุรีรัมย์
- ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (14) เรตติ้ง 6.5 ยืนหอกเดี่ยว คอยพักบอลให้เพื่อน
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- ชานุกูล ก๋ารินทร์ (6) เรตติ้ง 4.5 ลงมาแทน ธีรศักดิ์ นาที 64 ก่อนโดนใบแดงนาที 73
- มาเธอุส ลินส์ (13) เรตติ้ง 6.5 แทน วรชิต นาที 77
- ธนบูรณ์ เกษรัตน์ (8) เรตติ้ง 6.6 แทน กาก้า เมนเดส นาที 85
- บรายัน เปเรอา (18) เรตติ้ง 6.4 แทน ลูคัส โตคันตินส์ นาที 85
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
- สมพร ยศ, เออร์ฟาน ฟานดี, ชินวัฒน์ วงศ์ไชย, ฮูโก้ บู้ตซิงห์คำ, ชยพิพัฒน์ สุพรรณเภสัช, บดินทร์ ผาลา, มาเธอุส ปาตู, ณัฒฐกิตติ์ โพธิ์ศรี
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
หากมองเชิงแท็กติกแบบสาย วิเคราะห์บอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ใช้ระบบ 3-5-2 ที่ยืดหยุ่น เปลี่ยนเป็น 3-4-3 ยามบุก โดยให้วิงแบ็กสองฝั่งดันสูง เปิดพื้นที่ให้ศุภณัฏฐ์ กับ บิสโซลี่ ดึงเซ็นเตอร์ออกจากพื้นที่เซฟโซน จุดเด่นคือการสลับตำแหน่งระหว่าง เคาซิช – ดูกอลล์ – ซูลจ์ ที่ช่วยกันหมุนเวียนขึ้นลง ทำให้แนวรับท่าเรืออ่านทางยาก
เกมรับของบุรีรัมย์เน้นยืนโซน แบ็กสามคนคุมพื้นที่หน้าประตู ปล่อยให้แดนกลางเป็นตัวบีบเร็ว เมื่อเสียบอลก็จะเพรสซิ่งทันที ทำให้ท่าเรือหายใจไม่ทั่วท้องจังหวะขึ้นเกมจากแดนหลัง
ฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี ใช้ 4-1-4-1 เน้นรับแน่นแล้วโต้กลับเร็ว ผ่านสปีดของ โตคันตินส์ และ ปกรณ์ ริมเส้น ขณะที่ ธีรศักดิ์ รับบทกองหน้าตัวพักบอล แต่ปัญหาใหญ่คือเมื่อเหลือ 10 คน หลังใบแดงของชานุกูล แดนกลางถูกเจ้าถิ่นไล่บี้จนถอยลงไปรับลึกมากเกินไป ทำให้ช่วงท้ายเกมแทบไม่มีจังหวะได้โต้กลับแบบมีคุณภาพ
เกมรุกของท่าเรือในช่วงตัวครบถือว่าทำได้ดี มีจังหวะชิ่งสวย ๆ หลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมพอ เมื่อเทียบกับบุรีรัมย์ที่แม้จะเจาะไม่เข้าในเกมโอเพ่นเพลย์ แต่ความกดดันต่อเนื่องก็ทำให้ได้จุดโทษทดเจ็บเป็นรางวัลของความพยายาม
📈 สถิติการแข่งขันโดยภาพรวม
แม้ตัวเลขจะไม่โผล่บนจอทุกค่า แต่จากภาพรวมในสนาม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าอย่างชัดเจน ทั้งการต่อบอลสั้นจากหลังขึ้นหน้า และการบุกทางริมเส้นที่สร้างโอกาสครอสเข้ากรอบเขตโทษหลายครั้ง ขณะที่ การท่าเรือ เอฟซี อาศัยเกมรับเป็นหลัก และรอโต้กลับจากจังหวะผิดพลาดของเจ้าถิ่น
จำนวนโอกาสยิงของบุรีรัมย์ดูเหนือกว่า โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังที่บีบให้ท่าเรือแพ็กแน่นหน้าประตู จน ฟาลเคสการ์ด ต้องออกแรงเซฟหลายครั้ง ฝั่งท่าเรือมีจังหวะลุ้นเน้น ๆ ไม่มากนัก และส่วนใหญ่เป็นช็อตยิงนอกกรอบ ผลงานด้านใบเหลือง-ใบแดงชี้ชัดว่าความกดดันอยู่ฝั่งทีมเยือนมากกว่า จนต้องตัดฟาวล์และถ่วงเวลาเป็นระยะ
🕰️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⏱️ 2′ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ส่งบอลเข้าประตูให้การท่าเรือ แต่ถูกจับล้ำหน้า หลัง VAR ยืนยันตามธงไลน์แมน
- ⏱️ 14′ ธีราทร บุญมาทัน โดนใบเหลืองจากจังหวะโต้เถียงผู้ตัดสิน
- ⏱️ 16′ เคนเน็ต ดูกอลล์ รับใบเหลืองจากการตัดเกมกลางสนาม
- ⏱️ 45+’ อเล็กซานเดร กามา กุนซือการท่าเรือ โดนใบเหลืองจากการประท้วงข้างสนาม
- ⏱️ 53′ บุรีรัมย์เปลี่ยนตัว ส่ง ปีเตอร์ ซูลจ์ ลงแทน ธีราทร เพิ่มมิติการวางบอล
- ⏱️ 56′ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ทำฟาวล์รุนแรง โดนใบเหลือง เพิ่มความดุเดือดกลางสนาม
- ⏱️ 64′ การท่าเรือเปลี่ยน ชานุกูล ก๋ารินทร์ ลงแทน ธีรศักดิ์ เผยพิมาย เพื่อช่วยปิดเกมกลางสนาม
- ⏱️ 73′ ชานุกูล ก๋ารินทร์ เข้าปะทะรุนแรง ถูกผู้ตัดสินให้ฟาวล์และเช็กเหตุการณ์ ก่อนแจกใบแดงโดยตรง ท่าเรือเหลือ 10 คน
- ⏱️ 77′ มาเธอุส ลินส์ ลงมาแทน วรชิต เพิ่มความสดแดนกลางทีมเยือน
- ⏱️ 85′ การท่าเรือเปลี่ยนสองคนรวด ส่ง ธนบูรณ์ เกษรัตน์ แทน กาก้า เมนเดส และ บรายัน เปเรอา แทน ลูคัส โตคันตินส์ พร้อมกับใบเหลืองของ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด จากการถ่วงเวลา
- ⏱️ 87′ พรรษา เหมวิบูลย์ รับใบเหลืองจากการโต้เถียงผู้ตัดสิน หลังเกมเริ่มตึงเครียด
- ⏱️ 90+1′ โกรัน เคาซิช ยิงจุดโทษเข้าไปไม่เหลือ ให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0
- ⏱️ 90+4′ ปีเตอร์ ซูลจ์ โดนใบเหลืองจากจังหวะประท้วง
- ⏱️ 90+8′ อัสนาวี มังกูอาลัม ทำฟาวล์หนัก โดนเหลืองที่สองเป็นใบแดง ท่าเรือเหลือ 9 คน
- ⏱️ 90+11′ ศศลักษณ์ ไหประโคน รับใบเหลืองจากการถ่วงเวลา และบุรีรัมย์ส่ง พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ลงมาเก็บเกมแทน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ก่อนจบเกม
⭐ Player of the match – โกรัน เคาซิช
บ้านกีฬาให้เสียงเชียร์ไปทางเดียวกับ Sofascore เมื่อโกรัน เคาซิช รับตำแหน่ง Player of the match แบบไร้ข้อกังขา มิดฟิลด์เซอร์เบียคุมจังหวะกลางสนามให้บุรีรัมย์ทั้งเกม ทั้งการเชื่อมบอลสั้น–ยาว ตัดบอลจังหวะสำคัญ และคอยเติมขึ้นหน้ากรอบเขตโทษ
ที่สำคัญที่สุดคือความเยือกเย็นในช่วงทดเจ็บนาที 90+1 เมื่อเจ้าตัวยืนรับหน้าที่ซัดจุดโทษเกมชี้ชะตา กดบอลเข้าไปอย่างมั่นใจ ไม่ให้ฟาลเคสการ์ดมีโอกาสเซฟ ส่งเสียงเฮทั้งช้างอารีนา พร้อมทำให้คะแนนเฉลี่ยในเกมนี้สูงที่สุดฝั่งเจ้าบ้าน
📌 สถานการณ์บนตารางคะแนน ไทยลีก 1
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลงเล่น 14 นัด มี 37 คะแนน จากผลงานชนะ 12 เสมอ 1 แพ้เพียงนัดเดียว ยิงได้ 37 เสีย 15 ผลงานหรูหราพร้อมฟอร์มห้าเกมหลังชนะรวด ยึดตำแหน่งจ่าฝูง ตารางคะแนน แบบแน่นหนึบ
ฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี ลงเล่นไปแล้ว 15 นัด มี 27 คะแนน จากชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 4 ลูกได้ 25 เสีย 19 แม้ยังรั้งรองจ่าฝูง แต่ถูกบุรีรัมย์ทิ้งห่างออกไปเป็น 10 แต้มเต็ม ทำให้ภารกิจลุ้นแย่งแชมป์ยากขึ้นทันตา โดยมีราชบุรี เอฟซี และแบงค็อก ยูไนเต็ด ไล่กดดันจากด้านหลังแบบหายใจรดต้นคอ
📅 ตารางบอล และโปรแกรมบอล นัดถัดไป
ในมุมมองของคนดู ตารางบอล แล้ว โปรแกรมช่วงปลายปีของทั้งสองทีมถือว่าโหดไม่แพ้กัน
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีคิวบุกเยือน สุโขทัย เอฟซี ในศึก Thai League 1 วันที่ 24 ธันวาคม เวลา 18.00 น. ก่อนหน้านั้นยังต้องเล่นบอลถ้วย Thai FA Cup เยือน คัสตอมส์ ยูไนเต็ด วันที่ 21 ธันวาคม เวลา 17.00 น. โปรแกรมแน่นแบบนี้ มาร์ค แจ็คสันต้องโรเตชันดี ๆ เพื่อรักษาฟอร์มจ่าฝูงให้ได้ต่อเนื่องในทุกถ้วย ถือเป็นบททดสอบสำคัญของแชมป์เก่า
ด้าน การท่าเรือ เอฟซี นัดถัดไปในลีกต้องพักไปก่อน แต่ยังมีภารกิจบอลถ้วยเช่นกัน เริ่มจาก Thai FA Cup เปิดแพท สเตเดียม รับมือ แบงค็อก ยูไนเต็ด วันที่ 21 ธันวาคม เวลา 19.00 น. ก่อนออกไปเยือน ชัยนาท ฮอร์นบิล ในศึก Thailand League Cup วันที่ 27 ธันวาคม เวลา 18.00 น. แฟนสิงห์เจ้าท่าคงอยากเห็นทีมรีเซ็ตฟอร์มและเก็บชัยเรียกความมั่นใจกลับมา เพราะตาม โปรแกรมบอล แล้ว เกมน็อกเอาต์แบบนี้ผิดพลาดไม่ได้เลย
📣 ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา
ใครพลาดเกมดราม่าท้ายเกมคู่นี้ ไม่ต้องกังวล บ้านกีฬาเก็บทุกช็อต ทุกใบเหลือง ใบแดง และทุกลูกยิงให้ครบเหมือนนั่งดูข้างสนาม แฟนบอลสายเช็กสกอร์อย่าลืมกดบันทึกหน้าเว็บของเราไว้ ทั้งผลสดทุกคู่จากลีกใหญ่–ลีกเล็ก อัปเดต บ้านผลบอล แบบเรียลไทม์ พร้อมบทวิเคราะห์สไตล์จัดจ้านและสรุปหลังเกมทุกนัดสำคัญ
อยากตามทุกจังหวะของฟุตบอลไทยและลีกดังทั่วโลก แวะมามันส์กับ บ้านกีฬา ได้ทุกวัน ไม่พลาดทั้งข่าวร้อนหน้าแรก ตารางการแข่งขัน และมุมมองคม ๆ จากสายบอลตัวจริง
