เส้นทางสุดดราม่าจากสระว่ายน้ำสู่โต๊ะสนุกเกอร์
นี่คือเรื่องราวแบบหนังกีฬาเต็มเรื่องของ อัลฟี่ เบอร์เดน นัก สนุกเกอร์ วัยเกือบ 49 ปี ที่ตอนเช้ายังเตรียมตัวลงสระว่ายน้ำ แต่ตอนกลางคืนกลับยืนชูโทรฟี่แชมป์รายการ 9Club Shoot Out พร้อมสถานะ “แชมป์แรงกิ้งครั้งแรกในชีวิต” หลังเริ่มเล่นอาชีพมาตั้งแต่ปี 1994
เบอร์เดนเพิ่งหลุดจากทัวร์อาชีพเมื่อจบฤดูกาลที่แล้ว และจบอันดับเพียงที่ 20 ในลิสต์ตัวสำรอง Q School ทำให้เจ้าตัวแทบไม่คิดว่าจะได้โอกาสลงแข่งในรายการใหญ่อีกในเร็วๆ นี้ แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปจาก “หนึ่งสายโทรศัพท์” เช้าวันพุธ เมื่อฝ่ายจัดการแข่งขันโทรมาจากสำนักงานที่บริสตอล แจ้งว่า อเล็กซ์ คลีนชอว์ ถอนตัว และมีที่ว่างให้เขาในสายการแข่งของรายการ 9Club Shoot Out ถ้าเดินทางจากลอนดอนไปแบล็คพูลทันช่วงบ่าย
จากคนที่กำลังจะลงสระ เบอร์เดนต้องเปลี่ยนโหมดเป็นนักล่าแชมป์ทันที เขารีบไปเอาคิวที่สโมสร แวะกลับบ้านหยิบกางเกงและรองเท้าทางการ ก่อนขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าไปแบล็คพูล ใช้เวลาไม่ถึงห้าชั่วโมงก็ถึงสนามแข่งทันเวลา และเริ่มต้นเส้นทางเทพนิยายลูกชิ่งของตัวเองในค่ำคืนนั้น
จากตัวสำรองสู่แชมป์แรงกิ้งในวัย 49 ปี
ในรายการที่แข่งแบบเฟรมเดียวรู้เรื่อง กติกาเร็ว โหด กดดัน และเต็มไปด้วยบรรยากาศแบบโชว์เอนเตอร์เทน เบอร์เดนเดินหน้าคว้าชัยได้ถึง 7 นัดติดต่อกัน จนกลายเป็นแชมป์รายการระดับ แรงกิ้งทัวร์ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เขาเข้ามาในวงการเมื่อ 30 ปีก่อน
ก่อนหน้านี้ผลงานดีที่สุดของเขาในระดับแรงกิ้งคือแค่รอบก่อนรองชนะเลิศเท่านั้น แต่ค่ำคืนที่แบล็คพูลทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เบอร์เดนกลายเป็นเพียง “สมัครเล่น” คนที่สองในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์รายการแรงกิ้งได้ ต่อจาก เจ้า ซินถง ที่เพิ่งครองแชมป์โลกในปีเดียวกัน
เงินรางวัลชนะเลิศ 50,000 ปอนด์ ไม่ใช่แค่ตัวเลขสวยบนเช็คเท่านั้น แต่ยังสำคัญมากต่อโอกาสในการกลับคืนทัวร์อาชีพผ่านอันดับสะสมหนึ่งปี และยังทำให้เขามีลุ้นตั๋วไปเล่นรายการใหญ่ระดับแชมป์ชนแชมป์ในปีถัดไปอีกด้วย
เกมชิงแชมป์เดือดกับสจวร์ต บิงแฮม
คู่ชิงชนะเลิศ เบอร์เดนดวลกับ สจวร์ต บิงแฮม อดีตแชมป์โลก ที่กำลังมองหาโทรฟี่แรกนับตั้งแต่คว้าแชมป์มาสเตอร์สเมื่อปี 2020 บรรยากาศในฮอลล์เต็มไปด้วยเสียงเชียร์และความกดดันของเกมเฟรมเดียว ซึ่งผิดพลาดนิดเดียวอาจจบเห่
บิงแฮมได้โอกาสก่อน เปิดฉากขึ้นนำด้วยเบรกเล็กๆ 6 แต้ม แต่จบลงด้วยการพลาดแดงระยะกลาง เปิดประตูให้เบอร์เดนเข้าโต๊ะ และไม่รอช้า รีบแทงเปิดแพ็กทันที แล้วเรียงแต้มต่อเนื่องกดเบรก 56 คะแนนอย่างเฉียบขาด ทำให้สถานการณ์พลิกกดดันไปอยู่ฝั่งอดีตแชมป์โลก

บิงแฮมยังมีจังหวะให้ลุ้นอีกครั้ง แต่ทำได้แค่แดงลูกเดียว ก่อนมาพลาดแทงน้ำเงินระยะยาวหลุดเป้า เท่ากับส่งโทรฟี่ให้คู่แข่งแบบทางตรง เสียงปรบมือดังขึ้นทั้งสนาม ก่อนเบอร์เดนจะกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะ ฉลองแชมป์สุดเหลือเชื่อในค่ำคืนที่เขาไม่มีวันลืม
คำพูดจากปากแชมป์ – เสียงจริงจากอัลฟี่ เบอร์เดน
“ผมแทบไม่เชื่อว่าตัวเองคว้าแชมป์ได้” เบอร์เดนกล่าว เขาเคยเป็นดาวรุ่งฟุตบอลของอาร์เซน่อลในระดับเยาวชน ก่อนต้องเลิกเล่นเพราะอาการบาดเจ็บเข่าหนัก แล้วหันมาเอาดีทางสนุกเกอร์แทน
“เช้าวันพุธผมกำลังจะไปว่ายน้ำ และมีแค่โทรศัพท์กับตัว เพราะทำกุญแจล็อกเกอร์ที่ยิมหาย ตอนกำลังจะเดินออกไปสระ ผมหยิบโทรศัพท์มาดูแล้วเห็นว่ามีสายที่ไม่ได้รับ พอโทรกลับไปถึงรู้ว่าผมได้สิทธิ์ลงแข่ง Shoot Out ผมรีบไปที่สโมสรสนุกเกอร์เอาคิว จากนั้นกลับบ้านไปหยิบกางเกงกับรองเท้า แล้วก็ขึ้นมอเตอร์เวย์ M1 ทันที”
“ตั้งแต่เริ่มรายการ ผมเล่นได้ดีทุกนัด ทุกอย่างเข้าทางไปหมด ตอนนี้ผมคือแชมป์รายการแรงกิ้งแล้ว และผมภูมิใจกับมันมาก หลังจากหลุดจากทัวร์เมื่อซีซั่นก่อน ผมเหมือนหลงทาง ไม่ค่อยมีแรงจูงใจจะไปเล่น Q Tour แถมบางงานไปแบบสภาพไม่พร้อมเพราะไม่ได้ซ้อมเลย จนสองสัปดาห์ก่อนผมไปแข่งที่บัลแกเรียพร้อมคิวใหม่ แล้วหลุดไปถึงรอบรองฯ ตอนนี้ผมหวังว่าแชมป์รายการนี้จะพาผมกลับสู่ทัวร์อาชีพได้”
“ผมเล่นอาชีพมานานมากแล้ว ผมขึ้นทัวร์ครั้งแรกตอนอายุ 17 ผมยังมีอะไรจะมอบให้วงการสนุกเกอร์อีกเยอะ ผมยังหิวความสำเร็จ รักในเกมนี้ และมีคนที่เชื่อมั่นในตัวผม ผมมีครอบครัวและเพื่อนที่ยอดเยี่ยม มีเมนเทอร์ที่ดีอย่างแพ็ตซี่ ฟาแกน เส้นทางอาชีพของผมไม่ง่ายเลย สนุกเกอร์เป็นกีฬาที่กดดันทางจิตใจมากๆ มีช่วงตกต่ำมากกว่าช่วงขึ้นสูง แต่ช่วงเวลานี้คือสิ่งที่ผมจะจดจำไปตลอด ผมแทบรอไม่ไหวที่จะได้เจอลูกๆ พรุ่งนี้ พวกเขาสนับสนุนผมมาตลอด แชมป์นี้ผมขอมอบให้พวกเขา”
ความหมายของโทรฟี่นี้ต่อเส้นทางอาชีพเบอร์เดน
ชัยชนะครั้งนี้ไม่ใช่แค่ “แชมป์หนึ่งรายการ” แต่มันคือการยืนยันว่า เบอร์เดนยังมีที่ยืนในระดับสูงสุดของวงการ เขาเพิ่งคว้าแชมป์ World Seniors เมื่อต้นปี แต่ครั้งนั้นหลายคนยังมองว่าเป็นเวทีของนักแข่งรุ่นใหญ่ที่ผ่านพีคไปแล้ว ทว่าการก้าวมาคว้าแชมป์แรงกิ้งเต็มรูปแบบในฐานะตัวสำรองที่ถูกเรียกตัวแบบฉุกละหุก บอกชัดเจนว่า เขายังมีไฟ ยังมีของ และยังพร้อมลุยในระดับท็อปทัวร์
ในฤดูกาลที่มีแชมป์แตกต่างกันถึงสิบคนจากสิบรายการ แสดงให้เห็นว่ายุคนี้ของสนุกเกอร์เต็มไปด้วยความสูสีและการผลัดกันขึ้นมาสร้างชื่อ เบอร์เดนจึงกลายเป็นอีกหนึ่งหน้าใหม่บนทำเนียบแชมป์ ที่แฟนๆ คงจดจำจากเส้นทางสุดดราม่าของเขาในปีนี้
ดราม่ารอบตัดเชือก – โบอิโก้พลาด pink, นพพลตกรอบ
ก่อนมาถึงเกมชิงชนะเลิศ รายการนี้ก็มีดราม่าเข้มข้นไม่แพ้กัน ในรอบรองชนะเลิศ สจวร์ต บิงแฮม ต้องออกแรงเหนื่อยกว่าจะผ่าน ยูเลียน โบอิโก้ ดาวรุ่งจากยูเครนที่ทำผลงานดีที่สุดในรายการแรงกิ้งของตัวเอง โบอิโก้ตามหลังอยู่ 44-35 เหลือเวลาเพียง 40 วินาที แต่มีโอกาสทองเมื่อเขาได้แทงชมพูลงหลุมกลาง หากเก็บสามไม้สุดท้ายได้ก็จะพลิกเข้าชิง แต่กลับพลาดให้แฟนๆ เสียดายกันทั้งฮอลล์
อีกฝั่งหนึ่ง เบอร์เดนเจองานหินจาก นพพล แสงคำของไทย ที่เล่นได้เหนียวและคมเช่นกัน แต่เบอร์เดนยังนิ่งพอจะกดเบรก 73 แต้ม ปิดจ๊อบเข้าชิงไปอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้เส้นทางสู่โทรฟี่ของเขาเต็มไปด้วยคู่แข่งคุณภาพทุกด่าน
Shoot Out – รายการที่เกิดมาเพื่อความมันส์และดราม่า
รายการ Shoot Out ถือเป็นทัวร์นาเมนต์ที่แฟนสนุกเกอร์ยุคใหม่ต้องรู้จัก เพราะเป็นรูปแบบที่แตกต่างจากรายการปกติอย่างชัดเจน แข่งแบบเฟรมเดียวตัดสิน มีเวลาจำกัดต่อเฟรม และมีช็อตคล็อกบีบให้ผู้เล่นต้องตัดสินใจเร็ว เกมเลยออกมาดุ เดือด แถมเต็มไปด้วยจังหวะหลุด ฟลุก และพลิกล็อกอยู่ตลอด ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนกำลังดูโชว์ผสมเกมกีฬาแบบครบเครื่อง
บรรยากาศในฮอลล์ Shoot Out ก็เป็นอีกไฮไลต์ที่ทำให้แฟนๆ ติดใจ ผู้ชมสามารถเชียร์ โห่ ร้อง ตบมือได้อย่างสนุก ต่างจากเกมแรงกิ้งทั่วไปที่เน้นความเงียบและโฟกัสสูงสุด ทำให้รายการนี้กลายเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์ที่ดึงแฟนหน้าใหม่เข้าสู่วงการสนุกเกอร์ได้ดีมาก โดยเฉพาะคนที่ชอบเกมเร็ว ตื่นเต้น และลุ้นแบบนาทีต่อนาที
มุมมอง บ้านกีฬา – เรื่องราวของคนที่ไม่ยอมแพ้
สำหรับสายตาแฟนกีฬาไทย เรื่องของอัลฟี่ เบอร์เดน คือภาพสะท้อนคลาสสิกของคำว่า “อย่าเพิ่งเลิกเชื่อในตัวเอง” เขาผ่านทั้งช่วงหลุดจากทัวร์ หมดไฟ ไม่ซ้อม ไปแข่งทั้งที่สภาพร่างกายไม่พร้อม แต่ยังเลือกจะลองอีกครั้ง เปลี่ยนคิวใหม่ ออกเดินทางไปแข่ง Q Tour ที่บัลแกเรีย จนค่อยๆ ได้ความมั่นใจกลับมา และสุดท้ายเมื่อโอกาสโทรมาหาในเช้าวันหนึ่ง เขาก็ไม่ลังเล รีบขับรถขึ้นเหนือไปแบล็คพูล แล้วปล่อยให้การเล่นบนโต๊ะเป็นคนตอบแทนทุกอย่าง
แชมป์ Shoot Out ครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่โทรฟี่และเงินรางวัล แต่คือรางวัลของความดื้อดึงในทางที่ถูกต้อง ความรักในเกมที่ไม่เคยจาง และแรงศรัทธาจากครอบครัว เพื่อน และคนรอบตัวที่ไม่เคยทิ้งกันไปไหน แฟนกีฬาอย่างเราๆ ดูแล้วก็อดอินไม่ได้ และคงเฝ้าดูต่อว่าการกลับมาครั้งนี้ของเบอร์เดน จะพาเขาไปไกลได้แค่ไหนในทัวร์อาชีพปีต่อๆ ไป
แฟนกีฬาและคอสนุกเกอร์ที่อยากตามทุกมุมเกมลูกสนุ้ก ทั้งข่าวใหญ่ ผลแข่งเดือด และเรื่องเล่าหลังโต๊ะ อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ สนุกเกอร์สดบ้านกีฬา

