ศึก “ไทยกัมพูชา” เดือดไม่พัก! อนุทินสวนทรัมป์ชัดๆ “ไม่ใช่อุบัติเหตุริมถนน” ไทยลั่นเดินหน้าปฏิบัติการจนกว่าภัยคุกคามจะหมดไป

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

เกิดอะไรขึ้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทำไมถึงปะทุอีกครั้ง

สถานการณ์ ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาร้อนแรงในช่วงวันที่ 12–13 ธันวาคม 2568 หลัง “ทรัมป์” โพสต์อ้างว่าไทย-กัมพูชาตกลง “หยุดยิง” และจะกลับเข้าสู่กรอบความร่วมมือ/ข้อตกลงร่วม (ถูกพูดถึงในเชิง “Joint Declaration”) แต่ฝั่งไทยยืนยันว่า ยังไม่มีดีลหยุดยิงที่ประกาศใช้ได้จริง เพราะเงื่อนไขพื้นฐานคือ “ต้องเกิดจากความพร้อมของทั้งสองฝ่าย” และต้องคุยกันบนโต๊ะทหาร-การทูต ไม่ใช่ประกาศลอยๆ ขณะยังปะทะกันอยู่

“ไม่ใช่อุบัติเหตุริมถนน” อนุทินโต้ทรัมป์ ประโยคเดียวแต่แรงสะเทือนทั้งภูมิภาค

ไฮไลต์ที่ทำให้ข่าวนี้ “เดือดกว่าเดิม” คือคำโต้กลับของ อนุทิน ชาญวีรกูล (สถานะนายกฯ/รักษาการในรายงานต่างประเทศ) ที่โพสต์ชัดเจนว่าเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด ไม่ใช่อุบัติเหตุริมถนน และไทยจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อไป จนกว่าจะมั่นใจว่า ไม่มีอันตรายหรือภัยคุกคาม ต่อแผ่นดินและประชาชน

นี่คือ “การสื่อสารต่อโลก” ว่าไทยมองเหตุการณ์นี้เป็น ประเด็นความมั่นคง ไม่ใช่ดราม่าความเข้าใจผิด และไม่ยอมให้กรอบคำว่า “accident” ลดทอนความรุนแรงของสถานการณ์ลง

สีหศักดิ์แถลงผิดหวังทรัมป์ ชี้ข้อมูลคลาดเคลื่อน-ย้ำหยุดยิงต้องพร้อมทั้งสองฝ่าย

ฝั่งกระทรวงการต่างประเทศ โดย สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ออกมาแถลงในโทน “ผิดหวัง” เพราะข้อความของทรัมป์กระทบความรู้สึกคนไทยและภาพความเป็นพันธมิตรเก่าแก่ในภูมิภาค พร้อมย้ำ 3 ประเด็นสำคัญ

  1. กรณีทุ่นระเบิด ไทยไม่เห็นว่าเป็น “อุบัติเหตุ” และมีข้อกังวลเรื่องการวางทุ่นระเบิดใหม่
  2. เรื่อง หยุดยิง ยังไม่เกิดขึ้นทันที ต้องผ่านการประเมินของทหารทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่คำประกาศฝ่ายเดียว
  3. ไทยไม่ขัดข้องต่อแนวคิดตรวจสอบด้วย ดาวเทียม แต่ขอให้ตรวจสอบ “ประเด็นทุ่นระเบิด” ควบคู่ไปด้วย

ภาคสนามตึงมือ: อาวุธหนัก-ความเสี่ยงพลเรือน-เหตุ BM-21 ที่ถูกอ้างถึง

รายงานข่าวหลายสำนักระบุการปะทะยังดำเนินต่อ แม้มีการพูดถึง “หยุดยิง” โดยมีการใช้อาวุธหนักและกล่าวอ้างเหตุโจมตีที่กระทบพื้นที่พลเรือน รวมถึงการพูดถึง BM-21 ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งรัฐบาลไทยและสื่อไทยบางส่วนรายงานในทิศทาง “ประณาม” และชี้ว่ากระทบประชาชน

ขณะเดียวกัน ความตึงเครียดยังลามไปบางพื้นที่ชายแดนด้านอื่น จนมีรายงานมาตรการด้านความมั่นคง เช่นการประกาศเคอร์ฟิวในบางจังหวัดชายแดน/ชายฝั่งในช่วงเหตุปะทะ

เกมการทูต: มาเลเซีย-อาเซียน เสนอทีมสังเกตการณ์ + ดาวเทียมสหรัฐฯ

อีกแกนที่น่าสนใจคือบทบาทของ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนปี 2025 ที่เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดปฏิบัติการ และเสนอแนวทางส่ง ทีมสังเกตการณ์อาเซียน ลงพื้นที่ พร้อมใช้ ข้อมูลดาวเทียมจากสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและการปฏิบัติตามข้อตกลง

นี่คือจุดที่ทำให้คำว่า “ไทยกัมพูชา” ไม่ใช่แค่เรื่องชายแดนสองประเทศ แต่กลายเป็นโจทย์ใหญ่ของ ความน่าเชื่อถือการไกล่เกลี่ยระดับภูมิภาค ว่าจะ “คุมเกมให้หยุดจริง” ได้แค่ไหน

ปมทุ่นระเบิดกับอนุสัญญาออตตาวา ทำไมไทยย้ำว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก

ประเด็นทุ่นระเบิดถูกยกขึ้นมาในมิติระหว่างประเทศ เพราะไปแตะ อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Ottawa Convention / Anti-Personnel Mine Ban Convention) ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศไทยเคยเผยแพร่ “การตอบสนอง/การดำเนินการ” ของไทยต่อเหตุทุ่นระเบิดที่เกี่ยวข้องกับกำลังพล พร้อมการสื่อสารต่อเวทีระหว่างประเทศ

พูดแบบบ้านกีฬาให้เห็นภาพ: ถ้าประเด็นนี้ “ถูกตีความเป็นอุบัติเหตุ” มันเท่ากับ หักมุมจากคดีความมั่นคง ให้กลายเป็นแค่เรื่องซวย ซึ่งไทยจึงเลือก “ย้ำให้หนัก” ว่าไม่ใช่แบบนั้น

ด่านปอยเปต-มนุษยธรรม และสงครามอีกมิติ: ออนไลน์สแกม

อีกด้านที่สังคมจับตาคือเรื่อง ด่านปอยเปต มีรายงานว่ามีคนไทยราว 6,000–7,000 คน ฝั่งกัมพูชาที่ต้องการกลับไทย ท่ามกลางข้อถกเถียงเรื่องการเปิด-ปิดด่านและหลักมนุษยธรรม

นอกจากนี้ ฝั่งไทยยังพูดถึงภัยคุกคามรูปแบบใหม่ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะ ออนไลน์สแกม/ค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่โยงกับพื้นที่ชายแดนมานาน และมักถูกหยิบขึ้นมาทุกครั้งที่ความสัมพันธ์ตึงตัว เพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยของประชาชนโดยตรง

ทำไมเรื่องนี้ “ยืดเยื้อเป็นทศวรรษ” ปมเขตแดน-ประวัติข้อพิพาท

ถ้าจะมองให้ครบแบบไม่หลงกระแสวันต่อวัน ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ความขัดแย้งที่เพิ่งเกิด แต่เป็นข้อพิพาทที่มี “ราก” ยาว โดยหนึ่งในสัญลักษณ์หลักคือพื้นที่รอบ ปราสาทพระวิหาร (Preah Vihear) ซึ่งเคยเข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ทั้งคำพิพากษาปี 1962 และคำวินิจฉัยตีความปี 2013

แปลเป็นภาษาคนอ่านข่าว: ตราบใดที่ “ความรู้สึกเรื่องอธิปไตย” ยังถูกปลุกขึ้นง่าย และแนวชายแดนบางช่วงยังเป็นพื้นที่เปราะบาง ความเสี่ยงการปะทุซ้ำก็ยังอยู่

สรุปแบบ บ้านกีฬา: บทนี้ยังไม่จบ เพราะ “คำว่าหยุดยิง” ต้องหยุดจริง

ภาพรวมล่าสุดคือ ไทยยืนยันจุดยืนว่าเหตุการณ์ไม่ใช่อุบัติเหตุ และยังไม่รับรองดีลหยุดยิงตามที่ถูกอ้าง พร้อมเดินหน้ามาตรการความมั่นคง ขณะที่อาเซียน/มาเลเซียพยายามดันกลไกสังเกตการณ์และดาวเทียมเข้ามาช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเด็นมนุษยธรรมอย่างปอยเปตกับปัญหาออนไลน์สแกมก็ยิ่งทำให้เรื่องนี้ “ใหญ่กว่าหน้าด่าน”

ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา