ไฮไลต์เหรียญทองประวัติศาสตร์ของจอมพลังไทย
ศึกยกเหล็กซีเกมส์ 33 ที่โรงยิมเนเซียม โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี เปิดฉากวันแรกก็ระอุทันที เมื่อ “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย จอมพลังทีมชาติไทยในรุ่น 60 กิโลกรัมชาย ระเบิดฟอร์มโหดคว้าเหรียญทอง พร้อมทุบ สถิติโลกท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ทะลุเพดาน 173 กิโลกรัม ส่งเสียงเฮลั่นยิม สร้างชื่อให้วงการ ยกน้ำหนักไทย แบบสุดขีด
ซีเกมส์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของเหรียญทอง แต่คือการยืนยันว่าจอมพลังไทยยังยืนหนึ่งของอาเซียน และพร้อมก้าวไปท้าชนระดับโลกอย่างเต็มตัว
รายงานผลการแข่งขันรุ่น 60 กก. ชาย ซีเกมส์ 33
ในการแข่งขันกีฬายกน้ำหนัก มหกรรมกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2568 รุ่น 60 กิโลกรัมชาย ที่ชลบุรี “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ลงสนามในฐานะเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ “ปารีส 2024” ความคาดหวังจึงไม่ใช่แค่เหรียญรางวัล แต่คือการโชว์ให้เห็นมาตรฐานของจอมพลังระดับโลกตัวจริง
ท่าสแนทช์ ธีรพงศ์ยกผ่านทั้ง 3 ครั้งแบบนิ่ง ๆ ไม่มีหลุด ทำสถิติอยู่ที่ 131 กิโลกรัม เรียกความมั่นใจและเสียงเชียร์จากแฟนกีฬาในสนามได้อย่างต่อเนื่อง ก่อนจะไปลุ้นไฮไลต์สำคัญในท่าถนัดอย่างคลีนแอนด์เจิร์ก
ช็อตคลีนแอนด์เจิร์ก 173 กก. ทุบสถิติโลกกลางซีเกมส์
จังหวะชี้ชะตาอยู่ที่ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ธีรพงศ์แบกความหวังทั้งจากทีมงาน สตาฟฟ์โค้ช และแฟนกีฬาชาวไทย เอาชนะแรงกดดันแล้วก้าวขึ้นไปยกได้อย่างเฉียบขาด เจ้าตัวกดน้ำหนัก 173 กิโลกรัมผ่านแบบหมดจด ทำลายสถิติโลกเดิมที่ 172 กิโลกรัมลงได้ต่อหน้ากองเชียร์ในไทยอย่างสะใจ
สถิตินี้ไม่เพียงแค่ทุบตัวเลขเดิม แต่ยังผลักดันให้น้ำหนักรวมของเขาพุ่งไปอยู่ที่ 304 กิโลกรัม ส่งให้ ทีมชาติไทย ผงาดคว้าเหรียญทองแรกในชนิดกีฬายกน้ำหนักของซีเกมส์หนนี้ได้สำเร็จ เป็นการเปิดหัวทัพจอมพลังไทยแบบสุดมันส์
คู่แข่งอินโด–เวียดนามยังไล่ทัน แต่หยุดฟ่างไม่อยู่
แม้ธีรพงศ์จะยืนเด่นบนโพเดียม แต่คู่แข่งก็ทำผลงานได้ไม่ธรรมดาเหมือนกัน เหรียญเงินตกเป็นของ ริคโก ซาปุตรา จากอินโดนีเซีย ทำสถิติน้ำหนักรวม 295 กิโลกรัม (สแนทช์ 132 กก., คลีนแอนด์เจิร์ก 163 กก.) ถือว่าไล่จี้แบบไม่ให้ไทยประมาท
ส่วนเหรียญทองแดงเป็นของ เดือง เค จากเวียดนาม ทำผลงานได้ 289 กิโลกรัม (สแนทช์ 125 กก., คลีนแอนด์เจิร์ก 164 กก.) แสดงให้เห็นว่าระดับของจอมพลังในอาเซียนขยับสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่วันนั้นคนที่ยืนสูงสุดบนโพเดียมยังเป็นนักยกเหล็กจากไทยอย่างเหนียวแน่น
เสียงจากเจ้าของเหรียญทอง หลังทุบสถิติโลก
หลังการแข่งขัน ธีรพงศ์ กล่าวว่า ตนตั้งใจฝึกซ้อมมาเพื่อคว้าเหรียญทองครั้งนี้ให้ได้ ดีใจที่ทำได้ตามเป้าหมาย ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์กที่ทำลายสถิติโลกตอนยกรู้สึกว่าเหล็กยังเบาอยู่คิดว่าน่าจะยกได้อีกประมาณ 175-176 กิโลกรัม หลังจากนี้จะกลับไปตั้งใจฝึกซ้อม เพื่อลุ้นเหรียญทองเอเชียนเเกมส์ ในปีหน้า ที่ประเทศญี่ปุ่น
คำพูดของเจ้าตัวสะท้อนชัดว่า ซีเกมส์คือแค่ด่านหนึ่งในเส้นทางอาชีพ จอมพลังไทยคนนี้มองไกลไปถึงเวทีเอเชียนเกมส์ และระดับโลกในอนาคต
พิธีมอบเหรียญ และบทบาทผู้สนับสนุนไทย
ในรุ่นนี้ได้รับเกียรติจาก พลตรีหญิง ท่านผู้หญิง อรอนงค์ ปิยนาฏวชิรพัทธ์ ประธานกรรมการที่ปรึกษาโครงการส่งเสริมการกีฬาเพื่อพัฒนาชาติไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานมอบเหรียญรางวัล ยิ่งทำให้บรรยากาศบนโพเดียมของธีรพงศ์เต็มไปด้วยความหมาย ทั้งในเชิงสัญลักษณ์ และในมุมของการต่อยอดวงการกีฬาไทยในระยะยาว
การมีโครงการสนับสนุนระดับชาติ ทำให้จอมพลังอย่างธีรพงศ์มีทั้งระบบการฝึกซ้อม ทีมงาน และทรัพยากรที่พร้อมจะผลักดันจากเวที ซีเกมส์ ไปสู่โอลิมปิกและรายการเมเจอร์อื่น ๆ ต่อไป
เหรียญทองและสถิติโลก ที่ส่งต่อแรงบันดาลใจให้วงการยกเหล็กไทย
ความสำเร็จของธีรพงศ์ในครั้งนี้ ไม่ได้หยุดอยู่แค่ตัวเขาเอง แต่ยังกลายเป็นเชื้อไฟให้เด็กรุ่นใหม่ที่ฝันอยากเป็นจอมพลังทีมชาติไทยได้เห็นภาพชัด ๆ ว่า การยกเหล็กสามารถพาไปไกลถึงเวทีโลกได้จริง ทั้งซีเกมส์, เอเชียนเกมส์ ไปจนถึงโอลิมปิก
ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในชาติที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานด้านยกน้ำหนัก เคยสร้างทั้งเหรียญโอลิมปิกและนักกีฬาระดับตำนานมาแล้ว การที่มีดาวรุ่งอย่างธีรพงศ์ก้าวขึ้นมาทุบ สถิติโลก ในบ้านตัวเอง ยิ่งตอกย้ำว่ารากฐานวงการยกเหล็กไทยยังแข็งแรง และมีโอกาสกลับมาครองความยิ่งใหญ่บนเวทีนานาชาติในระยะยาว หากยังได้รับการสนับสนุนที่จริงจังต่อเนื่อง
สำหรับแฟนกีฬาชาวไทย เหตุการณ์แบบนี้คือโมเมนต์ที่ควรถูกจดจำไม่ต่างจากเกมฟุตบอลนัดสำคัญ เพราะคือช่วงเวลาที่ธงไตรรงค์ถูกยกสูงสุด พร้อมเสียงชาติไทยและรอยยิ้มของคนทั้งประเทศ
ตามลุ้นก้าวต่อไปของธีรพงศ์ไปพร้อมบ้านกีฬา
จากเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีส 2024” มาสู่เหรียญทองซีเกมส์ 33 และสถิติโลกที่เพิ่งถูกจารึกในชลบุรี เส้นทางของ “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย ยังอีกไกล เป้าหมายต่อไปคือการลุ้นเหรียญทองเอเชียนเกมส์ที่ญี่ปุ่น และการรักษามาตรฐานระดับโลกให้ได้อย่างสม่ำเสมอ
แฟนกีฬาไทยเตรียมตัวเชียร์กันยาว ๆ เพราะทุกครั้งที่เขาขึ้นเวที ตัวเลขบนบาร์เบลไม่ได้หมายถึงแค่น้ำหนักเหล็ก แต่มันคือน้ำหนักของความหวังทั้งประเทศที่ฝากเอาไว้บนบ่า
ใครอยากตามทุกจังหวะความเคลื่อนไหวของวงการยกน้ำหนักไทย รวมถึงข่าวซีเกมส์ กีฬาเอเชียนเกมส์ และกีฬาระดับโลกแบบเข้มข้น จัดเต็มสไตล์สำนักข่าวสายกีฬา แวะมาติดตามได้ที่ บ้านกีฬา เราจะไม่ให้คุณพลาดทุกเหรียญสำคัญและทุกสถิติโลกที่นักกีฬาไทยสร้างขึ้นบนเวทีโลก
