สโคลส์ของขึ้น มองไม่เห็นเหตุผลที่เมนูถูกดอง
พอล สโคลส์ ตำนานมิดฟิลด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงวิจารณ์แบบไม่เกรงใจใคร หลังเห็นสโมสรเก่าปล่อยให้ รูเบน อโมริม จัดการอนาคตของ ค็อบบี้ เมนู ได้อย่างน่าผิดหวัง ทั้งที่เด็กปั้นรายนี้ถูกมองว่าเป็นเพชรเม็ดงามของทีม แต่กลับไม่ได้รับโอกาสลงสนามอย่างที่ควรจะเป็นในซีซั่นนี้
สโคลส์มองว่าการที่ เมนู ถูกลดบทบาท ทั้งที่ฟอร์มของทีมก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร กลายเป็นคำถามใหญ่ในหมู่แฟนบอลว่าเกิดอะไรขึ้นกับโครงสร้างการให้โอกาสดาวรุ่งของสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเสียงวิจารณ์เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ว่า แมนยู กำลังเสี่ยงปล่อยของดีหลุดมือไปแบบน่าเสียดาย
เมนู เด็กปั้นจากอะคาเดมี่หัวใจผีแดง
ค็อบบี้ เมนู ไม่ได้เป็นแค่แข้งหนุ่มธรรมดา แต่เขาเป็นเด็กที่เกิดในเขตเกรทเตอร์ แมนเชสเตอร์ โตมาจากระบบ อะคาเดมี่ ของสโมสรแบบเต็มตัว สวมเสื้อแดงลงเล่นมาตั้งแต่ระดับเยาวชน ผ่านการขัดเกลาจากโค้ชหลายรุ่น ก่อนก้าวขึ้นมาแจ้งเกิดในยุคของ เอริค เทน ฮาก
ช่วงเวลาภายใต้การทำทีมของ เทน ฮาก นั้น เมนู เคยถูกมองว่าเป็นหนึ่งในอนาคตของแผงมิดฟิลด์ แมนยู ลงเล่นด้วยความมั่นใจ เล่นได้ทั้งเกมรุกและเกมรับ จนแฟนบอลเชื่อว่านี่คืออีกหนึ่งเสาหลักระยะยาวที่ทีมสามารถฝากอนาคตเอาไว้ได้
แต่ทันทีที่อำนาจคุมทีมตกมาอยู่ในมือของ อโมริม ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ดาวรุ่งวัย 20 ปีรายนี้กลับแทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ แถมในลีกซีซั่นนี้ยังไม่ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงเลยแม้แต่นัดเดียว
อโมริมถูกจี้คำถาม ใช้เมนูผิดทางหรือไม่?
ด้วยความที่ผลงานของทีมไม่ได้อยู่ในระดับน่าประทับใจ แถมรูปเกมหลายแมตช์ยังเต็มไปด้วยความฝืดและไร้จินตนาการ ทำให้ สโคลส์ มองไม่เห็นเหตุผลว่าทำไม เมนู ถึงไม่ได้รับโอกาส
สโคลส์ ซึ่งเป็นอดีตลูกหม้อสายเลือดแท้ของ แมนยูไนเต็ด และเคยผ่านระบบเยาวชนแบบเดียวกันกับ เมนู เผยระหว่างจัดรายการร่วมกับ นิคกี้ บัตต์ ว่า
“รูเบน อโมริม เคยบอกว่า ค็อบบี้ เมนู มีศักยภาพในระดับเป็นตัวจริงได้ แต่ทุกนัดที่เขาได้เล่นใน พรีเมียร์ลีก มันเป็นตัวสำรองทั้งนั้น เรื่องแบบนี้มันทำให้ผมหัวเสียสุดๆ คือผมไม่ติดใจเลยนะถ้าเขาไม่ได้ลงเล่นแล้วทีมฟอร์มดี, เอาชนะได้ทุกนัด และครองบอลได้อยู่ตลอด แต่พวกเขาเล่นได้ห่วยแตกจะตายไป ค็อบบี้ เพิ่งมีอายุ 20 ปี แต่เขากลับไม่ได้รับโอกาสลงเล่น เขาคงจะย้ายทีมแน่ๆ ล่ะ”
คำพูดนี้สะท้อนชัดว่าในมุมของคนที่รักสโมสรและเคยเป็น “เด็กปั้นผีแดง” เช่นกัน สโคลส์มองว่าการจัดการของ อโมริม ไม่ได้ปกป้องทรัพย์สินสำคัญของทีมอย่าง เมนู เลยแม้แต่น้อย
สโคลส์เตือนสติ: ให้โอกาสไม่ต่อเนื่อง ผลงานย่อมดร็อป
สโคลส์ยังมองไปข้างหน้าด้วยโทนเสียงกึ่งประชดกึ่งเป็นห่วง โดยมองภาพออกว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ หากสถานการณ์ยังเป็นแบบเดิม
เขาชี้ว่าหลังจากเสียงวิจารณ์เริ่มดังขึ้น อโมริม อาจจะตัดสินใจส่ง เมนู ลงสนามเป็นตัวจริงสักนัดเพื่อ “แก้ตัว” แต่ก็มีโอกาสสูงที่เจ้าตัวจะเล่นไม่ออก เพราะนักเตะอายุน้อยจำเป็นต้องได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจและจังหวะเกมที่ลื่นไหล ไม่ใช่ถูกใช้งานแบบขาดๆ หายๆ แล้วคาดหวังให้ระเบิดฟอร์มทันที
สโคลส์ยังพูดถึงอีกจุดสำคัญว่า แม้ผู้จัดการทีมแต่ละคนจะมี “รสนิยม” ในการเลือกใช้นักเตะไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ เมนู เคยทำในเวทีใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการยิงประตูชัยในนัดชิง เอฟเอ คัพ หรือการลงเล่นครบทุกนัดในศึก ยูโร ล้วนเป็นหลักฐานชัดเจนว่าเขาไม่ใช่แข้งธรรมดาที่ควรถูกมองข้ามง่ายๆ
เมนูสร้างงานในสนามซ้อม แต่กลับถูกมองข้ามในเกมจริง
จุดที่แฟนบอลได้ฟังแล้วต้องสะอึก คือ สโคลส์ เชื่อว่า ในการซ้อมแต่ละวัน เมนู ทำผลงานได้ดีมากจนสร้างปัญหาให้กับ กาเซมีโร่ ได้แบบจริงจัง ทั้งในแง่การแย่งตำแหน่ง การอ่านเกม และความกระหายในการเล่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ควรจะถูกต่อยอดเป็นโอกาสในเกมแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม สโมสรกลับยอมปล่อยให้ อโมริม ใช้งานดาวรุ่งรายนี้ในแบบที่ทำลายความต่อเนื่องของการพัฒนา ทั้งที่เขาเป็นนักเตะที่เติบโตมาจากสายเลือด อะคาเดมี่ ของสโมสรเอง
ในมุมของ สโคลส์ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องแท็กติก แต่คือการบริหารจัดการทรัพยากรคนภายในทีมที่ผิดพลาด และอาจนำไปสู่การที่ เมนู ตัดสินใจย้ายออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดในอนาคตอันใกล้
บทเรียนใหญ่ของสโมสร: ดาวรุ่งต้องมากกว่าคำโปรโมต
หากมองในภาพกว้างสำหรับแฟนบอลชาวไทยที่ติดตาม พรีเมียร์ลีก และเชียร์ แมนยู มานาน จะเห็นว่าปัญหาเรื่องการให้โอกาสดาวรุ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ หลายครั้งสโมสรโปรโมตนักเตะจากอะคาเดมี่ขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ แต่เมื่อถึงเวลาจริงกลับไม่สร้าง “เส้นทางเติบโต” ที่ชัดเจนให้กับพวกเขา
สำหรับ เมนู กรณีนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของนักเตะคนเดียว แต่เป็นสัญญาณเตือนสำคัญต่อสโมสรว่า หากไม่บริหารจัดการอนาคตของเด็กปั้นอย่างระมัดระวัง ทีมอาจสูญเสียทั้งขวัญกำลังใจในห้องแต่งตัว และสูญเสียผู้เล่นที่สามารถเป็นแกนหลักให้ทีมในระยะยาวได้
ในยุคที่คู่แข่งใช้ดาวรุ่งอย่างชาญฉลาด ผสมผสานกับสตาร์ระดับโลก การดูแลทรัพยากรในมือให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเด็กปั้นหรือแข้งซื้อมาใหม่ คือสิ่งที่สโมสรระดับยักษ์ใหญ่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากยังอยากยืนอยู่ในแถวหน้าของยุโรป
แฟนผีต้องจับตา อนาคตเมนูและการตัดสินใจของอโมริม
ตอนนี้สิ่งที่ทุกสายตากำลังจับจ้องไม่ใช่แค่ฟอร์มของ แมนยู ในแต่ละนัดเท่านั้น แต่รวมถึงบทบาทของ ค็อบบี้ เมนู ภายใต้การคุมทีมของ อโมริม ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด
หาก อโมริม ยังยืนยันแนวทางเดิม ไม่ให้โอกาสอย่างเหมาะสมในจังหวะที่ทีมกำลังต้องการความสดใหม่ในแดนกลางจริงๆ ก็มีโอกาสอย่างมากที่เราจะได้เห็นข่าว เมนู ย้ายออกไปหาความท้าทายใหม่ และถ้าวันนั้นมาถึงจริง แฟนผีอาจต้องย้อนกลับมาคิดว่า สโมสรเสียของไปเพราะมองข้ามคุณค่าของ “เด็กปั้นตัวเอง” หรือไม่
บ้านกีฬา มองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ดราม่าข้ามวัน แต่เป็นประเด็นที่สะท้อนตัวตนของสโมสร ว่าจะเลือกเดินหน้าไปด้วยการปั้นอนาคตร่วมกับดาวรุ่ง หรือจะยอมปล่อยให้พวกเขาไปแจ้งเกิดกับทีมอื่นในยุโรปแทน
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ข่าวด่วน ดราม่ามันส์ๆ และมุมมองเข้มข้นแบบนี้ อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
