เวโรน่าปลดล็อกชัยแรกของฤดูกาล ท่ามกลางแรงกดดันถาโถม
เกมนี้ที่สตาดิโอ เบนเตโกดี้ คือแมตช์ที่เต็มไปด้วยความกดดันของ เวโรน่า เพราะก่อนลงสนามพวกเขาคือหนึ่งในสองทีมของ กัลโช่ เซเรีย อา ที่ยังไม่ชนะใคร ร่วมกับฟิออเรนติน่า สถานการณ์ในตารางคะแนนบีบให้ต้องเอาชนะให้ได้ ไม่อย่างนั้นอนาคตของทีมและอนาคตของ เปาโล ซาเน็ตติ บนเก้าอี้กุนซืออาจสั่นคลอนยิ่งกว่าที่ผ่านมา
แต่แทนที่จะยุบ เวโรน่ากลับเลือก “สู้” และตอบสนองแรงกดดันด้วยฟอร์มที่ดุดันที่สุดเกมหนึ่งของฤดูกาล ปิดจ๊อบด้วยการเปิดบ้านกด อตาลันต้า ทีมฟอร์มแรงไป 3-1 ปลดล็อกชัยชนะนัดแรก พร้อมขยับตัวเองหนีจากตำแหน่งทีมบ๊วยในลีก
รูปเกมร้อนแรง ยิงนำ 2-0 ก่อนปิดกล่องด้วยจังหวะโต้กลับ
เวโรน่าเริ่มเกมได้อย่างมั่นใจและบุกใส่ทีมเยือนแบบไม่เกรงใจ จังหวะเข้าทำชัดเจน ใช้โอกาสไม่เปลือง ผลคือครึ่งแรกนำ 2-0 จากการยิงของ ราฟิก เบลกาลี และ โจวาเน่ ทำให้บรรยากาศในสนามพลิกจากความอึดอัดกลายเป็นความหวังแบบเต็มกำลัง
ครึ่งหลังอตาลันต้าพยายามโหมบุกหวังทวงประตูคืน แต่ เวโรน่า อ่านเกมรับมือได้ดีรอจังหวะโต้กลับ จนมาถึงประตูที่สามจาก อองตวน แแบร์เนเด้ ในจังหวะสวนกลับสุดโกลาหล ขณะที่ฝั่งอตาลันต้ากำลังยกมือประท้วงหาบอลโดนมือในฝั่งเวโรน่าอยู่
ช่วงท้ายเกม จานลูก้า สคามักก้า ยิงจุดโทษตีไข่แตกให้อตาลันต้า หลังจากมีอีกหนึ่งจังหวะแฮนด์บอลของ อาร์แมล เบลล่า-ค็อตชัป แต่ก็ทำได้แค่นั้น จบเกม เวโรน่า 3-1 เก็บสามแต้มล้ำค่าได้สำเร็จ
ซาเน็ตติยกแข้งเวโรน่า “เล่นเกินร้อย” ใส่อตาลันต้าฟอร์มแรง
หลังเกม เปาโล ซาเน็ตติ ให้สัมภาษณ์กับ Sky Sport Italia ด้วยสีหน้าที่โล่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขายกเครดิตให้ลูกทีมเต็มๆ กับฟอร์มที่เล่นได้มากกว่ามาตรฐานเพื่อรับมือคู่แข่งคุณภาพสูงอย่างอตาลันต้า
“ฟอร์มการเล่นของเราคือเล่นเกินความคาดหวัง และจำเป็นต้องทำให้ได้แบบนี้เมื่อต้องเจอกับอตาลันต้าที่อยู่ในสภาพทีมยอดเยี่ยม”
เขายังเสริมว่าทีมไม่ได้เพิ่งเล่นดีนัดนี้นัดแรก แต่เกมนี้แตกต่างตรงที่พวกเขาคมพอจะเปลี่ยนโอกาสเป็นประตู
“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเล่นได้ดีแบบนี้ แต่ค่ำคืนนี้เราเฉียบขาดในการเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตู ผมรู้สึกว่าการตัดสินใจเลือกใช้งานนักเตะในเกมนี้ได้รับการตอบแทนจากพวกเขาอย่างแท้จริง”
สภาพทีมพิการ แดนกลางหายยกแผงแต่แท็กติกเอาอยู่
ชัยชนะครั้งนี้ยิ่งมีความหมายเมื่อเช็กชื่อผู้เล่นที่หายไปจากทีม เวโรน่า โดยเฉพาะในแดนกลาง โรแบร์โต้ กาญาร์ดินี่ ติดโทษแบน ขณะที่ โดมากอย บราดาริช, โทมัส ซุสลอฟ, ฌอง-ดานิเยล อัคปา อัคโปร และ ซูอัต เซอร์ดาร์ ต่างมีอาการบาดเจ็บลงช่วยทีมไม่ได้
ถึงขุมกำลังจะ “พรุน” แต่ซาเน็ตติเลือกให้โอกาสแข้งที่ไม่ค่อยได้เล่น และพวกเขาตอบแทนความไว้วางใจด้วยการวิ่งสู้ฟัดตลอด 90 นาที
“นี่เป็นค่ำคืนที่ยอดเยี่ยม และผมมีความสุขแทนพวกนักเตะที่ก่อนหน้านี้แทบไม่ได้ลงเล่น ผมรู้ว่าพวกเขาทำงานหนักแค่ไหน และกระหายแค่ไหนที่จะช่วยทีม สุดท้ายทุกคนรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว”
กุนซือเก้าอี้ร้อนรับตรงๆ เคยผ่านสถานการณ์นี้มาแล้วหลายครั้ง
ก่อนเกมนี้ สื่ออิตาลีรายงานต่อเนื่องว่าเก้าอี้ของซาเน็ตติ “สั่นแรง” และมีโอกาสถูกปลดหากผลงานไม่ดีขึ้น ตัวเขาเองก็ไม่ปฏิเสธกับสถานการณ์แบบนี้
“เรื่องแบบนี้เคยเกิดกับผมมาแล้ว 3-4 ครั้ง สโมสรแห่งนี้มีความคาดหวังสูง และแฟนบอลสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่าผลการแข่งขันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม พวกเขายังหนุนหลังเราตั้งแต่ต้นจนจบเกม และเราสร้างพลังงานที่ต่างออกไปในคืนนี้ เป้าหมายของผมคือช่วยทีม ผมไม่ได้สนใจสถานการณ์ส่วนตัว เราใช้เวลาหลายชั่วโมงทำความเข้าใจกันเองในทีม จนรู้ชัดว่าทัศนคติแบบไหนที่จำเป็นต้องใช้ในเกมนี้ ไม่อย่างนั้นเราคงโดนยำอีกแน่นอน มันคือฟอร์มที่ถ่อมตัว แต่อุกอาจ ดุดัน และเราเตรียมพร้อมทั้งสภาพร่างกาย แท็กติก และสภาพจิตใจมาอย่างดี”
คำพูดของเขาสะท้อนชัดว่า ซาเน็ตติยอมรับแรงกดดัน แต่เลือกโฟกัสไปที่การยกระดับทีมมากกว่ากังวลเรื่องอนาคตตัวเอง
อุ้มใจดาวรุ่ง Giovane หลังเคยผิดพลาดจนหลั่งน้ำตา
หนึ่งในภาพจำของแฟนบอลเวโรน่าช่วงหลัง คือช่วงเวลาที่ โจวาเน่ ดาวรุ่งบราซิเลียนเดินออกจากสนามพร้อมน้ำตา หลังทำผิดพลาดสำคัญในนัดก่อน จนมีส่วนให้ทีมเสียแต้ม
แต่นัดนี้เขากลับมายิงประตูสำคัญเป็นลูกที่สองของเกม ให้ทีมหนีห่าง 2-0 กลายเป็นจุดเปลี่ยนด้านสภาพจิตใจของทั้งตัวนักเตะและเพื่อนร่วมทีม
“มันเป็นสัปดาห์ที่ยากสำหรับเขา เขารู้สึกว่าตัวเองต้องรับผิดชอบ แต่เขาเป็นเด็กที่สุดยอดมาก แค่ต้องรู้สึกว่าทุกคนที่นี่คือครอบครัวของเขา”
การที่กุนซือออกมาพูดแบบนี้ต่อหน้าสื่อ ทำให้เห็นบรรยากาศภายในทีมที่พยายามปกป้องและพยุงกันขึ้นมา ไม่ปล่อยให้ความผิดพลาดครั้งเดียวทำลายนักเตะคนหนึ่งทิ้งไป
สามแต้มที่มากกว่าตัวเลขในตารางคะแนน
แม้สถานการณ์ของ เวโรน่า ยังไม่ปลอดภัย พวกเขามี 9 คะแนนจาก 14 นัด และยังอยู่ในโซนสองทีมท้ายตารางไม่ว่าผลคู่อื่นจะออกมาแบบไหน แต่นี่คือชัยชนะที่เรียกความมั่นใจและสร้างศรัทธากลับคืนมาได้ชัดเจน
การเอาชนะทีมอย่าง อตาลันต้า ซึ่งฟอร์มดีและเกมรุกจัดจ้าน ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกว่าทีมไม่ได้หมดลมหายใจ แค่ก่อนหน้านี้ขาด “จังหวะปิดสกอร์” กับความมั่นใจในช่วงสำคัญเท่านั้น
ในภาพรวมของบอลลีกยุโรป ทีมหนีตกชั้นหรือทีมฟอร์มรูดบ่อยครั้งไม่ได้แพ้เพราะคุณภาพนักเตะอย่างเดียว แต่แพ้เพราะขาดความมั่นใจ ขาดโมเมนตัม ชัยชนะนัดเดียวจึงเปลี่ยนได้ทั้งบรรยากาศในห้องแต่งตัว ทิศทางการซ้อม และพลังของแฟนบอลบนอัฒจันทร์ ถ้าเวโรน่าต่อยอดฟอร์มแบบนี้ได้เรื่อยๆ โอกาสหนีจากโซนอันตรายก็ยังเปิดกว้างเสมอในครึ่งหลังของฤดูกาล
ศึกชี้ทางฤดูกาลกับฟิออเรนติน่า และอัปเดตครบที่ บ้านกีฬา
โปรแกรมต่อไปของ เวโรน่า หนักไม่แพ้กัน เพราะต้องเจอกับฟิออเรนติน่า ซึ่งเป็นอีกทีมที่เคยถูกพูดถึงร่วมกันในฐานะสโมสรที่ยังไม่ชนะใครในลีก เกมนี้จึงอาจกลายเป็น “ทางแยก” สำคัญของซีซั่น ว่าจะเดินหน้าหนีตายหรือวนกลับไปเจอความกดดันเดิม
สำหรับแฟนบอลไทยที่ตามเชียร์กัลโช่ เซเรีย อา และอยากรู้ทุกพัฒนาการของเวโรน่าและทีมใหญ่ในอิตาลี รวมถึงประเด็นร้อนในยุโรปแบบเจาะลึก อย่าลืมติดตามบทวิเคราะห์ มุมมองเข้มข้น และข่าวบอลอัปเดตทุกวันได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
